ซี.พี.เวียดนาม ต้อนรับกระทรวงอุตสาหกรรมและสื่อมวลชน เยี่ยมชมความสำเร็จตลอด 25 ปี

เวียดนาม, มิถุนายน 2561

นายสมชาย หาญหิรัญ (นั่งที่ 5 จากซ้าย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมปลัดกระทรวงฯ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ นำคณะสื่อมวลชนในกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ศึกษาดูงาน “ความก้าวหน้าและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและลงทุนของนักธุรกิจไทยในเวียดนาม” โอกาสนี้ได้เข้าเยี่ยมชมความสำเร็จของ บริษัท ซี.พี. เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น ในฐานะภาคเอกชนไทยที่ปักธงลงทุนในเวียดนามมากว่า 25 ปี ภายใต้ปรัชญา 3 ประโยชน์ คือ ประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ประโยชน์เพื่อประชาชน ประโยชน์เพื่อพนักงานและบริษัท โดยเฉพาะการดำเนินโครงการเพื่อสังคม (CSR) ที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวเวียดนามมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยมีนายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี (นั่งที่ 5 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ สำนักงานใหญ่ ซี.พี.เวียดนาม เมืองเบียนหว่า จังหวัดด่องนาย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

มิชลิน ประกาศเพิ่มข้อมูลร้านอาหารและที่พักในภูเก็ตและพังงาใน “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2562

ภูเก็ต, มิถุนายน 2561

 

นายเสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยาม มิชลิน จำกัด และเลขาธิการ มิชลิน เอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย (ที่ 4 จากซ้าย) และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) (ที่ 3 จากซ้าย) ประกาศเพิ่มข้อมูลร้านอาหารและที่พักในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาใน “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2562 เพื่อให้นักเดินทางสามารถเติมเต็มประสบการณ์แห่งมื้ออาหารและการพักผ่อนชั้นเลิศใน 3 เมืองท่องเที่ยวหลักของไทยได้อย่างครบครันด้วยคู่มือเพียงเล่มเดียว โดยมี กาแอล แวน ยู รองประธาน มิชลิน เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย (ที่ 5 จากซ้าย) นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายสุรชัย ชินโสภณพันธ์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดพังงา ร่วมงานแถลงข่าว ณ โรงแรมเมมโมรี แอท ออนออน จังหวัดภูเก็ต เมื่อเร็วๆ นี้

 

ทั้งนี้ คู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา ประจำปี 2562 มีเนื้อหา 2 ภาษา (ไทยและอังกฤษ) โดยมีให้เลือกทั้งฉบับพิมพ์เป็นเล่มและรูปแบบดิจิทัล คลิกอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ที่ guide.michelin.com/th/bangkok หรือติดตามข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพังงา’ ได้ทาง Facebook.com/MichelinGuideThailand หรือ #MichelinGuideThailand และ #MichelinGuideBangkok

 

 

เดินหน้าหนุนเครือข่ายมะพร้าวและกล้วย ปลื้ม SMEs ทั่วประเทศตอบรับดี

หนองคาย, พฤษภาคม 2561

 

สสว. และสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าโครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ปี 2561  ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าวและกล้วย เผยเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวและกล้วย ผู้ประกอบการภาคการผลิตและแปรรูปทั่วประเทศตอบรับดี ขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยจัดประชุมภาคีเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคต่างๆ ประเดิมภาคอีสานที่จังหวัดหนองคายเป็นแห่งแรก พร้อมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเตรียมจัดประชุมกลุ่มในหลายพื้นที่ อบรมพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจหลายหลักสูตร เตรียมความพร้อมสู่การรวมกลุ่มเครือข่ายให้ครบตามเป้าหมายภายในเดือนมิถุนายนนี้

 

นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เผยความคืบหน้าการดำเนินการโครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ปี 2561 ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าวและกล้วย ตามที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (สสว.) ว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 2,300 ราย เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม 17 เครือข่ายตามเป้าหมาย แบ่งเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมะพร้าว 1,350 ราย จำนวน 10 กลุ่มเครือข่าย และอุตสาหกรรมกล้วย 950 ราย จำนวน 7 กลุ่มเครือข่าย ได้จัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปประชุมกลุ่ม จัดอบรมพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานกระบวนการผลิตและแผนการตลาด สนับสนุนการขายผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ และส่งเสริมการตลาดออฟไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จัดทำแผนพัฒนาระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ให้คำปรึกษาด้านการพัฒนากระบวนการผลิตมาตรฐานสินค้า นำสินค้าตรวจวิเคราะห์ห้องแล็บ และสนับสนุนสินค้าต้นแบบเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ โดยทยอยดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายแบ่งเป็นอุตสาหกรรมมะพร้าว 18 จังหวัด จำนวน 10 กลุ่มเครือข่าย ได้แก่ หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด นครสวรรค์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ นครปฐม สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และราชบุรี สำหรับอุตสาหกรรมกล้วยมีพื้นที่เป้าหมาย 14 จังหวัด จำนวน 7 กลุ่มเครือข่าย ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น เพชรบุรี ชุมพร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ยะลา ตาก นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิษณุโลก ปทุมธานี และนนทบุรี พร้อมคัดเลือกผู้ประสานงานเครือข่าย (Cluster Development Agent; CDA) รวมไม่น้อยกว่า 51 คน เพื่อจัดทำแผนพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์ทั้งระยะสั้น (1 ปี) ระยะกลาง (3 ปี) และระยะยาว (5 ปี) ในลำดับต่อไป

ดันอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกโต

กรุงเทพฯ, มิถุนายน 2561

 

จากกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และปัจจัยผลักดันต่างๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเพิ่มขึ้นของธุรกิจ e-Commerce ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคและรูปแบบการดำเนินชีวิต รวมถึงการใช้กระดาษและบรรจุภัณฑ์ เช่น การผลิตกระดาษให้เหมาะกับรูปแบบการใช้บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก การผลิตกระดาษน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ทำให้ประหยัดค่าขนส่ง ส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกโต

นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมฯ มีการประสานความร่วมมือกับลูกค้าในการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคปลายทาง มีการนำระบบการทำงานอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน ช่วยลดต้นทุน การวิเคราะห์พฤติกรรม ผู้บริโภคจากฐานข้อมูลลูกค้าในระบบดิจิทัลช่วยให้สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิต รวมทั้งการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ มีการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมฯ มีอัตราการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ (Recovery rate) ที่ร้อยละ 59 มีผู้ผลิตกระดาษในอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญต่อการผลิต “Green Product” และได้รับการรับรองมาตรฐาน “FSC (Forest Stewardship Council)“ ซึ่งเป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์กระดาษ มีการใช้วัตถุดิบจากป่าไม้ที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

การเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกย่อมส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมในซัพพลายเชน และมีผลต่อสถานะทางเศรษฐกิจของคนไทยโดยรวม และหากพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอาเซียน และจำนวนประชากรที่มีจำนวนถึง 650 ล้านคน นับว่าภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นางสาวกนกวรา อนุตรวัตร ผู้จัดการอาวุโส บริษัท แม็ค บรูคส์ เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนกำลังขยายกำลังการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จากประชากรในภูมิภาคอาเซียนกว่า 620 ล้านคน ซึ่งอยู่ในวัยทำงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สำหรับการจัดงาน “CCE South East Asia – Thailand 2018” ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เป็นการตอบโจทย์ต่อความต้องการในการพัฒนาขีดความสามารถของภาคการผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและในภูมิภาคได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ  มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมกระดาษลูกฟูก 4.0

 

 

รัฐบาลเกาหลีเชื่อมั่นตลาดผลไม้พรีเมียมไทยโตขึ้นอีก ลุยนำเข้าต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ, มิถุนายน 2561

บริษัท เอที เซ็นเตอร์ แบงค็อก บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลี จัดงาน “โคเรีย วันเดอร์ เฟรช” (Korea Wonder Fresh) นำเข้าผักและผลไม้จากประเทศเกาหลี ยกขบวนผักและผลไม้ปลอดสารพิษที่การันตีความเฟรชมาให้โคเรียเลิฟเวอร์ได้เลือกอร่อยกว่า 50 ชนิด โดยรัฐบาลเกาหลีเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคผักและผลไม้เกรดพรีเมียมของไทย อีกทั้งยังเน้นถึงจุดเด่นของผักและผลไม้ที่นำเข้ามาจะต้องสดสะอาดปลอดภัยไร้สารพิษ รวมถึงงาน “โคเรีย วันเดอร์ เฟรช” ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงเตรียมวางแผนเพิ่มพื้นที่วางจำหน่ายอีก 1 สาขา รวมเป็น 4 สาขาภายในเดือน กรกฎาคม 2561 นี้

มร.บ็อบบี้ โฮล ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้ารัฐบาลเมืองคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกนำเข้าผักและผลไม้เกรดพรีเมียมจากประเทศเกาหลีเข้ามายังประเทศไทยนั้น เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตทางการตลาดของกลุ่มผู้บริโภคสินค้าเกรดพรีเมียมในประเทศไทย โดยกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชอบทดลองของแปลกใหม่ รวมถึงชื่นชอบสินค้าที่ดี มีมาตรฐาน รสชาติอร่อย โดยมีอัตรารายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายได้ของครอบครัวในประเทศมากกว่า 3 เท่า (6,000 เหรียญสหรัฐ) อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ วัฒนธรรมจากเกาหลีที่มีอิทธิพลในไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงไทยยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย กว่า 3.2 ล้านคนต่อปีจากทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็ยังคงเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียมที่มีรสชาติและคุณภาพที่ดีอีกด้วย

สาเหตุที่คุณภาพและรสชาติของผักและผลไม้ที่นำเข้ามาจากเกาหลีมีความแตกต่างจากผักและผลไม้ในไทยนั้น เนื่องจากเกาหลีมี 4 ฤดู ผลไม้ในแต่ละฤดูก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน การนำสินค้าเข้ามาขายในไทยก็จะมีการคัดสรรเฉพาะผลไม้ที่มีรสชาติที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูนั้นๆ และที่เกาหลียังมีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถปลูกผักและผลไม้บางชนิดได้ตลอดทั้งปี อาทิ ส้ม สาลี่ และเห็ดต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือการทำเกษตรกรรมในเกาหลีจะเน้นในเรื่องการไม่ใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต โดยจะดูแลผลผลิตด้วยวิธีตามธรรมชาติ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในเกาหลีจะคำนึงถึงเรื่องความสะอาดและปลอดภัยจากสารพิษเป็นสำคัญ

ในส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะเจาะให้ถึงกลุ่มเป้าหมายในไทยนั้น เราวางใจให้ บริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด เป็นผู้ดูแลวางแผนทำการตลาด เนื่องจากเล็งเห็นถึงศึกยภาพในการบริหารและประสบการณ์ในด้านอุตสาหกรรมผลไม้ยาวนานกว่า 30 ปี อีกทั้งยังมีมุมมองและทิศทางในการทำการตลาดที่สอดคล้องกัน คือการใช้การขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อการกระจายสินค้าที่สดใหม่ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมืออันดีจาก บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สำหรับพื้นที่ในการจัดจำหน่ายคือ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก

 

รวมพลังรัฐ-เอกชน ถกหามาตรการ ลดเค็ม ลดโรค

กรุงเทพฯ, 25 มิถุนายน 2561

 

ภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันผลักดันจัดทำเป้าหมายเชิงสมัครใจในการลดปริมาณโซเดียมในอาหารสำเร็จรูป ใน 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส และขนมขบเคี้ยว เร่งลดการบริโภคโซเดียมตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์นโยบายลดเกลือและโซเดียมแห่งชาติ สอดคล้องกับกรอบนโยบายขององค์การอนามัยโลก ส่งเสริมให้ทุกประเทศลดการบริโภคเกลือในประชากรให้เหลือ 5 กรัมต่อวัน เพื่อทำให้สุขภาพของประชากรทั่วโลกดีขึ้น

 

นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่าตามกรอบนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์นโยบายลดเกลือและโซเดียมแห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบนโยบายขององค์การอนามัยโลก ที่ต้องการส่งเสริมให้ทุกประเทศลดการบริโภคเกลือในประชากรให้เหลือ 5 กรัมต่อวัน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกับเครือข่ายลดบริโภคเค็ม องค์การอนามัยโลก และภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ประชุมหารือเพื่อจัดทำเป้าหมายเชิงสมัครใจในการลดปริมาณโซเดียมในอาหาร หาข้อสรุปเกี่ยวกับบทบาทของภาคอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป กลุ่มอาหารแช่เย็นแช่แข็ง กลุ่มขนมขบเคี้ยว และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญในการช่วยผลักดันการลดการบริโภคโซเดียมของประชากร และร่วมกันหาแนวทางหรือมาตรการในการลดโซเดียมหรือช่วยกันผลักดันให้เกิดกฎหมายหรือข้อบังคับกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารภาคเอกชน

 

นพ.พูลลาภ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน อย. ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการอาหาร ผลิตอาหารที่ลดหวาน มัน เค็ม ติดฉลาก “ทางเลือกสุขภาพ” เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการบริโภคอาหารที่เหมาะกับสุขภาพของตนเอง โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองแล้วทั้งสิ้น 633 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น กลุ่มอาหารมื้อหลัก 10 ผลิตภัณฑ์ เครื่องปรุงรส 12  ผลิตภัณฑ์ อาหารกึ่งสำเร็จรูป (บะหมี่และโจ๊ก) 22 ผลิตภัณฑ์ ขนมขบเคี้ยว 30 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องดื่ม 458 ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์นม 81 ผลิตภัณฑ์ และไอศกรีม 20 ผลิตภัณฑ์ อีกทั้ง อย. ได้กำหนดแนวทางในการผลักดันมาตรการลดโซเดียมในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่เย็นแช่แข็ง ผงหรือก้อนปรุงรส โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกัน และจัดทำแผนการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อเกิดประสิทธิผล ก่อนมีมาตรการทางกฎหมายต่อไป

 

ด้าน ผศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายลดบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ ได้มีประชุมเพื่อขับเคลื่อนโรงพยาบาลลดเค็มน้อยอร่อย (3) ดี ทั่วประเทศ จำนวน 83 แห่ง พร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อปรับลดปริมาณลดค่าปริมาณโซเดียมลง จากเดิม 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน เป็น 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ การให้บริการอาหารในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งอาหารสำหรับผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาล อาหารจากร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาล หรืออาหารสำหรับญาติและผู้ที่มารับการบริการภายในโรงพยาบาลจะต้องเป็นอาหารที่มีปริมาณโซเดียมต่ำด้วย ซึ่งปัจจุบันความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการได้รับโซเดียมสูงมากเกินความต้องการในแต่ละวัน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินงานเพื่อลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประชากรไทย โดยบูรณาการควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่จะต้องมียุทธศาสตร์การดำเนินงานที่ชัดเจน สามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน มร.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การลดบริโภคเกลือในประชากรมีความสำคัญและมีความคุ้มค่าในการทำให้สุขภาพของประชากรทั่วโลกดีขึ้น ดังนั้น องค์การอนามัยโลกจึงได้ส่งเสริมให้ทุกประเทศลดการบริโภคเกลือในประชากรให้เหลือ 5 กรัมต่อวันหรือ 1 ช้อนชาต่อวัน โดยยึดรูปแบบวิธีการจัดการปัญหาตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งการบริโภคเกลือของประชากรไทยสูงเกือบสองเท่าของระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ปัจจุบันประชากรไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของการตายเกือบร้อยละ 30 ของการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศไทย  ดังนั้น การปรับสูตรอาหารสำเร็จรูปให้ลดปริมาณเกลือลงจึงเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดการบริโภคเกลือในประชากรไทย ส่วนการปรับสูตรอาหารลดโซเดียมจะเป็นยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้ได้ผลแล้วในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะช่วยรักษาสุขภาพของประชากรของตนไว้อย่างถ้วนหน้า

 

 

SIAL China 2018 Continues to Inspire Food & Beverage Industry as Asia’s Largest Food Innovation Exhibition Concludes 19th Year

J SHANGHAI, China, June 5, 2018

SIAL China, Asia’s largest food innovation exhibition, and the world’s fourth-largest, successfully concluded its 19th edition on May 18 in Shanghai at the Shanghai New International Expo Center.

An established trade fair, SIAL China took yet another step forward in 2018 by surpassing 2017 record-setting figures. SIAL China 2018 expanded to 162,000 square meters (+8% vs 2017), 3,400 exhibitors (+6% vs 2017) and welcomed 110,635 professional visitors in 2018 (+9% vs 2017).

 

The Region of Honour – the European Union

As the Region of Honour for SIAL China 2018, 26 European Union (EU) member country pavilions housing 70 EU  delegates occupied 6,000 square meters of exhibition space. The EU also hosted exciting activities, including cooking demonstrations, innovative EU-Chinese product pairing demonstrations by famous chefs, and informative sessions about EU food quality and safety policies to complement the wide variety of safe and quality agricultural food and beverage products on display at the EU member pavilions.

 

SIAL Innovation

SIAL Innovation, well known as the crown jewel of SIAL Network, once again shined at SIAL China. In 2018 the competition which recognizes the most cutting-edge products in the food and beverage industry received a record number of submission. In total, more than 600 products were vying for the prestigious award at SIAL China. In the afternoon of May 16, three of the ten finalists were awarded SIAL Innovation Gold, Silver, and Bronze Awards, respectively.

 

The Gold Award went to SAFE CATCH from the USA for Elite Wild Seasoned Tuna for their low mercury tuna. Mexico Avocado Honey from CHENGDU MAYALAND TRADING CO., LTD, China, earned the Silver Award for its originality, and NOVELTEA from Great Britain captured the Bronze Award for their innovative cold-brew tea and spirit blends called “The Tale of Tangier and The Tale of Earl Grey”.

 

La Cuisine

SIAL China 2018 marked the fifth year La Cuisine partnered with World Association of Chefs’ and the first with China Cuisine Association to host Top Chef. This year, five domestic and three international teams competed to be named Top Chef. With eight expert judges looking for creativity, presentation skills, uniqueness, and taste, in the end, the team from Yunnan took home the championship.

 

Retail & Hospitality Forum

From May 16-18, experts from the EU, Euromonitor, GIRA Conseil, XTC, JD.com, and Alibaba shared insights, analysis and discussed trends in such areas as indication labels, dairy, food services, boundary-less retail, and new sales formulas at the Retail & Hospitality Forum. The forum gave professional visitors an exciting platform not only to increase their understanding but also learn the latest trends of food and beverage industry.

 

Wine Innovation Forum & Best Buy

With 16 sessions, the 2018 Wine Innovation Forum explored a variety of wines and regions, including Portuguese Vinho Verde, New Zealand Pinot Noir, and wines from Washington State. Lectures by renowned Master of Sommelier Darius Allyn and Wine Master David Forer brought a high level of professionalism and depth. The much anticipated Best Buy Competition announced the 2018 Award winners on May 17 during the SIAL After Party.

 

This year’s winners include: Cabernet Sauvignon from Ruidengbao Chateau, Best Chinese Wines Award; Asua Crianza Rioja, Best Still Red Wines valued less than 4 Euros; Tawse Winery Chardonnay, Best Still White Wines valued less than 10 Euros; Raggio Syrah Cabernet Sauvignon Gran Reserva, Best Still Red Wine valued between 4-8 Euros; Borsao Berola, Best Still Red Wine valued greater than 8 Euros; and the 2017 Densiho Reserve Rose, Best Sparkling Wines Group.

 

Chocolate World

Chocolate World 2018 introduced a new mascot named Mr. Chocolate to visitors. The official mascot was revealed during the Opening Ceremony on May 16 and complimented the extraordinary decorations and range of delicious and informative activities.

 

Seafood Fest’

Co-hosted by China Aquatic Products Processing and Marketing Association, the Marine Stewardship Council, and the Norwegian Seafood Council, Seafood Fest’ 2018 offered a host of cooking demonstrations. With sessions dedicated to introducing the ‘right seafood’ associated with the ‘right wines’, Seafood Fest’ was a seafood lovers dream.

 

 HYPERLINK “http://www.sialchina.com/events/teaevent.html”China National Specialty Tea Brewers Cup

Endorsed by Café Culture and the Australasian Specialty Tea Association (AASTA), this event honored traditions with brewing skills and tea innovations during its annual tea brewing competition. In 2018, following dedicated rounds focused on specialty tea infusion, standard infusion, and signature beverages, Mr. Huangtao XU, Ms. Xiaomeng HUANG, and Ms. Jiaxin LIU were named first, second and third place winners, respectively.

 

Geographical Indication Specialty

To reveal the potential value of geographical agricultural products, exhibitors from the Chinese City of Lishui, and Chinese Provinces of Heilongjiang and Gansu displayed multi-indicative products and geographical culture at the Geographical Indications Specialty Event. The event was the perfect combination of geographical agro-food, culture, and art.

 

Multi-Professional Forum

SIAL China professional industry forums are a platform to exchange cutting-edge thoughts and industry insights. SIAL China 2018 marked the first time SIAL China offered a dedicated forum to discuss the condiment, functional foods, and meat industry.

 

Through a continued focus on innovation and global food trade, SIAL China has become Asia’s largest food innovation exhibition. For more information, photos, and to register, visit: www.sialchina.com

MULTIVAC Celebrates Opening of New Production Facility in Bulgaria First production site in Eastern Europe

Wolfertschwenden, Germany / Bozhurishte, Bulgaria, 7 June 2018

Yesterday, the new production plant of MULTIVAC Bulgaria Production Ltd was inaugurated in Bozhurishte, near Sofia, with a festive opening ceremony. The guests included Boyko Borissov, Prime Minister of Bulgaria, Emil Karanikolov, Minister of Economy of Bulgaria, Gerogi Dimov, Mayor of Bozhurishte and Franz Josef Pschierer, Bavarian Minister of State for Economic Af-fairs, Energy and Technology, as well as other government officials and local politicians. Also participating in the celebration were representatives of the Agency for Investment and the Na-tional Company Industrial Zones EAD, board members of the German-Bulgarian Chamber of Industry and Commerce and managing directors of MULTIVAC Hans-Joachim Boekstegers, Group CEO and Spokesman, Guido Spix, Group CTO and COO, and Christian Traumann, Group CFO.

The new manufacturing plant of MULTIVAC Bulgaria Production Ltd is located in the industrial area of Bozhurishte and has a total surface area of around 20,000 square metres. In addition to a factory building with the latest technology for the production of MULTIVAC parts, the com-plex also includes a state-of-the-art warehouse and logistics centre, a training centre and an administration building. In addition to the Bulgarian sales and service company headed by Tri-fon Filipov, an international Shared Service Centre for IT, Strategic Purchasing, Design and Service will also be housed in the new building.

The groundbreaking ceremony for the new production facility was celebrated in September 2016. A total of 18.8 million euros were invested and more than 150 modern and secure jobs were created. Several initiatives were started by the company as far back as 2015 to attract young professionals in IT and logistics, among other areas.

“We are pleased to celebrate the opening of our first production facility in Eastern Europe here in Bozhurishte after a construction period of roughly two and a half years”, said Hans-Joachim Boekstegers, Managing Director and Group CEO of MULTIVAC. “Working in three shifts at this site, qualified specialists will produce machine parts and assemblies that meet the MULTIVAC quality standard. We are using modern turning and milling machines just as we also use at our headquarters in Germany. Incidentally, just a few weeks after commissioning, we are already utilising our full capacity.”

Ivaylo Dimitrov, Managing Director of Bulgaria Production Ltd, added: “We are proud that the MULTIVAC Group has opted for Bulgaria as the place to expand its production capacity. Our goal is to be one of the most modern production sites within the Group and to guarantee the high MULTIVAC standards through our specialists.”

In addition to the new plant in Bulgaria, MULTIVAC has eleven additional production sites in Germany, Austria, Spain, Brazil, Japan, Finland and the USA, as well as more than 80 sales and service companies worldwide.

“Taste of TISTR” ตอกย้ำ วทน. พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้ยั่งยืน

ในโอกาสครบรอบคล้ายวันสถาปนา 55 ปี สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ “Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Players in Bio-Economy” ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงการนำนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมเป็นเวทีแสดงผลงานวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้บริการภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยระบบเศรษฐกิจกระแสใหม่ให้เป็นรูปธรรม โดยได้รับเกียรติจากรศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Taste of TISTR” เนื่องในงานสัมมนาและนิทรรศการดังกล่าวนี้ โดยมี ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ วว. ผู้บริหาร พนักงาน วว. รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2561 ณ ห้องบอลรูม A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

ในโอกาสนี้ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กับการพัฒนาผู้ประกอบการด้านอาหารของไทย” โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีนโยบายและกลไกการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารและพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงออกสู่ตลาด ครอบคลุมตั้งแต่การแข่งขันของวิสาหกิจชุมชน SMES ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายใหม่ รวมถึงเกษตรกรและประชาชน อาทิ โครงการคูปองนวัตกรรม โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม (iTAP) โครงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการโอทอปด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) 5 ภูมิภาค นอกจากนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังให้ความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างเติบโต อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐานของ วว.ที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ได้แก่ โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร ศูนย์นวัตกรรมผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย ตลอดจนการพัฒนา Food Design & Packaging,Smart Packaging รวมถึงงานบริการเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ การรับรองมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

 

“วทน. มีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ทำให้ประชาชน สังคม มีความเป็นอยู่ที่ดี อาหารยุคนี้และยุคหน้าไม่ใช่กินเพื่ออยู่ แต่จะเป็น Food for healthy มากขึ้น และเป็น Food safety รวมทั้งจะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาหารจะต้องเพียงพอกับประชากรของโลก ไม่มากไปหรือน้อยไป เชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามารถแข่งขันด้านอาหารได้ในระดับโลก โดยใช้ วทน.มาประยุกต์ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมูลค่าของอาหารจะสูงขึ้นๆ ฉะนั้นเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก วทน. ให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ…” รศ.นพ.สรนิตฯ กล่าวสรุป

 

กิจกรรมภายในงาน “Taste of TISTR ” ประกอบด้วยการเสวนาเรื่อง “Trends and Innovation in Global Food Business” และการเสวนาเรื่อง ” Trends in Global Food Safety” รวมทั้งสาธิตการทำอาหารด้วยส่วนประกอบจากโครงการภายใต้การดำเนินงานการสนับสนุนของ วว. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของไทยในการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) การจัดแสดงนิทรรศการ การแสดงความร่วมมือกับพันธมิตรของ วว. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Chinese Academy of Sciences (CAS) และ Japan Packaging Institute (JPI) เป็นต้น และยังมีการให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้มแข็งด้วย วทน.

Italian packaging industry continues its world tour with stops in Mexico and Thailand

6 June 2018, Modena

 

The Italian packaging machinery manufacturers are promoting Italian innovation at Expo Pack Mexico and Propack Asia.

 

Italian companies are continuing their tour of leading international trade fairs as part of the intense 2018 promotional programme organised by UCIMA (Italian Automatic Packaging Machinery Manufacturers’ Association) with the financial and operational support of the Italian Trade Agency ITA.

 

Their first stop is Expo Pack Mexico (Mexico City), the most important Mexican exhibition for the packaging industry and an exclusive gateway to the entire region of Central America. The Italian companies taking part in the show, which is due to run until 8 June, are Acmi, Ams Ferrari, Ca.Ve.Co, Camozzi, Gerosa, Imeta, Rotomac, New Project, Reda, Rejves, Siad Macchine Impianti, Torq and Apsol, and Tropical Food. Mexico is a strategic market for the Italian packaging industry accounting for 203.1 million euros of Italian exports in 2017, 36% up on 2016. The prospects for the coming years are also excellent: according to forecasts made by the Ucima Research Department, the Mexican packaging machinery market is expected to grow at an annual rate of 5% over the two-year period 2018-2020.

 

For the next stop, from 13 to 15 June the Italian packaging industry will head to Propack Asia (Bangkok), the most important showcase of packaging technologies in Asia. The approximately 800 square metre Italian pavilion organised by Ucima will host a collective of no fewer than 34 sector companies: A Due, Agriflex, Akomag, Bertocchi, Bertoli Brand Of Interpump, Bertuzzi Food Processing, Cepi, Cft, Ct Pack, Desmet Ballestra, F&P Machinery, Fenco, Frigel, Icf&Welko, Ima, Imeta, Interpump, Italmec Siam, Mariani, Mazzoni Lb, Mectra, Megadyne, Pe-Labellers, Pfm, Pigo, Robopac, Sacmi, Sipa, Smi, Solar Turbines, Tropical Food Machinery, Turatti, Zacmi and Zilli&Bellini.

 

The importance of the event for Italian packaging technologies is also confirmed by two key events promoted by Ucima. The first, to be held on the afternoon of Wednesday 13 June, will consist of the presentation of a market survey entitled Packaging Machinery Industry in Thailand, carried out by Ipsos Business Consulting on behalf of ITA and Ucima. The second, to be held on Thursday 14 June, is a technical workshop organised in collaboration with Packmedia.net entitled The latest innovation in Italian technologies and featuring talks by representatives of Sacmi, Zacmi, CT Pack, Turatti, Solar Turbines and Tropical Food Machinery. Both initiatives will be held in the association’s institutional lounge (Hall 103, BP35).

 

Thailand, the gateway to Southeast Asia, is another rapidly expanding market which absorbed a total of 69.1 million euros of Italian exports in 2017, 34% up on the previous year. The region as a whole offers outstanding business opportunities, accounting for 373 million euros of Italian exports in 2017 (up 3% on 2016). Average annual growth of between 6% and 12% is expected over the next two years.

 

Expo Pack Mexico 5-8 June 2018 @ Expo Santa Fe Mexico, Mexico City

Propack Asia 13-15 June 2018 @ BITEC, Bangkok, Thailand