Post Show – Food Focus Thailand Roadmap # 42: Functional F&B Edition 22 March 2018 @ Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT

กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

 

Full article TH-EN 

 

งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณอรสุรางค์ ธีระวัฒน์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วย Mr.Andrea Campanelli, Business Development Manager – Far East, Nutraceutical Division, Bionap S.r.l.Italy; Ms.Michelle Teodoro, Mintel’s Food Science and Nutrition Analyst; อาจารย์ฐนิต วินิจจะกูล นักกำหนดอาหารและผู้ช่วยอาจารย์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ทรรศวรรณ ทิพยวรการกูร อาจารย์ประจำและนักวิทยาศาสตร์อาหาร คณะเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และศาสตราจารย์ ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยา ภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมบรรยาย

 

แนวทางการพัฒนาสู่ อย. 4.0 การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ

จากการประชุมหารือผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 48 ครั้งในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ผลักดันให้เกิดการปฏิรูประบบการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพและระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศอย่างยั่งยืน จึงได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 77/2559 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ

 

สถานการณ์ด้านสุขภาพของทั่วโลก

ข้อมูลจากมินเทล ระบุว่าในปี 2560 ประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกประมาณร้อยละ 9 หรือ 425 ล้านคน เป็นโรคเบาหวาน และคาดว่ายอดตัวเลขนี้จะขยับขึ้นเป็นร้อยละ 10 หรือ 629 ล้านคน ภายในปี 2588

 

ในอนาคต แนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะของผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อระบบสมอง ดีต่อภาวะอารมณ์ และระบบการย่อยอาหาร นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างว่าเป็นแหล่งธรรมชาติของวิตามินและเกลือแร่ อย่างผักและผลไม้ โพรไบโอติก และเครื่องดื่มในรูปแบบหมัก (เช่น ชาหมัก (Kombucha) เครื่องดื่มน้ำส้มสายชู (Drinking vinegars) จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็จะยังคงมุ่งสู่ความเป็นธรรมชาติ เช่น การใช้ส่วนผสมอาหารของท้องถิ่นดั้งเดิม (Ancient ingredients)

 

 

This event was honored by Ms.Ornsurang Teerawat, Food and Drug Administration, Ministry of Public Health, associated with Mr.Andrea Campanelli, Business Development Manager – Far East, Nutraceutical Division, Bionap S.r.l.Italy; Ms.Michelle Teodoro, Mintel’s Food Science and Nutrition Analyst; Mr.Thanit Vinitchagoon, Dietitian, Institute of Nutrition, Mahidol University; Assistant Professor Dr.Chatrapa Hudthagosol, Department of Nutrition, Faculty of Public Health, Mahidol University; Dr.Tatsawan Tipvarakarnkoon, Lecturer and Food Technologist, School of Biotechnology, Assumption University; and Professor Dr.Sakamon Devahastin Na Ayudhya, Department of Food Engineering, Faculty of Engineering, King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT).

 

 

Thai FDA Optimizes Health Products Approval Process…Ready for Thai FDA 4.0

In January 2017-June 2017, the government, the private sector, including with the public sector has jointly 48 meeting to find the solution and drive Thailand 4.0. The Food and Drug Administration (FDA) thus proposes a countermeasure by soliciting the Head of The National Council for Peace and Order (NCPO) to issue, by virtue of the Article 44 of the Constitution of the Kingdom of Thailand (Interim) B.E.2557 (2014), NCPO Order No.77/2559, dated 27th December B.E.2559 (2016) Re: Health Products Approval Process, with an objective to accelerate the FDA approval procedure to meet established timeframe as stipulated by law – an effort that will encourage the reform, modernization, and optimization of health products approval process and consumer protection systems. Such initiative could be considered a reformatory attempt of the government regulations for the benefit of the people. A special emphasis shall be put on the sustainable creation of health product innovations through national researches and studies, thus enabling the public to access a wider array of standard and quality health products and resulting in higher number of health promotion alternatives.

 

Health Concerns Around the World

Refer to the Mintel’s data, it was found that around 425 million (approx. 9%) of the adult population worldwide had diabetes in 2017 and is expected to increase to 629 million (10%) by 2045.

 

In the future, interesting product concepts that are based on consumer’s specific need are notable in the market such as weight management, neuro nutrition, mood, and digestive health. Products claiming to be natural sources of vitamins and minerals such as fruits and vegetables, probiotics, and fermented beverages (i.e. kombucha, drinking vinegars) will be increasingly sought after by consumers. Naturalness is still an overriding trend that influences NPD. The

use of ancient ingredients gives products a shortcut to being perceived as natural.

Green Industry and Climate-friendly & Energy-efficient Cooling Products

ส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย…ผลิตภัณฑ์ทำความเย็นประสิทธิภาพพลังงานสูงและลดโลกร้อน

  

องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)

Deutsche Gesellschaft für

Internationale Zusammenarbeit (GIZ) GmbH 

 

Full article TH-EN 

 

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้เปิดเผยถึงกองทุน RAC NAMA ของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทำความเย็นประสิทธิภาพพลังงานสูงที่ใช้สารทำความเย็นธรรมชาติ

 

นายกฎชยุตม์ บริบูรณ์จตุพร รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า “สำหรับกองทุน RAC NAMA งบประมาณ 320 ล้านบาท หรือ 8.3 ล้านยูโร ที่จะส่งผ่านมายังประเทศไทยนั้น กฟผ. จะทำหน้าที่บริหารเงินทุนผ่านมาตรการจูงใจทางการเงิน เพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้สารทำความเย็นธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใน 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องทำน้ำเย็นและเครื่องปรับอากาศ”

 

“ทั้งนี้ เงินทุนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินอุดหนุน จำนวนราว 120 ล้านบาท จะใช้ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนสายการผลิต รวมทั้งสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการฝึกอบรมและทดสอบ และส่วนที่สองคือเงินทุนหมุนเวียน จำนวนราว 200 ล้านบาท จะใช้ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้ใช้กลุ่มครัวเรือนและผู้ใช้เชิงพาณิชย์ในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” นายกฎชยุตม์ กล่าวเพิ่มเติม

 

ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า “กองทุน RAC NAMA ถือเป็นมิติใหม่การดำเนินมาตรการทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Finance ของประเทศไทย และถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contribution; NDC) โดยมีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ภายในปี 2563 ที่ร้อยละ 20-25 จากกรณีปกติ ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change; UNFCCC) ความตกลงปารีสหรือ Paris Agreement นอกจากนี้ ยังเป็นกองทุนแรกของประเทศไทยที่ได้รับการสนับสนุนจาก NAMA Facility โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรร่วมกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี”

 

นายทิม มาเลอร์ ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่สำคัญของโลกในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น กองทุน RAC NAMA จึงมุ่งเน้นส่งเสริมเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูงและใช้สารทำความเย็นธรรมชาติที่มีค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ที่ต่ำมาก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสารทำความเย็นสังเคราะห์ทั่วไปถึง 100-1,000 เท่า นอกจากนี้การใช้สารทำความเย็นธรรมชาติดังกล่าวควบคู่ไปกับการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึงร้อยละ 5-25”

 

 

The Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT) and Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ) GmbH jointly organised the “Grand Opening Ceremony of the RAC NAMA Fund” to promote “Green Cooling Technologies” with high-energy efficiency and the use of natural refrigerants.

 

Mr.Kodshayut Boriboonchatuporn, Deputy Governor of Power Plant Development of EGAT, presented the key elements of the Fund, stating that “Thailand has received support in setting up the RAC NAMA Fund to a total value of approximately THB 320 million (EUR 8.3 million). On behalf of the Thai government, EGAT has taken responsibility for managing the Fund to promote the production and use of energy-efficient and climate-friendly cooling technologies. The four main products include domestic refrigerators, commercial refrigerators, chillers and air-conditioners.”

 

“The Fund has two components. The first, a ‘Sub-Grant scheme’ of approximately THB 120 million is designed to support production line conversion, testing equipment and training facilities. The second, the ‘Revolving Scheme’ of approximately THB 200 million will be utilised for market penetration, aiming to encourage both private households and commercial end-users, such as SMEs, to use green cooling products.” Mr.Kodshayut added.

 

Dr.Raweewan Bhuridej, Secretary-General, Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning (ONEP), emphasised the significance of the Fund from the policy perspective. “The RAC NAMA Fund is a new dimension in the development of Climate Finance in Thailand. It will help support Thailand in reaching its pledged Nationally Determined Contribution (NDC) targets under the UNFCCC framework and the Paris Agreement to mitigate 20-25% of GHG emissions by 2020. In addition, the RAC NAMA Fund is regarded as a pioneer climate-finance project in Thailand, funded by the NAMA Facility Fund, a joint initiative of the British and German governments.”

 

Mr.Tim Mahler, Country Director, GIZ Thailand and Malaysia said: “Thailand is among the top manufacturing locations in the global refrigeration and air-conditioning (RAC) sector. The RAC NAMA Fund will particularly support Thailand by promoting greener cooling products which contribute to the country’s energy efficiency targets, and help to reduce greenhouse gas emissions. Natural refrigerants are about 100-1,000 times more climate-friendly than widely used synthetic refrigerants. Moreover, using natural refrigerants with innovative RAC appliances could help to cut 5 to 25 % of energy costs.”

PROPAK ASIA 2018 Co-organises “PRINTECH ASIA” with the Italian Machine Manufacturer Association (ACIMGA)

กลับมาอีกครั้งกับงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์

 13-16 June 2018 @ BITEC, Thailand

  Full article TH-EN  

  

กว่า 25 ปี ของการจัดงาน โพรแพ็ค เอเชีย นับเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม กระบวนการผลิตยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงการบรรจุภัณฑ์ทั้งระบบ โดยในปี 2561 ประตูบานนี้ได้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อต้อนรับ 1,800 บริษัทผู้ร่วมจัดแสดงงาน และผู้เชี่ยวชาญกว่า 50,000 คน พร้อมพื้นที่จัดแสดงงานที่เพิ่มขึ้น และกว่าร้อยละ 90 ได้ถูกจับจองเต็มแล้ว ซึ่งงานโพรแพ็ค เอเชีย 2018 ได้ขยายพื้นที่การจัดงานสู่ฮอลล์ 9 ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC)

 

จากผลการตอบรับเป็นอย่างดีของผู้เข้าร่วมชมงาน โพรแพ็ค เอเชีย จึงได้มีการจัดโซนแสดงสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย โพรแพ็ค เอเชีย 2018 ขอแนะนำโซนจัดแสดงใหม่ Printech Asia ซึ่งเป็นโซนที่ 9  ของการจัดงาน โดยได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรม อิตาลี (ACIMGA) ผู้จัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ที่พร้อมจะผลักดันให้ Printech Asia เป็นการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมทั้งการแปรรูป การพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เทคโนโลยีการพิมพ์และการติดฉลากที่ครบวงจรที่สุดของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งโซนใหม่นี้จะจัดแสดงร่วมกับอีก 8 โซนของ โพรแพ็ค เอเชีย ซึ่งประกอบด้วย เทคโนโลยีการผลิตและแปรรูป  (ProcessingTechAsia) เทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ (PackagingTechAsia) เทคโนโลยีด้านเครื่องดื่ม (DrinkTechAsia) เทคโนโลยีด้านเภสัชกรรม (PharmaTechAsia) ห้องทดลองและการทดสอบ (Lab&TestAsia) บรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป (MaterialsAsia)  การใส่รหัสสินค้าการทำเครื่องหมายและฉลาก (Coding, Marking&LabellingAsia) และห่วงโซ่ความเย็นระบบโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Coldchain, Logistics&WarehousingAsia)

 

For over 25 years, ProPak Asia —Asia’s largest trade event servicing the entire food, drink, and pharma processing and packaging supply chain will open its doors again in 2018 to welcome an estimated 1,800 exhibiting companies and over 50,000 professionals. With increased participation and nearly 90% of the show floor sold, ProPak Asia 2018 has further expanded to include a 9th exhibition hall at the Bangkok International Trade and Exhibition Centre (BITEC).

 

From the positive attendee feedback regarding ProPak Asia’s “sectorized zones” – making sourcing between categories more efficient, ProPak Asia 2018 introduces its newest 9th zone “Printech Asia” which is a joint venture with The Italian Machine Manufacturer Association ACIMGA – organisers of the largest print technology trade fairs in Europe. Printech Asia is dedicated to covering the latest in converting, package printing, and labelling technologies and services across Asia. This new zone joins ProPak Asia’s existing eight zones which includes ProcessingTechAsia, PackagingTechAsia, DrinkTechAsia, PharmaTechAsia, Lab&TestAsia, MaterialsAsia, Coding, Marking&LabellingAsia and Coldchain, Logistics&WarehousingAsia.

The Signification of Allergen in Food Industry

ความสำคัญของสารก่อภูมิแพ้ในอุตสาหกรรมอาหาร

 

ภณิดา พิสัยสวัสดิ์

Panida Pisaisawat

Professional Service Specialist

3M Health Care, Food Safety

3M Thailand

ppisaisawat@mmm.com

 Full article TH-EN 

 

 

สารก่อภูมิแพ้เป็นปัญหากระทบกับการส่งออก กล่าวคือ เป็นสาเหตุที่สินค้าถูกเรียกคืนเป็นอันดับต้นๆ จากการที่ผู้ผลิตผลิตอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้เป็นส่วนประกอบแต่ไม่แสดงฉลาก ดังนั้น ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องทราบข้อกำหนดทางกฎหมายและบัญชีรายชื่อของสารก่อภูมิแพ้ของประเทศคู่ค้า

 

ในส่วนของการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ โรงงานผลิตอาหารโดยทั่วไปจะมีมาตรการการควบคุมแบบป้องกัน (Preventive control) ตามระบบคุณภาพต่างๆ เช่น GMPs HACCP และ FSMA เป็นต้น เพื่อจัดการและควบคุมสารก่อภูมิแพ้ในผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์อันตรายและความเสี่ยงร่วมกับมาตการต่างๆ

เช่น การแบ่งแยกสัดส่วนต่างๆ ของโรงงาน การกำหนดพื้นที่เฉพาะสำหรับสารก่อภูมิแพ้ โดยการตีเส้นล้อมรอบ ทำห้องแยกเฉพาะ กำหนดชั้นวางต่างหาก การแบ่งแยกอุปกรณ์/เครื่องมือที่ใช้ ลดการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือวัสดุ รวมถึงกำหนดพื้นที่เฉพาะสำหรับอาหารก่อภูมิแพ้ไม่ว่าวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จ เพื่อลดความเป็นไปได้ของการปนเปื้อนข้าม

 

หากไม่สามารถกั้นอุปกรณ์และพื้นที่เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อภูมิแพ้ได้ ควรมีการกำหนดแผนการผลิตที่ดี ลดโอกาสการปนเปื้อน โดยผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารก่อภูมิแพ้ก่อน แล้วค่อยผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อภูมิแพ้เป็นลำดับสุดท้าย หรือวางแผนการผลิตยาวๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อภูมิแพ้เพื่อให้ผลิตคราวเดียวมากๆ และทำความสะอาดครั้งใหญ่ทั้งหมดทีเดียว และในตารางการผลิตควรมีการกำหนดความถี่และวิธีการการทำความสะอาดที่เหมาะสมระหว่างการเปลี่ยนกระบวนการและควรมีการควบคุมรีเวิร์กด้วย

 

 

The danger of allergen is one of major reasons of product recall from exports since manufacturers produce food with allergen as ingredients but not show on label. Hence, the manufacturers is required to know the legal requirements and the list of allergens of the partner country.

 

In order to prevent the allergen, general food processing plants will have preventive control measure based on quality control systems such as GMPs, HACCP, and FSMA, etc. to manage and control allergens in the product, starting with hazard analysis and risk assessment and other measures. For instance, those are the separation of each division in the factory, the determination of specific areas for allergens by drawings the enclosed area, separate room, set up specific shelves, separation of equipment/tools, reduce the movement of goods or materials, as well as restrict specific areas for food allergen, including ingredients or finished products in an attempt to reduce the possibility of cross-contamination.

 

In case manufacturers cannot restrict the area dedicated to allergen products, they should have a well plan that can reduce the chance of contamination by producing products that are allergen-free, and then produce the product with allergen in the final procedure. Or else, manufacturers should draw a long-term plan for producing the product with allergen in large amount and clean up the area at once time. Also, along the production schedule, proper frequency and method of cleaning should be drawn during the transition procedure, while rework-in process should be controlled.

Pallet Handling and Dimensioning

การจัดการและวัดปริมาตรพาเลทสินค้าเพื่อประสิทธิภาพการขนส่งสูงสุด

 

บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จำกัด

Mettler-Toledo (Thailand) Limited

MT-TH.CustomerSupport@mt.com

Full article TH-EN 

 

บริษัทขนส่งส่วนใหญ่มักจะชั่งพาเลทสินค้าเพื่อคำนวณค่าขนส่ง ในขณะที่หลายๆ บริษัทก็เริ่มที่จะเพิ่มการวัดขนาดของพาเลทสินค้าและถ่ายรูปพาเลทเอาไว้ด้วย การเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของพาเลทสินค้า เหล่านี้ช่วยทำให้การจัดการด้านการขนส่งมีความแม่นยำมากขึ้นและใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด

  1. เริ่มด้วยการวัดชั่งน้ำหนักพื้นฐาน: ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่คุณไม่ควรจะชั่งน้ำหนักพาเลทสินค้า ในเมื่อคุณสามารถติดตั้งเครื่องชั่งน้ำหนักติดไว้ที่ตัวรถฟอร์ค-ลิฟต์ได้เลย กำไรจากการขนส่งจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการชั่งน้ำหนัก ตรวจสอบว่าค่าขนส่งที่เรียกเก็บจากลูกค้าถูกต้องและครบถ้วน (และช่วยตรวจสอบป้องกันไม่ให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอีกด้วย)

 

  1. คิดเงินจากการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม: หากคุณไม่วัดขนาดของพาเลท คุณอาจจะไม่ได้รับค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลเพื่อแลกกับพื้นที่ในการขนส่ง ผู้ให้บริการด้านการขนส่งสูญเสียค่าใช้จ่ายมากที่สุดในการขนส่งสินค้าที่ขนาดใหญ่และกินพื้นที่ ซึ่งการใช้พื้นที่ให้เหมาะสมนั้นเป็นการสร้างรายได้ที่ดี ไม่ว่าจะสำหรับบริษัทที่คิดค่าขนส่งจากน้ำหนักสินค้าอย่างเดียว หรือคิดรวมเป็นแพ็คเกจ การวัดขนาดของพาเลทยังสามารถนำไปปรับใช้ประกอบการคำนวณราคาค่าขนส่งแทนที่จะคิดตามน้ำหนักอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน

 

  1. คำนวณราคาได้อย่างเหมาะสม: การเปลี่ยนวิธีการคิดค่าขนส่งจากคิดตามน้ำหนักอย่างเดียวไปเป็นแบบการคำนวณราคาจากทั้งน้ำหนักและขนาดของสินค้า จะช่วยฝ่ายดำเนินการของคุณได้รับประโยชน์ในภาพรวม ตลอดจนเรียนรู้ที่จะเลือกชนิดของพาเลทที่ให้ผลตอบแทนคุ้มทุนมากที่สุดกับค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไป

 

 

Most transport companies weigh pallets for transport, while others dimension them or take a picture too. However, combining all these data sources takes pallet handling to a higher level of measurement accuracy and profitability.

 

  1. Start with weighing basics: There is no reason not to weigh when a scale can be installed on the forklift truck used to transport it. Profitable logistics starts with pallet weight to ensure you get paid properly (and do not overload your vehicles).

 

  1. Get paid for space: If you don’t dimension, chances are you are not getting paid properly for storage space. Transport providers lose the most money on big, bulky freight. Space creates huge revenue potential for companies that either charge by weight alone or have a set pallet price. Pallet dimensioning can be used for dimensional weight pricing and revenue recovery or density classification.

 

  1. Have the right pricing structure in place: A switch to dimensional weight pricing drives efficiency in packing and handling for environmental gains. Your operations department will benefit as a whole and quickly learn to identify the pallets that have the best potential for revenue recovery.

Frozen Food: Effects on Quality after Freezing Process

ข้อควรระวังในการเปลี่ยนแปลงของอาหารที่ผ่านการถนอมโดยการแช่แข็ง

 

กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN 

 

การถนอมอาหารโดยการแช่แข็งถือว่าเป็นการถนอมอาหารที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เนื่องจากเก็บอาหารไว้ได้นาน โดยที่ลักษณะจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก อย่างไรก็ตาม ในการแช่แข็งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอาหารได้ดังนี้

 

  1.  ความชื้นลดลง การลดลงของความชื้นเนื่องมาจากการระเหยน้ำจากผิวหน้าของเนื้อ ทำให้เกิดลักษณะไม่น่ารับประทาน เนื้อมีสีคล้ำ แห้ง กระด้าง และไม่มีรส

 

  1.  เกิดการเหม็นหืน การเหม็นหืนเกิดขึ้นจากการออกซิไดซ์ของไขมัน การใช้สารกันหืนในผลิตภัณฑ์เนื้อแช่แข็งยังไม่มีการยืนยันว่าได้ผลหรือไม่ ดังนั้น การปกปิดผิวหรือบรรจุหีบห่อที่ป้องกันการซึมผ่านของออกซิเจนก็ช่วยชะลอการเหม็นหืนได้

 

  1.  จุลินทรีย์ แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่เติบโตที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของน้ำ ยกเว้นยีสต์บางชนิด ซึ่งถ้าอาหารยังไม่แข็ง สามารถเติบโตได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 15 oF ปริมาณของจุลินทรีย์ที่ติดมากับอาหารมีผลต่ออายุการเก็บของอาหารนั้น หากปริมาณจุลินทรีย์ที่ติดมากับอาหารมีน้อย อาหารนั้นก็สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน

 

  1.  เอนไซม์ เอนไซม์ยังทำงานได้อย่างช้าๆ ที่อุณหภูมิของอาหารแช่แข็ง พบว่าเอนไซม์บางตัวสามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิต่ำถึง -100 oF ฉะนั้น หากจะควบคุมปฏิกิริยาของเอนไซม์จึงต้องใช้วิธีอื่นนอกเหนือไปจากการใช้ความเย็น

 

  1.  พยาธิ การแช่แข็งผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เป็นประโยชน์ในการทำลายพยาธิบางตัว ตัวที่ถูกทำลายได้ผลที่สุด คือ Trichinella spiralis ถ้าเก็บเนื้อหมูที่มีพยาธิตัวนี้ไว้ที่อุณหภูมิ 0 oF พยาธิจะตายหมด

 

  1.  คุณค่าทางโภชนาการ กระบวนการแช่แข็งไม่ทำให้สารอาหารสลายตัว อุณหภูมิยิ่งต่ำ สารอาหารยิ่งมีความคงตัว อาหารที่แช่แข็งสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการในขั้นเตรียมอาหารก่อนแช่แข็งเป็นส่วนใหญ่ การบรรจุหีบห่อช่วยป้องกันการสูญเสียสารอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะวิตามิน

 

การเก็บและการใช้อาหารแช่แข็ง

อุณหภูมิของตู้แช่แข็งมีผลต่อระยะเวลาที่เก็บอาหาร อุณหภูมิยิ่งต่ำก็ยิ่งช่วยให้เก็บอาหารได้นานขึ้น ในการแช่แข็งควรใช้อุณหภูมิต่ำกว่า -18 oC (0 oF)

 

 

เนื้อหาสรุปบทความ ภาษาอังกฤษ

Freezing is one of the best methods used in food preservation process allowing food to retain over a long period of time with a little change in its characteristics. Still, there may be significant changes during freezing or frozen storage by the following factors:

 

  1. Dehydration: Moisture migration is the principal physical change occurring in frozen foods caused the meat tissue undesirable appearance, discolored, parched, dry, and tasteless.

 

  1. Rancidity: Rancidity is resulting from lipid oxidation. An effectiveness of rancid antioxidants using in frozen meat products not as yet has been confirmed. Nevertheless, covering the skin or packing it in a closed container can prevent oxygen permeability that can slow down rancidity.

 

  1. Microorganism: Most bacteria do not grow at temperatures below the freezing point, except for certain type of yeasts, which can grow at temperatures below 15°F, if the food is not in a frozen phase. The amount of microorganisms’ presence in the food affects the shelf life of the food. The less microorganism the longer time the food can be stored.

 

  1. Enzyme: Enzymes can work slowly at the temperature of frozen food. Some enzymes can operate at temperatures as low as -100°F. Therefore, to control the reaction of the enzyme, different technique other than chilling must be applied.

 

  1. Parasites: Freezing can be useful for meat products in destroying certain parasites. This method is the most effective for Trichinella spiralis. They all will be killed, if the pork is kept at 0°F.

 

  1. Nutrition: The freezing process does not degrade nutrients. The lower the temperature the more stable the foods. Frozen foods lose their nutritional value mostly in pre-frozen food processing. Packaging helps to protect against the loss of many nutrients, especially vitamins.

 

Storage and the Use of Frozen Food

The temperature of the freezer affects the duration of food storage. The lower the temperature, the longer it will preserve the food. For freezing, temperatures should be set below -18°C (0°F).

Thailand: Trans-fat Free Country

ประเทศไทยปลอดไขมันทรานส์

 

 สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยหิดล 

Institute of Nutrition, Mahidol University 

Full article TH-EN 

 

กรดไขมันทรานส์ (Trans fatty acids; TFA) เป็นกรดไขมันที่พบได้ทั้งในธรรมชาติและจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม ไขมันทรานส์จากธรรมชาติพบในผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์เคี้ยวเอื้องหรือสัตว์สี่กระเพาะ เช่น นม เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ติดมัน) ซึ่งพบได้ในปริมาณที่ไม่สูงนัก ส่วนที่พบมาก ได้แก่ ไขมันทรานส์ที่ได้จากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils; PHOs) ลงไปในโมเลกุลของไขมันพืช ซึ่งกรดไขมันทรานส์ที่มาจากอาหารกลุ่มนี้มีส่วนในการก่อผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

 

สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ จะวะสิต อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องประเทศไทยปลอดไขมันทรานส์และคณะ พบว่ามีไขมันทรานส์ปนเปื้อนในอาหารและส่วนประกอบบางชนิดที่ผลิตและนำเข้าในประเทศไทย ซึ่งจากการสุ่มตัวอย่างอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารจำนวน 162 ตัวอย่าง พบว่าอาหารที่มีการปนเปื้อนไขมันทรานส์เป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ 1) มาการีน 2) โดนัททอด 3) พาย 4) พัฟและเพสตรี 5) เวเฟอร์ช็อกโกแลต เป็นต้น

 

รองศาสตราจารย์ ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อมูลว่า “การได้รับไขมันทรานส์แทนที่ไขมันชนิดอื่นๆ เพียงร้อยละ 1 ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL-Cholesterol) เพิ่มขึ้น แต่ระดับคอเลสเตอรอลดี (HDL-Cholesterol) ลดลง จึงจัดว่ามีอันตรายต่อสุขภาพมาก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ และองค์การอนามัยโลก แนะนำให้บริโภคไขมันทรานส์ได้ไม่เกินร้อยละ 1 ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมด คิดเป็นไขมันทรานส์ไม่เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือ ไม่เกิน 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค”

 

นอกจากนี้ นางสาวมยุรี ดิษย์เมธาโรจน์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า “เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงได้จัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย กำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน หรืออาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยคาดว่าประกาศจะมีผลใช้บังคับประมาณปี 2562 ซึ่งผู้ผลิตและนำเข้าน้ำมันและไขมัน และผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหาร น่าจะสามารถปรับปรุงสูตรได้ทัน เพราะปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ทดแทนเทคนิคการเติมไฮโดรเจนบางส่วนในน้ำมันแล้ว เช่น การผสมน้ำมัน (Oil-Blending) ซึ่งเป็นวิธีที่ต้นทุนไม่สูง”

  

Trans fatty acids (TFA) can be naturally found and also produced from industrial processes. Natural trans-fat is found at small amounts in products from ruminants such as milk and meat (especially fatty meat). Meanwhile, the industrial trans-fat is generated during the partial hydrogenation process of vegetable oil or so called partially hydrogenated oils (PHOs). Trans fatty acids have become the hot issue due to their negative impacts on human’s health especially Coronary Heart Disease (CHD).

 

 

Professor Dr.Visith Chavasit from the Institute of Nutrition, Mahidol University and his research team on Thailand: Transfat Free Country Project, found that certain locally produced and imported foods and ingredients in Thailand were contaminated with trans-fat. From the 162 samples of foods and ingredients, the most common items that were contaminated with trans-fat were: 1) margarine 2) fried donut 3) pie 4) puff and pastry and 5) chocolate wafer. Therefore, excessive consumption of these foods could lead to health problems, especially cardiovascular diseases.
 

Associate Professor Dr.Wantanee Kriengsinyos, Institute of Nutrition, Mahidol University, revealed that obtaining trans-fat instead of other fatty acids only 1% of total energy increased bad (LDL) cholesterol, but decreased good (HDL) cholesterol, suggesting that high TFA intake is associated with negative health outcomes. Therefore, Food and Agricultural Organization of the United Nations (FAO) and the World Health Organization (WHO) recommend to consume transfat not more than 1% of total energy intake, or less than 2.2 grams per day or less than 0.5 grams per serving.

 

Moreover, Ms.Mayuree Ditmetharoj, Representative from Thailand’s Food and Drug Administration, Ministry of Public Health, mentioned that “In order to protect consumers, Thai FDA has drafted the Notification of MOPH entitled “Prescribed Prohibited Food to be Produced, Imported or Sold” to designate the PHOs and food containing PHOs as prohibited food to be produced, imported or sold. It is expected that the notification will be effective in 2019. Such period is considered to be appropriate enough for the producers and importers to reformulate their products. In fact, new technologies, such as oil-blending, are available for them to reformulate and develop their products.

Importance of Hose Connection and Fitting Crimping for Food and Beverage Industry

ความสำคัญของข้อต่อและการย้ำหัวสายยางสำหรับงานอาหารและเครื่องดื่ม

 

จิตรภาณุ ศรีชัยสันติกุล

Jitpanu Srichaisantikul

Marketing Manager

Toyox Trading Thailand Co., Ltd.

jitpanu@toyoxthai.com

Full article TH-EN 

 

สายยาง คือ อุปกรณ์ที่มักจะพบเจอได้ในกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และมักจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว สายยางที่ใช้ในกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม มีความสำคัญอย่างมาก เพราะในหลายๆ กระบวนการผลิต เราจำเป็นจะต้องลำเลียงผลิตภัณฑ์ของเราผ่านสายยางเหล่านี้ หากเราใช้สายยางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่สายยางเกรดอาหาร ไม่ใช่สายยางที่มีมาตรฐานอาหารรองรับ ย่อมจะทำให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนตามมาได้ นอกจากที่เราจะต้องเลือกใช้สายยางที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว การเชื่อมต่อสายยางกับระบบท่อแข็งหรือเครื่องจักรก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหากเราเลือกใช้การเชื่อมต่อที่ไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน ข้อต่อมีช่องว่างที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และไม่สามารถล้างออกได้หมด ปัญหาการปนเปื้อนก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ข้อต่อสำหรับงานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสม มีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงดังนี้

 

  • วัสดุที่นำมาใช้ผลิตข้อต่อ ควรใช้วัสดุที่ไม่ก่อในเกิดการปนเปื้อน ไม่เป็นสนิม และทนทานต่อการล้างทำความสะอาด วัสดุที่นิยมนำมาผลิตข้อต่องานอาหารมักจะทำจากสเตนเลสในซีรีส์ 304 316 316L (L = Low carbon) เพราะมีความทนทานต่อการกัดกรอน และยากต่อการเกิดสนิม แต่ปัญหาใหญ่ๆ ของสเตนเลสเกรดเหล่านี้คือ ราคาสูง และผู้ใช้งานไม่มีความรู้ในการเลือกใช้ให้เหมาะสม
  • การออกแบบข้อต่อที่นำมาใช้กับงานอาหาร จำเป็นต้องออกแบบให้ภายในไม่มีร่อง ช่องว่างที่อาหารหรือเครื่องดื่มที่ลำเลียงผ่านจะไปตกค้างและล้างออกไม่หมด ข้อต่อที่เหมาะกับงานอาหารมักจะจะออกแบบให้ไม่มีเกลียวที่เล็กและยากต่อการทำความสะอาด

 

 

Hoses are equipment that we often use in food and beverage production line, but most of users do not give priority to them. We use hoses for many reasons. Transferring product or material from one to another process is one of them and very important to food and beverage factories, especially in terms of safety. If hoses are not suitable for your product, not food grade, or not food certified, they may cause contamination problems to products. Not only hoses are concerned but also fitting connectors which are used for connecting flexible hoses to machines or pipes are also critical. If food and beverage factories use improper, low standard, or unsanitary fitting that could have a gap between hose and fitting, the risk of it being a microbial accumulation spot could really be found. This also lead to a difficult and expensive cleaning needs, eventually.

 

To select proper fitting connectors for food and beverage production lines, following factors should be concerned:

 

  • Material: Fitting material for food and beverage lines should not cause contamination, or become corrosive. It should be easily washed and cleaned. Stainless 304, 316 or 316L (L for Low carbon) are mostly used to produce food grade fitting. However, pricing of stainless 304, 316 or 316L (L for Low carbon) fitting connector are likely more expensive that regular fitting connectors. Again, one of the popular issues found when selecting fitting connectors is that many users do not know how to select or match the proper fitting connector material to each objective

.

  • Design: Design of food grade fitting should have easy access for sanitary, avoid gap which might cause microbial collection, and be easy to clean. Food fitting design should not be threaded.

Mabuhay Philippines

สวัสดีฟิลิปปินส์

 

ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ

Paisan Maraprygsavan, Ph.D.

Director

Industrial and Service Trade Research Division

Trade Policy and Strategy Office

Ministry of Commerce

paisan711@gmail.com

 Full article TH-EN 

 

 

“สวัสดีฟิลิปปินส์” ตลาดที่น่าสนใจของไทยในอาเซียน ทุกวันนี้มีโอกาสที่น่าสนใจมากมายทั้งด้านการค้าและการลงทุนโดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจุบันอาเซียนเป็นเสมือน Extended nation ของไทย ในเชิงการค้าถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้ ด้วยเป็นอานิสงส์ของ AEC ส่งผลให้อาเซียนเป็นตลาดเดียว ทำให้สินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอาเซียนที่มีประชากร 600 ล้านคนได้สะดวกขึ้น จึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศของไทยปีงบประมาณ 2559 ที่มุ่งเน้นการเจาะตลาดเชิงกลยุทธ์ “Deepening ASEAN” ดังนี้

  1.  บุกตลาดเมืองใหม่ เน้นหัวเมืองหลักเพิ่มเติมจากเมืองหลวงและเจาะตลาดสินค้ากลุ่มเป้าหมาย (Segmentation)
  2.  เร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเพื่อเป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ (Trader) มุ่งเน้น SMEs ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมอย่างครบวงจร เน้นการเป็นพี่เลี้ยงทางธุรกิจ (Coaching) ตั้งแต่การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศและทักษะทางการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ การออกแบบและนวัตกรรม และการให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาเชิงลึก
  3.  สนับสนุนด้านการตลาดและพัฒนาช่องทางใหม่ๆ ในการสู่ตลาดต่างประเทศ อาทิ การค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและอีคอมเมิร์ซ

 

โอกาสสำหรับสินค้าและบริการของไทย

  1.  อาหาร/เครื่องดื่ม และข้าว เนื่องจากผลผลิตไม่พอเพียงสำหรับการบริโภคภายในประเทศ ด้วยประชากร 100 ล้านคน และการคุมกำเนิดที่ไร้ทิศทาง ประกอบกับภาคการเกษตรที่พัฒนาอย่างช้าๆ โอกาสของสินค้าในกลุ่มนี้ยังมีอีกมาก
  2.  ชิ้นส่วนยานยนต์ ต้นทุนการผลิตสูง ทำให้มีโรงงานผลิตรถยนต์น้อย อีกทั้งห่วงโซ่การผลิตก็ยังสั้นมากเมื่อเทียบกับไทย และถนนส่วนใหญ่ไม่ดี ทำให้รถยนต์เกิดการสึกหรอ ต้องเปลี่ยนอะไหล่และชิ้นส่วนบ่อย ส่วนในด้านผู้บริโภค คนชั้นกลางก็เติบโตอย่างรวดเร็วตามการขยายตัวของอุตสาหกรรม IT (BPO)
  3.  วัสดุ ก่อสร้าง/อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เนื่องจากมีการลงทุนเมกกะโปรเจคท์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้โครงการ “Build Build Build” มูลค่า 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ของรัฐบาล และการขยายตัวของสังคมเมืองตามการเติบโตของ IT (BPO)
  4. สปา เครื่องสำอาง/ผลิตภัณฑ์ความงาม เนื่องจากชนชั้นกลาง/วัยทำงาน มีรายได้สูงขึ้น ทั้งนี้ ควรขยายการค้าไปสู่เมืองรอง โดยเฉพาะเกาะทางใต้ อาทิ Cebu และหัวเมืองต่างๆ ที่มี BPO ตั้งอยู่ ซึ่งมีกำลังการซื้อสูงแต่สินค้าไทยยังขยายไปไม่ทั่วถึง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าเครื่องสำอางจากประเทศไทยครองตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ แต่ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ต่างชาติที่มาลงทุนในไทย จึงยังมีโอกาสอีกมากที่เครื่องสำอางแบรนด์ไทยแท้จะเข้าไปทำตลาด
  5.  ร้านอาหารไทย กำลังมาแรงในฟิลิปปินส์ เนื่องจากฟิลิปปินส์กำลังส่งเสริมการท่องเที่ยว และคนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อสูงขึ้น จึงนิยมอาหารที่แปลกใหม่และหลากหลายขึ้น ประกอบกับโรงแรม 5 ดาวบรรจุไว้ในเกณฑ์มาตรฐานว่าร้านอาหารไทยเป็นเกณฑ์หนึ่งที่ควรมีในโรงแรมของตน

 

เนื้อหาสรุปบทความ ภาษาอังกฤษ

“Mabuhay Philippines”. The Philippines is an interesting potential market in ASEAN for Thailand as commercial and investment opportunities abound, especially now that the country’s economy is continuously on the rise.

 

ASEAN is like an extended nation or, from a commercial point of view, a part of Thailand. Thanks to the AEC’s presence, the ASEAN countries are now merged into a single marketplace with over 600 million of population, thus making it easier for Thailand to introduce its products into the region. Consequently, Thailand formulated the 2016 international trade strategies focusing on the strategic market penetration campaign called “Deepening ASEAN” with the following strategies:

  1.  To enter new markets in other main cities, in addition to the capital, and to penetrate the markets of target groups.
  2.  To increase Thai entrepreneurs’ level of competitive ability and to turn them into new economic warriors (traders). Special emphasis is put on both central and regional SMEs with comprehensive support and training programmes such as coaching, which involves the enhancement of knowledge concerning international trade and marketing skills as well as the development of cluster products and services. Priorities are given to branding, designing, innovation, in-depth counselling and information services.
  3.  To provide marketing support and to develop new channels to enter overseas markets such as modern trade and e-commerce.

 

Opportunities for Thai Products and Services                                      

  1.  Food, Beverage and Rice: With population of over 100 million, uncoordinated birth control and sluggish development of the agricultural sector, the Philippines can barely provide enough goods and services to satisfy its domestic consumption. So, there is still plenty of room for these products from Thailand to grow in the Filipino market.
  2.  Auto Parts: Higher production cost in the Philippines prevents carmakers from building more factories. In addition, the production chain is relatively short when compared to Thailand’s. Most roads are of poor quality and cause untimely damage to cars, consequently leading to frequent changes of replacement parts. In terms of consumers, the middle class is rapidly expanding in response to the uptrend of IT (BPO) industry.
  3. Construction Materials and Furniture: There is an opportunity for Thailand to enter this market thanks to the Philippines government’s USD 180 billion infrastructure megaproject “Build Build Build” and the growing urbanization that follows the upturn of IT (BPO) sector.
  4.  Spa, Cosmetics and Beauty Products: Since the active middle class enjoys higher income level, the market expands accordingly. The market penetration should target secondary cities, especially those on Southern islands such as Cebu and other cities where BPO with high purchasing power is present and Thai products are not widespread. It is worth noting that although the cosmetics from Thailand rank first in the Filipino market and are known for its good quality, most of them belong to international brands with Thailand-based factories. Therefore, there are plenty of opportunities for real Thai brands to make its presence known in the market.
  5.  Thai Restaurants: Thai cuisine is currently a leading trend in this island nation since tourism industry is being heavily promoted, and young people of the new generation have higher purchasing power. New, exotic, and different food is thus becoming more popular. Additionally, having a Thai restaurant is also one of the necessary conditions that a hotel should have in order to fulfill the 5-star standard.