Innovation in Inspection Technology to Make Significant Gains in Food Safety

นวัตกรรมด้านการตรวจสอบในสายการผลิตกับการเพิ่มความปลอดภัยของอาหาร

 

Jorge Izquierdo,

Vice President

Market Development, PMMI

 

แปลโดย / Translated by     กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

 

Full article TH-EN 

 

จากรถยนต์บินได้สู่แหล่งพลังงานที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์แห่งวันพรุ่งนี้เทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับชีวิตที่จะทำให้วิธีการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโซลูชันบางอย่างจะยังไกลความเป็นจริง แต่ผู้บุกเบิกการผลิตได้ออกแบบรูปแบบการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มความปลอดภัยด้านอาหารได้ โดยในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย ความก้าวหน้าล่าสุดเหล่านี้ยังรวมถึงผู้ผลิตที่มุ่งเน้นที่การจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับความสามารถและตลาดเทคโนโลยีอัตโนมัติโดยเฉพาะ อาทิ ระบบจับภาพของเครื่องจักร (Machine vision) ซึ่งคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น ตามรายงานสถานะอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกาในปี 2561 ในการผลิตเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ที่จัดทำโดย สมาคมเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์และการแปรรูป (PMMI) ซึ่งระบุว่า หมวดเครื่องจักรตรวจสอบ ตรวจจับ และตรวจสอบน้ำหนักบนสายพาน คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 8.6 จาก 438 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560

 

เมื่อความแม่นยำจับคู่ความเร็วในระบบการจับด้วยภาพ (Vision System)

ในปัจจุบัน ผู้ผลิตอาหารต้องตรวจสอบทุกชิ้นส่วนในสายการผลิต สายการผลิตแบบเก่าอาจต้องตรวจสอบฉลากที่เหมาะสมโดยให้คำตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่” เท่านั้น แต่ปัจจุบันโซลูชันการตรวจจับด้วยภาพจะให้คำตอบที่ซับซ้อนได้มากกว่าหนึ่งคำตอบ ระบบการตรวจจับด้วยภาพช่วยให้การมองเห็นมีความครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้นในการตรวจสอบว่าฉลากที่เหมาะสมอยู่ในระดับที่เหมาะสมทำให้มั่นใจได้ว่าขวดไม่แตกหรือบิ่น และได้รับการบรรจุในระดับที่เหมาะสม เป็นต้น

 

From flying cars to sustainable energy sources, visions of tomorrow’s most life-enhancing technologies invariably revolve around more efficient ways to operate. Although some of these solutions lie in a more distant reality, manufacturing’s pioneers have shaped cutting-edge forms of product inspection technology that help processors make significant gains in food safety while enhancing efficiency. These recent strides also have manufacturers focusing on cost in alignment with capability—and niche automation markets, such as machine vision, are expected to grow even more. According to the 2018 State of the Industry US Packaging Machinery Report produced by PMMI, the Association for Packaging and Processing Technologies, the Inspecting, Detecting and Checkweighing Machinery category is projected to expand from $438 million in 2017, experiencing an 8.6 percent annual growth.

 

Where accuracy meets speed in vision systems

Today’s food manufacturers must inspect every item on their processing line. Older protocols may have only required checking for proper label adherence, providing a “yes or no” answer. Now, detection solutions deliver more than a just single piece of a complex puzzle. Vision systems provide more comprehensive and precise observations—checking that the right label is on at the right level, assuring that the bottle is not broken or chipped and is filled to the right level, etc.

 

 

Consummately capable robot technology

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่เชี่ยวชาญและมีความสามารถ

 

โครเนส เอจี

Krones AG

 

Full article TH-EN 

 

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่มีความก้าวหน้าสามารถทำให้ระบบการผลิตขวด PET เปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าที่ต้องการผลิตได้ในเวลาที่รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยโปรแกรมที่ถูกออกแบบขึ้นนี้ ประกอบไปด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติที่แยกส่วนกันในกระบวนการต่าง ๆ ของการผลิตขวดในปัจจุบัน ซึ่งช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ผลิต โดยความก้าวหน้าหนึ่งที่เห็นได้ชัด ได้แก่ การเปลี่ยนแบบพิมพ์ในกระบวนการผลิตด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งทำให้การเข้ามามีส่วนร่วมของแรงงานคนกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป เมื่อแบบพิมพ์สามารถเปลี่ยนได้อย่างอัตโนมัติในกระบวนการผลิต

 

โดยวิธีการทำงานของหุ่นยนต์ที่มีความก้าวหน้านี้ เริ่มจากการที่แขนที่ขึ้นรูปขวดเลื่อนแม่พิมพ์เข้าไปยังจุดที่ใช้ในการเปลี่ยนแม่พิมพ์โดยอัตโนมัติ ซึ่งในขณะเดียวกัน ประตูชัตเตอร์ลูกกลิ้งก็จะเปิดออกและปลดล็อกแม่พิมพ์ให้เข้ามาอยู่ในแท่น หลังจากที่หุ่นยนต์หยิบแม่พิมพ์ทั้งหมดได้แล้ว (แม่พิมพ์ทั้ง 2 ข้างและฐาน) ส่วนที่อุ้มแม่พิมพ์ไว้ก็จะเปิดออกเพื่อให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนแม่พิมพ์เข้าไปด้านใน ก่อนที่จะติดตั้งลงบนพาเลตต์เปล่าภายในแท่นพิมพ์ สิ่งเดียวที่แรงงานมนุษย์ต้องทำคือ ใส่พาเลตต์ที่มีแม่พิมพ์บรรจุอยู่ด้านในเข้าไปในระยะการทำงานของหุ่นยนต์ก่อนกระบวนการเปลี่ยนแม่พิมพ์จะเริ่มขึ้น และนำออกมาหลังจากนั้น ซึ่งพื้นที่การทำงานของหุ่นยนต์จะถูกป้องกันไว้โดยลูกกรง

 

An advanced robot technology1 enables bottlers running PET containers to achieve a complete article change-over to different products, types, formats and packs in record time. The programme designed consists of individual automation components. In conjunction with the machines of the bottling line concerned, today modules control the processes involved and support the operators in their work. Advances are particularly apparent in terms of replacing the moulds, where a mould robot  module2 comes into play, rendering operator interventions almost entirely superfluous when moulds are being replaced on a bottling machine3

 

And this is how an advanced robot technology1 works: when the change-over procedure begins, the stretch blow-moulding machine automatically moves the blow-moulding station to the change-over position, while the machine’s guard, in the shape of a roller shutter, opens, whereupon the mould in the blow-moulding station is unlocked. After a robot has grasped the complete mould (i.e. with both halves and the base), the mould carrier opens, the robot removes the mould package, and places it in an empty pallet slot on the waiting mould-change trolley. It then immediately removes a new mould package and inserts it in the blow-moulding station. All that remains for the operator to do is to ingress the pallets with the moulds into the robot’s working range, protected by a grating, before the change-over procedure, and remove them again afterwards.

 

 

 

3 Global Bakery Trends to Look for in 2019

ค้นหาเทรนด์ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จาก 3 ลายแทงยอดฮิตปี 2562

 

By:      Amrin Walji

Senior Innovation Analyst

Mintel

 

Translated and Compiled By: กองบรรณาธิการ

นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

 

Full article TH-EN

 

ในขณะที่ผู้บริโภคเริ่มลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตลงนั้น แบรนด์ขนมปังต่างๆ ก็จะต้องหาหนทางทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ขนมปังของตัวเองเป็นที่จดจำได้ในมุมมองของผู้บริโภค หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยอาจดึงดูดด้วยสีสันสดใส กลิ่นรสเอกลักษณ์ในแบบชาติพันธุ์ และพัฒนาไปในรูปแบบที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ลองมาค้นหาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จากเทรนด์ฮิตทั่วโลก

 

  1. มีรสผัก สีสันสดใส

ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของผักคือวิถีการตลาดสุดสตรองของหลายๆ แบรนด์ที่นำมาใช้เพื่อดึงดูดความสนใจในเชิงบวกด้านโภชนาการ การใช้ผักที่มีสีสันสดใส เช่น แครอท หรือบีทรูทช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อของผักอย่างแท้จริงและช่วยเพิ่มกลิ่นรสโดยรวมของผลิตภัณฑ์ด้วย

 

  1. รู้สึกเหมือนกินขนมปัง แต่ขอโลว์คาร์บ

เทรนด์ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการนำมาเป็นคอนเซ็ปท์ของอาหารหลายๆ จานเลยทีเดียว ซึ่งก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาเน้นบริโภคโปรตีนและผักมากขึ้น

 

  1. แลนดิ้งรสชาติมาจากทุกมุมโลก

อย่างเอเชียบ้านเรามีร้านอาหารประจำชาติและแผงขายอาหารข้างถนนมากมาย และค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในวงการธุรกิจบริการอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ โลกของการปรุงอาหารจึงสามารถขยายโอกาสการใช้ขนมปังและผลิตภัณฑ์แป้งขนมปังได้หลากหลายมากขึ้น

 

 

As consumers cut their consumption of carbs, brands need to make bread memorable – or at least healthier – through vivid colours, ethnic flavours and better-for-you versions.

 

  1. Colourful Vegetable Bread

Bakery products containing vegetables are a strong way for brands to tap into interest in positive nutrition. Using brightly coloured veggies, such as carrot or beetroot, makes the vegetable content more tangible and helps to provide an overall flavour boost.

 

  1. Low Carbs

Cutting down on carbohydrates has become popular in recent years as many adopt diets that encourage higher intake of proteins and vegetables. Health-related concerns are key barriers to more frequent consumption of bread.

 

  1. World Flavours

As ethnic restaurants and street food stalls take over the foodservice scene, world cuisines can expand usage occasions for bread and bread products.

 

Pea Protein as a Healthy Source of Protein

แหล่งโปรตีนเพื่อสุขภาพจากถั่วลันเตา

 

Full article TH-EN 

 

ถั่วลันเตา…เป็นแหล่งของโปรตีนที่มีความเหมาะสม

โปรตีนแบบไอโซเลทจากถั่วลันเตาจัดเป็นแหล่งของกรดอะมิโนจำเป็นของร่างกายเกือบทั้งหมด เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนดังกล่าวได้เองเหมือนกรดอะมิโนแบบไม่จำเป็น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องมีการบริโภคโปรตีนในกลุ่มนี้จากอาหาร และนั่นก็เป็นที่มาของกลุ่มบริษัทเอ็มสแลนด์ ที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Empro® ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนจากถั่วลันเตา จัดเป็นโปรตีนเข้มข้นที่มีโปรตีนขั้นต่ำอยู่ที่ร้อยละ 84 และมีความแตกต่างจากโปรตีนที่มาจากสัตว์ และเป็นอีกทางเลือกในการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างกว้างขวาง เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสริมคุณค่าให้กับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย โปรตีนจากถั่วลันเตายังมีคุณสมบัติเป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ดีและมีความเหมาะสมในการทำซอส มายองเนส สำหรับกลุ่มที่บริโภคมังสวิรัติ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาตรและโครงสร้างภายในขนมอบได้อีกด้วย

 

โปรตีนที่ผ่านการขึ้นรูป

นอกเหนือจากโปรตีนที่มีลักษณะเป็นผงแล้ว โปรตีนที่ผ่านการขึ้นรูปโดยเครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์ก็เริ่มได้รับความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นด้วย และทางบริษัทก็ได้มีการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ Empro® Tex ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 

แนวโน้มการออกแบบผลิตภัณฑ์   

ในปัจจุบันเครื่องดื่มเสริมโปรตีนกำลังมีการเติบโต การรับรู้ในด้านสุขภาพ และคุณค่าทางโภชนาการของโปรตีนในกลุ่มนักกีฬา ตลอดจนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเรียกว่ากลุ่ม “casual users” ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้ออกกำลังกายที่หนักมาก แต่มีความสนใจในด้านการดูแลสุขภาพ และถือว่าเป็นการรับรู้ประโยชน์ของโปรตีนที่ดีอีกทางหนึ่ง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ Empro® E 86 HV จึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามที่ได้กล่าวไป

 

Peas as a Suitable Source of Protein

Pea-based protein isolates contain a high concentration of almost all the essential amino acids. Unlike the non-essential types, our body cannot synthesize these amino acids on its own. That is why we must have them in our diet. Under its Empro® brand, the Emsland Group is offering a product line of pea-based proteins. With a protein content of at least 84%, the pea protein isolate distinguishes itself as an alternative to animal protein sources in numerous applications. The emulsifying properties of the pea protein isolate ideally suits it to producing vegan sauces and mayonnaise. And when used in baked goods, it yields an increased volume and consistent pore formation.

 

Protein Extrudates

Apart from the protein-enrichment powders, extruded proteins are also seeing an uptick in popularity. With the development of Empro® Tex, the Emsland Group is responding to this trend.

 

Trend-driven Product Design

The world of protein shakes is a growth market. Our increasing health awareness and the growing focus on healthy nutrition are expanding the popularity of protein powders among athletes and professionals to so-called “casual users.” These are consumers who do not engage in strenuous physical activity, but wish to maintain a healthy lifestyle. This more positive perception of proteins is pushing numerous product innovations in this category. For these innovative developments, Empro® E 86 HV offers the right properties, thanks to the balanced amino acid profile and a high-viscosity formation.

 

 

Site Visit: Food & Beverage Factory Discovering the Definitions of Good Food in Taiwan

เยี่ยมชมโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม ค้นหาคำตอบของนิยามอาหารที่ดีในแบบฉบับไต้หวัน

 

By:      Pimchanok Kanoklawan

          Senior Journalist

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

 

Full article TH-EN 

 

ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงการมีสุขภาพที่ดี ยิ่งสำหรับคนไต้หวันแล้วจะให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาเชื่อว่าการกินอาหารที่ดีจะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้จากภายใน ก็เหมือนที่เราชอบพูดว่า “You are what you eat” นั่นเอง และอาหารที่ดีเป็นอย่างไรกัน? ทริปนี้จึงพาไปค้นหาคำตอบของนิยามอาหารที่ดีในแบบฉบับไต้หวันจากผู้ผลิตอาหาร เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไต้หวัน จำนวน 8 แห่ง ที่ต่างพร้อมใจเปิดบ้านให้ได้เยี่ยมชมกันอย่างใกล้ชิดพร้อมเผยไฮไลท์สินค้าที่เตรียมนำไปอวดโฉมภายในงาน Food Taipei 2019 ไว้อย่างน่าสนใจ

 

นอกจากเหล่าผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ด้านเจ้าของเทคโนโลยีเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหารก็พร้อมพาไปรู้จักกับนวัตกรรมเครื่องจักรระบบอัตโนมัติซึ่งเป็นโซลูชันสำคัญของการผลิตอาหารที่ดีสำหรับผู้บริโภคเช่นกัน

 

การเดินทางไปไต้หวันครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ได้รับเชิญจากสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย (TAITRA) ให้เป็นตัวแทนสื่อหนึ่งเดียวจากประเทศไทยเข้าร่วมเดินทางไปพร้อมกับสื่ออุตสาหกรรมต่างประเทศ เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผู้ผลิตอาหาร เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ตอบรับเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ Food Taipei 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มิถุนายน 2562 ณ Taipei World Trade Center ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมงานในปีนี้

 

Nowadays, people have paid high interested on health consciousness, especially for Taiwanese people who are highly concerned on quality of food because they believe that eating good food can make good health like the phrase saying, “You are what you eat”. You may wonder what is good food? This trip will take us to find answers on the definition of good food from eight food and machinery manufacturers in Taiwan that are willing to open their plants for our visiting and reveal highlights for showing at the Food Taipei 2019, an international food and beverage showcase in Taiwan.

 

Besides food and beverage manufacturers, the owners of the food machinery and technology in food industry also led us to learn on the automatic machinery innovation, which is an important solution for good food production for consumers as well.

 

The trip to Taiwan is a courtesy invitation granted by the Taiwan External Trade Development Council (TAITRA) for Food Focus Thailand magazine as the only one Thai media among others international media to visit food, machinery, and equipment manufacturers in food and beverage industry in Taiwan, which will attend the incoming Food Taipei 2019, an international food and beverage showcase in Taiwan from June 19-22, 2019 at Taipei World Trade Center. However, the information will be an idea to their visit to the event this year.

 

 

 

Air Quality in Production Facilities

การควบคุมคุณภาพอากาศในโรงงานผลิตอาหาร

By: Aaron Pleitner, Ph.D.
Principal Scientist
FSNS Innovation and Quality
Food Safety Center of Excellence

Translated and Compiled By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN P

 

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องคุณภาพอากาศภายในโรงงานผลิต สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกก็คือการประเมินด้านคุณภาพ โดยทั่วไปมี 2 แนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ง่ายและได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็คือ การตรวจประเมินโดยใช้ระบบการตกตะกอน และระบบการวัดและควบคุมฝุ่นละอองลอยในอากาศ

ระบบการตกตะกอนใช้สำหรับการตกตะกอนอนุภาคอากาศตามธรรมชาติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยวางจานเพาะเชื้อทั้งชนิดอาหารแข็งและอาหารเหลวที่ประกอบด้วยสารอาหารซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์เป้าหมาย (เช่น ยีสต์ รา แบคทีเรีย) ไว้ในบริเวณภายในโรงงานผลิต ทั้งนี้ อนุภาคของอากาศจะตกลงบนจานอาหารเลี้ยงเชื้อเองตามธรรมชาติของแรงโน้มถ่วง

อีกระบบคือการวัดและควบคุมฝุ่นละอองลอยในอากาศซึ่งมีความแม่นยำในการตรวจประเมินคุณภาพอากาศได้ดีกว่าแบบแรก แต่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่าอุปกรณ์เครื่องมือที่เฉพาะทาง โดยการทำงานของระบบดังกล่าวจะมีเครื่องมือการเก็บตัวอย่างซึ่งใช้แรงดันเจ็ทหรือแรงดูดในการเก็บตัวอย่างอากาศด้วยอัตราเร็วหนึ่งตามปริมาตรที่ต้องการ อากาศที่เก็บเข้ามานี้จะถูกส่งต่อไปยังจานเพาะเชื้อที่อยู่ภายในระบบ โดยวิธีการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเก็บตัวอย่างและกำหนดค่ามาตรฐานได้จากปริมาตรอากาศที่เก็บ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบนเครื่องมือ

When considering air quality at a production facility, one of the first steps to take is to assess what the quality is. The two most popular and easiest to perform are Sedimentation and Impactor systems.

Sedimentation applies to the natural downward settling of air particles over time. A petri dish containing agar and a medium consisting of nutrients beneficial to the target (i.e. yeast, mold, bacteria) is prepared and then placed at a location within the production facility. Due to natural gravitational forces, air particles will settle onto the petri dish.

The Impactor system method is more precise but requires the purchase or rental of specialized equipment. The Impactor system employs a mechanical sampler that uses a jet or vacuum to draw in air streams at a known rate and thus volume. The air that is mechanically collected is then directly applied onto a petri dish within the Impactor system. This allows for the operator to normalize across sampling events and standardize as to how much air volume is collected, based on the jet or vacuum setting.

 

CPRAM Aims to Leverage Thailand to Become the Hub of Asian Food Innovations

CPRAM พร้อมยกระดับขีดความสามารถประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเชีย

 

Compiled By:   กองบรรณาธิการ

นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

 

Full article THEN

 

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในผู้นำด้าน Food Provider มาตรฐานโลก ได้วางแผนทิศทางธุรกิจ “CPRAM Transformation Roadmap” พร้อมเดินหน้าพัฒนาศักยภาพมาตรฐานยกระดับขีดความสามารถความเป็นผู้นำ Food Provider และก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมอาหารของประเทศและในภูมิภาคเอเชีย

 

CPRAM Transformation Roadmap

คุณวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ซีพีแรมเดินทางผ่านยุคต่างๆ จวบจนปัจจุบันยุคที่ 7 คือ “ยุคศรีอัจฉริยะ” แต่ละยุคใช้เวลา 5 ปี ยุคนี้ได้ยกระดับขีดความสามารถขององค์กรด้วย CPRAM 4.0 ขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและเป็นผู้นำ 3S (Food Safety, Food Security และ Food Sustainability) สู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารของโลก รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์องค์กรยุคที่ 7 ระยะ 5 ปี ด้วย “CPRAM Transformation Roadmap” ประกอบด้วย (1) Organization Transformation (2) New Business (Vending machine, Catering Service) (3) Digitalization (4) Robotization และ (5) จัดตั้ง Food Technology Exchange Center (FTEC) พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562 ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดทั้งเชิงลึกตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้บริโภค และเชิงกว้างสู่ภูมิภาคทั่วประเทศไทย

 

นอกจากนี้ยังเตรียมจัดตั้ง Food Technology Exchange Center (FTEC) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสร้างความร่วมมือและประสานงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

 

CPRAM Co., Ltd., the largest producer and distributor of ready-to-eat food in Thailand and one of the leaders in world standard food provider, detailed the business direction of “CPRAM Transformation Roadmap” to announce the potential development plan for becoming a leading food provider and food innovation in the country and in Asia.

 

CPRAM Transformation Roadmap

Mr.Wisade Wisidwinyoo, President of CPRAM Co., Ltd. said that CPRAM travels through various eras. Today, CPRAM is entering the 7th generation, “Genius Era” — each period takes 5 years. Nowadays, the company raises the capacity of the organization with CPRAM 4.0 policy which is driving by technology. The company elevates ready-to-eat food with 3S (Food Safety, Food Security and Food Sustainability) to achieve the sustainability of the global food industry. The company has also established the organization strategy for the 7th generation with the name “CPRAM Transformation Roadmap”, which consists of Organization Transformation, New Business (Vending machine, Catering Service), Digitalization, Robotization, and the establishment of Food Technology Exchange Center (FTEC). The company targets sales of THB 20,000 million in 2019, with both in-depth market expansion strategies to meet the specific needs of consumers, and broadly into regions throughout Thailand.

 

CPRAM is currently preparing to set up the Food Technology Exchange Center (FTEC) to be a center for cooperation with all sectors related to Thai food industry, both public and private areas.