Pre Show – FRUIT LOGISTICA 2018

FRUIT LOGISTICA Berlin – Fresh Business Opportunities
7-9 February 2018

Full article TH-EN

รู้ลึก รู้จริงแห่งอนาคตของธุรกิจผักและผลไม้สดไปกับงานแสดงสินค้า FRUIT LOGISTICA 2018
ค้นหาทางออกในการจัดจำหน่ายผักและผลไม้สดเมื่อร้านค้ากลายเป็นความจำเจไปเสียแล้ว

การสื่อสารแบบดิจิตอลได้ปฏิวัติวิธีการเสพข้อมูลของผู้คนไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเปลี่ยนวิธีการบริโภคผักและผลไม้ของเราด้วยเช่นกัน การเข้ามาของเทคโนโลยีนั้นรบกวนและเปลี่ยนสภาพจากที่เคยเป็นอยู่โดยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทานของการผลิตผลิตสด เนื่องจากวิธีการสื่อสารและการจัดจำหน่ายมีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น

วิทยากรด้านคอมพิวเตอร์อย่างปัญญาประดิษฐ์นี้อาจเข้ามามีบทบาทอย่างมากมายในกิจกรรมบางส่วนของการดำเนินธุรกิจของเรา เมื่อเดือนที่ผ่านมามีธุรกิจสตาร์ทอัพรายใหม่ “Farmstead” ในซานฟรานซิสโก ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าในไม่ช้าความก้าวหน้าแห่งเทคโนโลยีจะสร้างนวัตกรรมให้กับโมเดลหลักอย่างซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าด้วยการใช้ระบบการวิเคราะห์แบบอัตโนมัติ เพื่อบริหารจัดการธุรกิจการจัดส่งอาหารจากฟาร์มไปยังตู้แช่ตามร้านภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
FRUIT LOGISTICA 2018: Expert insight on the future of the fresh produce business
Where will fruit and vegetables be sold if stores become redundant?

Digital communication has already revolutionised the way we consume information, and now it’s changing the way we consume fruit and vegetables. By disrupting and changing the status quo, it’s provoking a remarkable transformation in all parts of the fresh produce supply chain as methods of communication and distribution become more sophisticated, complex and interconnected.

Artificial intelligence, for example, could render some of our most established business practices redundant. Farmstead, a new startup launched in San Francisco last month, says it will reinvent the supermarket model and bypass real stores by using automated, analytical technology to manage food delivery from farm to fridge within the space of an hour.

Post Show – Food Focus Thailand Roadmap # 41: Drinking Edition

10 November 2017 @ Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT

Full article TH-EN

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มนับเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มาแรง ดังจะเห็นได้จากมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรูปแบบใหม่ๆ ออกสู่ตลาดทั้งจากผู้เล่นหน้าใหม่และหน้าเก่า เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ในอุดมคติที่สามารถนำมาจับขัดสนิม แต่งตัวใหม่ และสร้างลูกเล่นได้อย่างหลากหลาย

จับตาทั่วโลก
จากข้อมูลยอดขายในเชิงปริมาณของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั่วโลก พบว่าในปี 2552 มียอดขายประมาณ 700 พันล้านลิตร และได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่าจะแตะยอด 1,000 พันล้านลิตรในปี 2561

จากข้อมูลของมินเทล (Mintel) พบว่า น้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตสูงสุด (+ ร้อยละ 14.85) รองลงมาเป็นเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาและเครื่องดื่มให้พลังงาน (+ ร้อยละ 13.64) เครื่องดื่มอัดก๊าซ (+ ร้อยละ 13.25) เครื่องดื่มร้อน (+ ร้อยละ 11.67) น้ำเปล่า (+ ร้อยละ 10.88) เป็นต้น และกลุ่มที่มีอัตราชะลอตัว เช่น ชาพร้อมดื่ม (- ร้อยละ 2.35)

การกล่าวอ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ร้อยละ 27.35) ปราศจากวัตถุเจือปนอาหารและสารกันบูด (ร้อยละ 15.63) ลด/ปราศจากน้ำตาล (ร้อยละ 11.10) ลด/ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ (ร้อยละ 10.78) เป็นต้น

ด้านกลิ่นและรสชาติที่มาแรง ได้แก่ ถั่ววนิลลา (+ ร้อยละ 600) เลมอน (+ ร้อยละ 500) ข้าวกล้อง (+ ร้อยละ 400) ข้าว (+ ร้อยละ 400) เป็นต้น

The beverage industry is on fire. Many new beverage products are launching into the market from both old and new players. Beverage product is “evergreen” and can be rusted away, redressed, and creative.

Global Trend
Quantitative sales data revealed that 700 billion liters of beverage was sold in 2009. The trend is on the rise, and expected to reach 1 trillion liters in 2018.

Data from Mintel found that juice gains the highest growth (+14.85%), followed by sports and energy drinks (+13.64%), carbonated soft drinks (+13.25%), hot beverages (+11.67%), and water (+10.88%). However, some drinks are in decline such as RTDs (-2.35%).

Popular claims are “eco-friendly package” (27.35%), “no additives and preservatives” (15.63%), “low/no/reduced sugar” (11.10%), and “low/no/reduced allergens” (10.78%).

Prevalent flavors and tastes are vanilla bean (+600%), lemon (+500%), brown rice (+400%), and rice (+400%), to name a few.

Penetrating Asia-Pacific Market
According to information from Mintel (Q4 of 2016 to 2017), hot beverages expanded the most (+12.22%), followed by juice (+7.91%), sports and energy drinks (+0.86%). On the other hand, some beverages faced decreasing popularity, for example, RTDs (-17.48%), alcoholic beverage (-16.45%), and carbonated soft drinks (-12.23%).

Meanwhile, claims that are most popular are “eco-friendly package” (23.91%), “no additives and preservatives” (18.00%), “halal” (15.05%), “vegetarian” (14.06%), “low/no/reduced sugar” (10.21%), for instance.

Favorite tastes and flavors are apricot (+800%), orange (+300%), grapefruit (+300%), root beer (+300%), mango (+300%), and cherry (+267%).

Meat Expo China 2017

เฉลิมฉลองความสำเร็จที่สถานที่แห่งใหม่
Refrigeration Industry Summit Forum 2017 เปิดพื้นที่การพูดคุยสำหรับธุรกิจ

Full article TH-EN

Meat Expo China 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา โดยมีบริษัท เมสเซอ แฟรงก์เฟิร์ต (เซียงไฮ้) จำกัด และ Circulation Industry Promotion Center (CIPC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของจีน ทีปิดฉากลงอย่างสวยงาม ทั้งนี้ยังจัดขึ้นพร้อมกับงาน China Food & Catering Expo (CFCE) ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ของรัฐบาลมณฑลหูหนานเป็นผู้สนับสนุนร่วมกันอีกด้วย ซึ่งงานทั้งสองงานนี้นับเวทีกลางระดับนานาชาติที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้รับศึกษาและชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี ทั้งในเรื่องของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอุตสาหกรรมการจัดเตรียมอาหารอย่างครบครันไปพร้อมๆ กัน

ตลอด 4 วันเต็มของงาน กับอีกกว่า 1,200 บริษัท จาก 14 ประเทศและภูมิภาคที่เข้าร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ราว 54,000 ตารางเมตร 2 เวทีกลางระดับนานาชาตินี้ได้ต้อนรับผู้เข้าชมมากถึง 31,806 คน รวมทั้งนักธุรกิจมืออาชีพจาก 41 ประเทศและภูมิภาค โดยบริษัทชั้นนำที่ร่วมจัดแสดงในงาน Meat Expo China ได้แก่ Changsha Shunfeng Refridgeration, Chuyinh, Dongguan Dachang, New Wellful, Shanghai Elemotion Technology, Shuanghui, Suzhou Huide Foodstuff Machinery Engineering, และ TRS group เป็นต้น

ริชาร์ด หลี่ ผู้จัดการทั่วไปจากบริษัท เมสเซอ แฟรงก์เฟิร์ต (เซียงไฮ้) จำกัด กล่าวว่า “ผมพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ และ การร่วมมือกับ CFCE ถือเป็นความสำเร็จ โดยงานนี้เป็นเหมือนประตูเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และอุตสาหกรรมการจัดเตรียมอาหารของจีนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในตลาดเนื้อสัตว์ในมณฑลหูหนานที่กำลังเติบโต ซึ่งเราได้จัดแสดงระบบการผลิตทั้งหมดทั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผู้เข้าชมงานไม่เพียงแต่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าจากเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้วย ผมเชื่อว่างานแสดงสินค้าครั้งนี้จะขยายขึ้นในอนาคตในฐานะกิจกรรมของอุตสาหกรรมชั้นนำ”

Meat Expo China 2017, organised by Messe Frankfurt (Shanghai) Co Ltd and Circulation Industry Promotion Center of Ministry of Commerce (CIPC), recently drew to a successful close. The fair was held in conjunction with the China Food & Catering Expo (CFCE), which is jointly supported by the Ministry of Commerce and the People’s Government of Hunan Province from 14 – 17 September 2017. The two events provided a one-stop sourcing platform for the meat, related products and catering industries.

During the four-day run, the two shows gathered 1,200 companies from 14 countries and regions. The exhibitors occupied 54,000 sqm of exhibition space and recorded 31,806 visits of professional buyers from 41 countries and regions. Exhibitors in Meat Expo China included Changsha Shunfeng Refrigeration, Chuying, Dongguan Dachang, New Wellful, Shanghai Elemotion Technology, Shuanghui, Suzhou Huide Foodstuff Machinery Engineering, TRS group, and more.

Mr Richard Li, General Manager of Messe Frankfurt (Shanghai) Co Ltd, was satisfied with the result: “The collaboration with CFCE was a success. The fair was a gateway to the Chinese meat and catering industry, especially in the burgeoning meat market of Hunan, showcasing the entire meat processing supply chain. Visitors not only could access to the meat products, but related technology too. I am convinced that the show will continue to grow as a leading industry event.”

Innovative Green Beverage Packaging

นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสิ่งแวดล้อม

Full article TH-EN

จากการเพิ่มขึ้นของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การใช้พลาสติกชีวภาพจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับ ขวดน้ำ Bio-PET เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมจากการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการรณรงค์การลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือการลดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ ซึ่งล้วนเป็นพลังงานที่ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ (Non-renewable resources) หนึ่งในทางเลือกในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนและเป็นที่รู้จักกันดี คือ การใช้พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) เพื่อทดแทนพลาสติกโภคภัณฑ์แบบเดิมที่มาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petroleum-based plastics)
กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารถือได้ว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่พลาสติกฐานชีวภาพได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงการประยุกต์ใช้พลาสติกชีวภาพกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งที่สัมผัสกับอาหารได้ เช่น ช้อน-ส้อม แก้วน้ำ ขวดน้ำ ถาดใส่อาหาร เป็นต้น

From increasing participation in breaking through environmental concerns, using bioplastic is an acceptable alternative today. Bio-PET bottle is another innovation from technology development to serve the global environmental sustainability.

Currently, consumer awareness of environmental issue continues to grow as seen from various campaigns for reducing carbon dioxide (CO2) emission or reducing consumption of natural gas and fossil fuel, which totally come from non-renewable resources. One of well-known alternatives to overcome the problem with sustainability is using bioplastics to replace general commodity plastics from petrochemical industry.

Transforming Useless Raw Material into Valuable Products

เนรมิตวัตถุดิบด้อยค่า…ให้เป็นสินค้ามีคุณค่า สมราคา

โดย: สหัส รัตนะโสภณชัย
Sahas Ratanasoponchai
Assistant Vice President: Hygiene Business
Betagro Group
sahas@betagro.com

Full article TH-EN

กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเรื่องของวัตถุดิบเหลือใช้ วัตถุดิบตกขนาดหรือข้อกำหนดหรือคุณภาพบางประการที่ไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ทำให้ต้องทิ้งและเสียเวลาคัดเกรดวัตถุดิบเหล่านี้ อีกทั้งยังทำให้มีโอกาสเป็นแหล่งปนเปื้อน เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในสินค้าแก่ผู้บริโภคมากขึ้น
การคัดแยกวัตถุดิบดังกล่าว อาจแยกได้ดังนี้
1. วัตถุดิบที่มีคุณภาพและข้อกำหนดเดิมทุกประการ แต่เหลือจากกระบวนการผลิต ซึ่งถือเป็นการสูญเสียอย่างมาก เศษวัตถุดิบนี้จึงยังมีคุณค่ามหาศาล เพียงแต่ว่าเราจะนำไปแปรรูปอย่างไร หลายโรงงานจึงนำไปทำเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่มมูลค่า โดยต้องมีการเสริมสารหรือกระบวนการผลิตอย่างอื่นลงไป เช่น การผลิตน้ำผลไม้ให้มีหลากหลายรสชาติ มีส่วนผสมของน้ำผลไม้หลากหลายชนิด แต่ยังคงคุณค่าไว้ครบถ้วนทุกประการ
2. วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แต่เป็นเศษที่ไม่ได้ขนาดตามข้อกำหนดบางประการ สามารถนำไปแปรรูปเป็นรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภค เช่น การแปรรูปเนื้อสดที่ไม่ได้ขนาด มารวมกันปั้นเป็นสินค้าใหม่ เช่น ลูกชิ้น หรือไส้กรอก เพื่อให้ได้สินค้ารูปแบบใหม่ตามใจผู้บริโภค แต่มีคุณค่าครบถ้วน
3. วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แต่เป็นส่วนที่ไม่ต้องการในกระบวนการผลิตนั้น การนำแนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่นจึงเป็นทางเลือกในการสร้างคุณค่าสินค้าใหม่ เช่น นำคางกุ้งมาแปรรูปเป็นสินค้าเฉพาะชนิด เฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือการแปรรูปไข่ขาวหลอดให้เป็นแบบเฉพาะกับกลุ่มลูกค้านักกีฬาที่ต้องการโปรตีน
4. วัตถุดิบที่ด้อยคุณภาพไม่ได้ตามข้อกำหนด ซึ่งสามารถแยกได้เป็น 2 ประเด็น คือ
4.1 วัตถุดิบด้อยคุณภาพ แต่ยังคงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ได้แก่ วัตถุดิบที่ไม่ได้ตามข้อกำหนดลูกค้า การคัดเกรดเพื่อนำไปแปรรูปให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น ลดความเข้มข้นลงในน้ำผลไม้ หรือการผลิตเป็นเนื้อไก่คาราเกะที่ยังคงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
4.2 วัตถุดิบด้อยคุณภาพ แต่ไม่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค สถานการณ์นี้แท้จริงแล้วคือ การต้องคัดทิ้ง ไม่สามารถนำมาใช้แปรรูปได้ เพราะจะเป็นความเสี่ยงเกินไป เช่น การพบเชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ แม่ว่าการใช้ความร้อนจะทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้ แต่ไม่มีใครทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการทำลายได้ไม่หมด หรือมีสารพิษจำพวกท็อกซินตกค้างอยู่ได้

One recurring problem facing most productions in large-scale factories is the problem concerning raw materials, whether it be the leftover raw materials, undersized materials or materials that don’t meet with customers’ requirements. These raw materials are not only a waste of money, but also a waste of extra screening time. Besides, they can also be sources of contamination that post risks on the products’ sanitation and safety.

These problematic raw materials can be classified as:

1. Raw materials leftover from production process that are still of good quality and specification. To throw away these valuable materials would be a huge waste of money, so many factories, by ways of adding other substances or further processes, turned them into new value-added products such as multi-flavored drinks with multiple fruit juices, with all the nutrition fully preserved.

2. Raw materials that are of good quality but not at the required or specified sizes. These raw materials can be processed differently and turned into new products that meet with customers’ or consumers’ demand, with all the nutritional values intact. For example, undersized meat of different kinds can be used to make meatballs or sausages.

3. Unwanted or unused parts of good-quality raw materials that are casted away from production process. New ideas were brought into developing new products that are different and distinctive, to be the new interesting alternatives for consumers. For example, shrimp chins were modified and processed into a new product for niche market, or egg white tube that was developed for the athlete consumer group that needs protein from egg whites.

4. Low-quality raw materials that are not up to the requirements can be categorized into 2 groups:
4.1 Low quality but safe. These raw materials are safe for consumers but are screened off for not meeting customers’ requirements. Additional sorting is needed to be done before these raw materials can be further processed into new products, e.g. a new, less-concentrated fruit juice or chicken karaage that is safe for the consumers.

4.2 Low quality and unsafe. These raw materials have to be discarded right away; no further use can be made of them, for hygiene and safety reasons. For example, raw materials that are found to contain microorganisms exceeding the standard level, though can be destroyed by heat may still carry some unknown harmful toxin.

Food Packaging Fraud for Food Industry

การปลอมบรรจุภัณฑ์อาหารในอุตสาหกรรมอาหาร

โดย: สมพงศ์ นิลมณี
Sompong Nilmanee
Food Product Manager
SGS (Thailand) Limited
Sompong.Nilmanee@sgs.com

Full article TH-EN

ในปัจจุบันนี้เราทราบกันดีว่าทั่วโลกมีความสนใจในเรื่องอาหารปลอมกันมากขึ้น เนื่องจากปัญหาการปลอมเนื้อม้าในผลิตภัณฑ์เนื้อวัว จึงส่งผลให้ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของโลกจำเป็นต้องตระหนักเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใสตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร

ดังนั้น สมาคมผู้ค้าปลีกจึงได้รวมกันเพื่อออกกฎระเบียบมาบังคับผู้ผลิตตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร กฎระเบียบที่ออกมานั้นได้ควบคุมผ่านข้อกำหนด GFSI โดยในปัจจุบัน GFSI ได้ประกาศเป็นฉบับที่ 7.1 เนื้อหาใจความสำคัญที่น่าสนใจ คือ การปลอมอาหาร รวมถึงการปลอมของบรรจุภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นต่อบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับอาหารทั้งทางตรงและทางอ้อม และความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งแรงจูงใจที่ก่อให้เกิดการปลอมนั้นอาจจะมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแข่งขันที่สูงขึ้น และการลดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม

ข้อกำหนดของ GFSI ได้ให้คำนิยามของการปลอมอาหารตาม GFSI Guidance Version 7.1 ไว้ว่า กิจกรรมต่างๆ ที่ตั้งใจกระทำ อันได้แก่ การแทนที่ การเติมสาร การปลอมแปลงหรือการบิดเบือนของอาหาร อาหารสัตว์ วัตถุดิบอาหาร วัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือบรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์ ฉลาก การให้ข้อมูลสินค้า หรือการกล่าวอ้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้น ในการประยุกต์เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานของ GFSI โรงงานที่ผลิตบรรจุภัณฑ์จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงและกำหนดมาตรการควบคุม

Today we know that there is a growing interest in food fraud worldwide due to the problem of beef substituted with horsemeat. As a result, major global retailers need to be aware of safety and transparency throughout the food supply chain.

Therefore, retailer association has combined to regulate manufacturers throughout the food supply chain. The rules governing the Global Food Safety Initiative (GFSI) are now controlled by the GFSI. GFSI had launched currently version 7.1. The interested main content is food fraud, including the fraud of food packaging and packaging materials. It focuses on packaging that is exposed to food both directly and indirectly and the integrity of the product affects the safety of consumers. The incentives for packaging fraud may be due to increased productivity, increased competition and reduced environmental problems.

Requirement of GFSI introduce definition of food fraud according to GFSI guidance version 7.1 is collective term encompassing the intentional substitution, addition, tampering or misrepresentation of food/feed, food/feed ingredients or food/feed packaging, labelling, product information or false or misleading statements made about a product for economic gain that could impact consumer health. Therefore, in order to comply with GFSI standards, the factory producing the packaging will need to have a risk assessment and control measures.

เทคโนโลยี Cavity Ring – Down Spectroscopy (CRDS) หาสิ่งเจือปนในน้ำมะพร้าว

โดย: รชตินทร์ สัมมาประสิทธิ์
Rachatin Summaprasit
Sales Engineering
Thai Unique Co., Ltd.
rachatin@thaiunique.com

Full article TH-EN

วิธีการตรวจสอบการเจือปนน้ำมะพร้าวด้วยน้ำตาลอ้อยหรือข้าวโพด (น้ำตาล C4) ซึ่งเป็นสารที่นิยมเจือปนในน้ำมะพร้าวเพื่อเพิ่มความหวานด้วย CRDS (Cavity Ring-Down Spectroscopy) เป็นเทคนิคล่าสุดที่มีข้อดีคือใช้เวลาน้อย ราคาถูก ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึง ไม่ต้องเตรียมตัวอย่างที่ยุ่งยาก เมื่อเทียบกับวิธีการเดิมในการวิเคราะห์หาการเจือปนน้ำตาลด้วยเทคนิค Isotope Ratio Mass Spectrometry (IRMS) ที่มีความแม่นยำและเที่ยงตรงสูงในการวิเคราะห์หาการเติมน้ำตาล C4 ในน้ำมะพร้าว โดยการวิเคราะห์หาค่าคาร์บอนไอโซโทป (δ13C) ซึ่งเป็นองค์ประกอบในน้ำมะพร้าว CRDS เป็นอีกหนึ่งเทคนิคของการวิเคราะห์หาการปลอมปนในธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่ม ผลการวัดด้วยเทคนิค CRDS สามารถแยกแยะความแตกต่างของน้ำมะพร้าวที่เจือปนด้วยน้ำตาล C4 ลงไปได้ 5% โดยมีความเที่ยงตรงและถูกต้อง อยู่ที่ ±0.3 ‰ (per mill)

CRDS คืออะไร
CRDS คือเทคโนโลยีการวิเคราะห์ทางเคมีที่ใช้หลักการดูดกลืนพลังงาน (absorption) ที่มีขนาดพอดี ซึ่งอยู่ในช่วงความถี่ของ NIR จะติดตามการเปิดปรากฎการณ์เรโซแนนซ์นี้โดยการวัดเวลาของพลังงานที่ลดลง ด้วยความไวสูงโดยเริ่มต้นจาก (น้ำมะพร้าว) โดยเผาตัวอย่างที่อุณหภูมิสูง เผาไหม้อย่างสมบูรณ์ พร้อมกำจัดก๊าซส่วนเกินออกไป เช่น O2, SO2 และ H2O ให้เหลือเฉพาะก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปริมาณโดยตรงของ C ที่มีอยู่ในน้ำมะพร้าว ผ่านเข้าไปใน Optical resonator cavity การวิเคราะห์ด้วยเทคนิค CRDS Analyzer โดยมีแสงเลเซอร์วิ่งผ่านก๊าซ CO2 ไปจนถึงจุด resonance frequency ลำแสงเลเซอร์จะถูกปิดการทำงาน จากนั้นเลเซอร์ก็ยังถูกสะท้อนด้วยกระจกอีก 3 ชุด สะท้อนไปมาเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร (100,000 รอบ) ในระหว่างนั้นค่าพลังงานเลเซอร์จะค่อยๆ ลดลงไปตามเวลา (หรือที่เรียกว่า Ring down) CO2 ที่ได้มาจากการเผาตัวอย่าง สามารถคำนวณค่าของ δ13C ดังรูปที่ 1 ก๊าซที่มีความเข้มข้นสูงกว่าม้วนตัวลดลงกว่า

In this note, we present the Combustion Module Cavity Ring-Down Spectroscopy (CM-CRDS) System as a low-cost, easy-to-use, accurate, and precise solution to identify the addition of C4 sugars (Adulteration), based on the carbon isotopic (δ13C) composition of the coconut water. It is easier to use and a significantly lower capital and total-ownership cost alternative to Isotope Ratio Mass Spectrometry (IRMS), and it produces results that are indistinguishable. The CM-CRDS system is simple to install, easy to operate, and does not require sample preparation. CM-CRDS is a powerful analytical platform in the food and beverage adulteration market. It can easily distinguish down to ~5% adulteration of coconut water by the addition of C4 sugars, with excellent precision (about ±0.3 per mil) and accuracy.

What is CRDS?
Nearly every small gas-phase molecule (e.g., CO2, H2O, H2S, NH3) has a unique near-infrared absorption spectrum. At sub-atmospheric pressure, this consists of a series of narrow, well-resolved, sharp lines, each at a characteristic wavelength. CRDS – Cavity Ring-Down Spectroscopy – avoids this sensitivity limitation by using an effective pathlength of many kilometers. It enables gases to be monitored in seconds or less at the parts per billion level, and some gases at the parts per trillion level. The beam from a single-frequency laser diode enters a cavity defined by two or more high reflectivity mirrors. The analyzers use a three-mirror cavity to support a continuous traveling light wave. This provides superior signal to noise compared to a two-mirror cavity that supports a standing wave. When the laser is on, the cavity quickly fills with circulating laser light. A fast photodetector senses the small amount of light leaking through one of the mirrors to produce a signal that is directly proportional to the intensity in the cavity.

Freeze Dried Technology Get to Know the Technology and Benefits of Freeze Drying

Freeze Dried Technology
ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีและประโยชน์ของการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง

โดย: นัทธมน ไชยธงรัตน์
Natthamon Chaithongrat
Client Manager/Food Division
British Standards Institution (BSI)
natthamon.chaithongrat@bsigroup.com

Full article TH-EN

เทคโนโลยีการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งภายใต้สุญญากาศ หรือ “ฟรีซดราย” (Freeze dried technology) หมายถึงการทำแห้ง (Dehydration) ด้วยการแช่เยือกแข็ง (Freezing) ทำให้น้ำเปลี่ยนสถานะเป็นผลึกน้ำแข็งก่อน แล้วจึงลดความดันเพื่อให้ผลึกน้ำแข็งระเหิด (Sublimation) เป็นไอ ด้วยการลดความดันให้ต่ำกว่าบรรยากาศปกติ ขณะควบคุมให้อุณหภูมิต่ำ (เท่ากับหรือต่ำกว่า 0 ๐C น้ำแข็งระเหิดที่ความดันเท่ากับ 4.7 มิลลิเมตรปรอทหรือต่ำกว่า)

ขั้นตอนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง
ขั้นตอนเบื้องต้นของการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งก็เหมือนกับการผลิตอาหารแห้งโดยทั่วไป เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม เช่น การล้าง การปอกเปลือก การลดขนาด จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนคือ
• การแช่เยือกแข็ง (Freezing) เป็นการลดอุณหภูมิของอาหารให้ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (Freezing point) เพื่อให้เกิดผลึกน้ำแข็ง (Ice crystal formation) อัตราเร็วของการแช่เยือกแข็ง (Freezing rate) ควรเป็นการแช่เยือกแข็งแบบเร็วเพื่อให้เกิดผลึกที่มีขนาดเล็ก โดยมีหลายวิธี เช่น การแช่เยือกแข็งแบบใช้ลมเย็นเป่า (Air blast freezing) การแช่เยือกแข็งแบบไครโอเจน (Cryogenic freezing) และการแช่เยือกแข็งแบบจุ่มในของเหลวเย็นจัด (Immersion freezing) เป็นต้น
• การทำแห้งขั้นต้น (Primary drying) เป็นการลดปริมาณน้ำ (Dehydration) ด้วยการระเหิดน้ำแข็งให้เป็นไอ โดยการลดความดันบรรยากาศเพื่อให้ผลึกน้ำแข็งที่อยู่ภายในเกิดการระเหิดเป็นไอออกไปจากผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ที่ระดับของสุญญากาศ (Vacuum) ต่ำกว่า 132 Pa และ 132 mPa ตามลำดับ จึงจะเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ การระเหิดของชั้นน้ำแข็ง (Ice layer) จะเริ่มจากชั้นน้ำแข็งบริเวณผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ระเหิดไปเป็นไอ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นชั้นแห้ง (Dry layer) จากนั้นเป็นการระเหิดของชั้นน้ำแข็งที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์ ระเหิดผ่านชั้นแห้งออกไปสู่ผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ ระยะเวลาการระเหิดขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง และโครงสร้างของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด
• การทำแห้งขั้นที่สอง (Secondary drying) เมื่อการทำแห้งขั้นต้นเสร็จสมบูรณ์น้ำแข็งจะละลายไปหมด และมีความชื้นที่หลงเหลืออยู่จึงต้องทำแห้งด้วยการเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น เพื่อดึงความชื้นที่เหลืออยู่ออกถึงระดับความชื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเก็บรักษา

• Lyophilisation or “freeze dried technology” means the dehydration, by freezing, to change water to solid phase, then apply sublimation process to transform water from solid phase to gas phase by decreasing surrounding pressure to lower than normal atmosphere while controlling low temperature (to be equal to 0 ๐C as ice sublimation at a pressure of 4.7 mmHg or less).

Lyophilisation Process
Initial process for freeze drying is similar to the production of any dried food. It starts with preparing the raw material to be in an appropriate condition such as washing, peeling, resizing, then proceed into the main process consisting of 3 steps;
• Freezing – this process reduces the food’s temperature to below freezing point to create ice crystal formation. In order to create small crystals, the freezing rate should be a rapid procedure, for example, air blast freezing, cryogenic freezing, and immersion freezing.
• Primary Drying – this dehydration process is done by sublimation and reducing environmental pressure at vacuum level below 132 Pa – 132 mPa, in order to reduce water from the product’s surface. The sublimation of ice layer starts from the surface, which makes this layer a “dry layer”. The following dehydration step is the sublimation of water (in solid state) inside the products. The sublimation time depends on the size, shape, and structure of the product.
• Secondary Drying – after the primary drying is completed, all ice should be sublimed. Nonetheless, there could be some moist remained in the product. Here, the temperature must be increased in order to remove the remained moist to a safe level for storage.

Enter the Potato Snack World of

รบกวนพูดถึงสถานการณ์ ความต้องการมันฝรั่งเกร็ดและมันฝรั่งผงในปัจจุบัน โดยเฉพาะใน SEA

Full article TH-EN

มันฝรั่งเกร็ด (Potato flakes) มันฝรั่งผง (Potato granules) และสตาร์ชมันฝรั่ง (Potato starch) ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวทั้งที่เป็นแบบขยายตัวได้ทันทีและแบบที่ต้องเอาไปให้ความร้อนอีกครั้งอย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์จากมันฝรั่งดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สามารถพองตัวได้ทั้งในสภาวะที่เย็นและร้อน

นอกจากช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสในด้านความกรอบ ความแน่นเนื้อ และอัตราการพองตัวที่ดีเยี่ยม กลุ่มผลิตภัณฑ์จากมันฝรั่งนั้นยังช่วยปรุงปรุงและเพิ่มเนื้อสัมผัสที่เบา นุ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ในขณะที่แป้งถั่วลันเตาจะให้เนื้อสัมผัสมีลักษณะที่แข็งกว่า และทำให้โครงสร้างของผลิตภัณฑ์มีความเป็นเนื้อเดียวกันที่น้อยกว่า
มากไปกว่านั้น ปัจจุบันยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบขนมมันฝรั่งแบบที่ขึ้นรูปเป็นแผ่น หรือแบบที่ใช้การอบมากขึ้น และล่าสุดก็ได้เห็นแป้งมันฝรั่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก1 เริ่มเข้ามามีบทบาทแล้วในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยว โดยมักจะพบการนำไปใช้กับขนมแบบที่ใช้การอบ

Today, a complete range for the production of snack-products by processing flakes, granules and starches (modified, pre-gelatinised and native starch) has now available and offered to the markets for both direct and indirect expanded snacks with potato flakes and potato granules as well as cook up and cold swelling starches. These natural ingredients increase crunchiness and firmness and yield excellent expansion, resulting in lighter and softer textures to the final product and creating the typical potato taste. Addition of pea starches results in snacks with harder textures and less homogeneous structures. Furthermore a sustain solutions for stack chips/sheeted snacks as well as baked snacks has also been developed. The latest innovations are clean label starches1 for the entire snack industry. The success story of clean label products continues with the new development of clean label starches1 for use in baked snacks.

Diet Therapy

โภชนบำบัด

โดย: Joe (M.Sc. Nutrition)
Dietitian

Full article TH-EN

โภชนบำบัด (Diet therapy) คือ วิธีการรับประทานที่แนะนำโดยแพทย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพดี โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมและปรับปรุงสุขภาพ โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ บางรายอาจรับประทานอาหารบำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรคเพียงชั่วคราว แต่ในบางรายอาจต้องรับประทานในระยะยาวกว่านั้นหรือตลอดไปเพื่อรักษาสุขภาพ แพทย์หรือนักกำหนดอาหารจะเป็นผู้ปรับสูตรอาหารโดยอาจมีการปรับเปลี่ยนสูตรอาหารในแต่ละช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับการตอบสนองและพัฒนาการด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล

ประเภทของอาหารบำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรค
อาหารที่ปราศจากกลูเตนเป็นตัวอย่างหนึ่งของการปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อรักษาสุขภาพ ผู้ที่แพ้กลูเตน คือ กลูเตนสามารถผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็กได้ ซึ่งจะคล้ายกับการแพ้นม ผู้แพ้กลูเตนอาจมีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ และท้องเสีย แต่ไม่มีการอักเสบของลำไส้อย่างรุนแรง และไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดจากอาการภูมิแพ้อาหารทั่วไป (Celiac disease) ดังนั้น ผู้ที่แพ้กลูเตนต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกลูเตนเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับลำไส้ อาหารบำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรคที่พบเห็นโดยทั่วไปมากที่สุด คือ อาหารสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเป็นอาหารที่จำกัดปริมาณน้ำตาลเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ควบคุมปริมาณเกลือเพื่อควบคุมความดันโลหิต อาหารที่ควบคุมไขมันอิ่มตัวเพื่อควบคุมคอเลสเทอรอล เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการพิจารณาปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้เหมาะสม

Diet therapy is a method of eating prescribed by a physician to improve health. A number of conditions are treated in part with therapeutic diets. Treatments involve including foods that improve specific health conditions, while avoiding foods that may make the condition worse. Some health conditions require temporary therapeutic diets. Other times a therapeutic diet may become a permanent change necessary to keep the person healthy. Medical doctors or dietitians normally formulate therapeutic diets. The diet may change over time based on the person’s response and improvement in health status.

Types of Therapeutic Diets
A gluten-free diet is an example of a dietary change that you must maintain to remain healthy. People with a gluten intolerance must avoid gluten-containing foods to prevent damage to their intestines. The diabetic diet is a very common therapeutic diet involving limiting high-sugar foods to help control blood sugar levels. Other therapeutic diets limit nutrients such as salt, to control blood pressure, or saturated fat, to manage cholesterol. These types of diets take some getting used to. You physician will work with you to gradually make the changes necessary.