สรุปสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศและการจัดทำแผนผลักดันการส่งออกเชิงรุกรายภูมิภาค
โดย: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
www.ditp.go.th
สถานการณ์การส่งออกในภาพรวมของไทยยังคงดีกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5 จากภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัว ตลอดจนราคาน้ำมันที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อมูลค่าสินค้าที่เกี่ยวเนื่องและกำลังซื้อของตลาดศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้น
เป้าตลาดหลัก คือ ตลาดในภูมิภาคอาเซียน 5 ประเทศ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 CLMV เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 จีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 ยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ฮ่องกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 อินเดีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 รัสเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 ทวีปออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 ทวีปตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ทวีปแอฟริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 และทวีปลาตินอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 อย่างไรก็ตามยังคงต้องเฝ้าติดตามผลกระทบจากนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าหลักของไทย ตลอดจนสถานการณ์อื่นๆ ที่สำคัญของโลก
ด้านสินค้าและการส่งออก
ในภาพรวมเรื่องโครงสร้างสินค้าส่งออก ขณะนี้ไทยควรจะต้องเร่งปรับโครงสร้าง ยกระดับสินค้าเน้นที่เป็นไทยแลนด์ 4.0 ให้มากขึ้น กลุ่มยานยนต์ควรจะต้องผันตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องภายใน 5 ปี จะต้องมีคลัสเตอร์สินค้าใหม่ๆ มาเป็นตัวผลักดันเพิ่มขึ้น สินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารควรใช้นวัตกรรมปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเน้นการผลิตแบบออร์แกนิกและยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวโน้มความต้องการของโลก ตลอดจนสินค้าที่เราแข่งต้นทุนแรงงานไม่ได้ให้ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิ่งทอ และวัสดุก่อสร้างที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
Thailand’s overall export this year has shown stronger growth compared to the same period last year. For this year, the Thai government has set to drive export target to 5 percent expansion, thanks to positive outlook on recovering global economy, and rising global oil price to drive up export value of many related products made from oil, while expected higher purchasing power in many emerging markets.
The government has set to promote export growth to each major targeted market as follows: to four major countries in ASEAN (Indonesia, Malaysia, the Philippines, and Singapore) to grow 4 percent, to CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar, and Vietnam) 6.4 percent, to the United States 3.2 percent, to Japan 4 percent, to the European Union 3 percent, to Hong Kong 4 percent, to India 4 percent, to Russia 15 percent, to Australia region 7 percent, to the Middle East 2 percent, to Africa region 2.5 percent, and to Latin America market 3 percent. However, Thailand still needs to closely monitored uncertainty trade policies of trading partner countries and other uncertainty global situation as it could affect international trading and the country’s export growth.
Export Products
On export product structure, Thailand should accelerate restructuring the export sector by upgrading export products in accordance with Thailand 4.0 policy, which has focused on technology and innovation based industries. In automobile and parts, the industry needs to shift to produce Electric Vehicles or EV, as well as other automobile parts with higher technology sophisticated within the next five years. Thailand should have new products clusters to encourage overall export growth. In processed agricultural and food industry, it should adopt new innovation for increasing products quality, as well as emphasise on organic productions and sustainability, which are the global’s trend at present. Moreover, some industries such as garment and construction that Thailand could not compete as rely largely on cost of labours, enterprises should move their investment and production based to neighbouring countries as part of strategy to reduce cost of production and increase export competitiveness.