Global Packaging Trends 2019

เทรนด์บรรจุภัณฑ์ทั่วโลกปี 2562

By: David Luttenberger, CPP
Global Packaging Director

Benjamin Punchard, Ph.D.
Global Packaging Insights Director

Regina Maisevičiūtė-Haydon
Global Food & Drink Analyst
Mintel Group

Compiled and Translated By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังเชื่อมโยงและสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ในโลกแห่งความเสมือนจริงอยู่นั้น ผู้บริโภคกลับต้องการแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาแก้ไขโลกแห่งความจริงที่พวกเขาเผชิญอยู่เทรนด์ 4 เรื่องต่อไปนี้ได้รวมประเด็นสำคัญทั้งหมดของเทรนด์บรรจุภัณฑ์ระดับโลกในปีนี้ไว้ โดยครอบคลุมเรื่องการเชื่อมโยงในรูปแบบเสมือนจริง นวัตกรรมทางวิศวกรรม อีคอมเมิร์ซ และความยั่งยืน

1. บรรจุภัณฑ์แห่งการเชื่อมต่อ
เทคโนโลยีหลายรูปแบบทำให้แบรนด์เชื่อมโยงบรรจุภัณฑ์ทางรูปลักษณ์ภายนอกสู่โลกแห่งความเสมือนจริง โดยบรรจุภัณฑ์แห่งการเชื่อมต่อนั้นกำลังทำให้เห็นความน่าสนใจใหม่ๆ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของผู้ครองกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ทางเทคนิคที่เชื่อมต่อกันทั่วโลกและความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงบรรจุภัณฑ์สู่โลกออนไลน์ได้

2. ปิดช่องโหว่
ผู้บริโภครู้จักการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์บางชนิดมานานแล้ว และตอนนี้พวกเขาต้องการความสามารถในการรีไซเคิลที่เพิ่มมากขึ้นและเข้าใจถึงการรีไซเคิลว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีจริงๆ

3. นวัตกรรมกล่องที่ตอบโจทย์
องค์ประกอบที่สำคัญของการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าในการค้าปลีกแบบดั้งเดิมก็คือแบรนด์และข้อความที่สื่อลงบนบรรจุภัณฑ์ด้านนอก แต่ในทางอีคอมเมิร์ซแบรนด์กำลังเรียนรู้ว่าการสื่อสารด้วยข้อความและความเป็นแบรนด์บนบรรจุภัณฑ์นั้นควรแยกออกจากกันระหว่างบรรจุภัณฑ์ชั้นที่สองหรือกล่องเพื่อการขนส่งและให้นำการตกแต่งต่างๆ ไปไว้ที่บรรจุภัณฑ์ชั้นใน

4. พอกันทีกับพลาสติก
เมื่อร้านค้าปลอดถุงพลาสติกจำหน่ายสินค้าโดยไม่ให้ภาชนะในการใส่สินค้าที่ซื้อ นักช็อปจึงจะต้องนำภาชนะไปใส่เองและซื้อสินค้าตามน้ำหนัก ลักษณะดังกล่าวช่วยให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าตามจำนวนที่ต้องการจริงๆ เป็นการป้องกันขยะที่เกิดจากอาหารและบรรจุภัณฑ์

As technology connects and innovates packaging in the virtual world, consumers demand eco-friendly solutions to clean up the real world. The four trends encompass broader themes of virtual connection, engineering innovation, e-commerce and sustainability, providing a
full view of the global packaging industry in 2019.

1. Connected packaging
Multiple technologies are enabling brands to connect physical packaging to the virtual world. Connected packaging is seeing renewed interest, driven by growth in ownership of connected devices worldwide and advancement in technologies that can link packaging to the online world.

2. Closing the loop
Consumers have been recycling some packaging for years. But they are now demanding the ability to recycle more and to understand how recycling really works.

3. Reinventing the box
In traditional retailing, a key component of purchase consideration is branding and messaging on the exterior of a package. In e-commerce, brands are learning that messaging and branding should be split between the secondary, or shipping container, and then shifting traditional decoration and copy to the interior.

4. Plastic free
Package-free stores offer loose, unpackaged products. The shopper is required to bring along their own containers and products are bought by weight. This enables the shopper to buy just the amount of product they need, preventing food and packaging waste.

 

Post Show – Food Focus Thailand Roadmap # 46: New Product Ideas Edition

22 March 2019 @ Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT

Full article TH-EN

การพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต (หรือที่เรามักจะหมายรวมเรียกว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์) เป็นการพัฒนาสินค้าใดๆ ขึ้นมาก็ตาม แล้ว “ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย” กดไลค์ถูกใจ ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า ในแต่ละปีมีสินค้าใหม่ๆ อวดโฉมในห้างค้าปลีกมากกว่า 20,000 รายการ แต่หลังจากที่สินค้าวางจำหน่ายได้ 39 สัปดาห์ จะมีสินค้าประมาณร้อยละ 33 ที่จุดพลุฉลองความสำเร็จ ร้อยละ 42 ยังไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่า และร้อยละ 25 เรียกได้ว่าปิดฉาก

ผ่านไปกับงานสัมมนา Food Focus Thailand Roadmap # 46: New Product Ideas Edition ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาของวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายท่าน ทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ ร่วมกันค้นหาลายแทงเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ “ใหม่สุดในสามโลก” “ลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น” รวมทั้ง “ใหม่อย่างเดียวไม่พอ ต้องลดต้นทุนแบบมือโปร” ด้วย

เทรนด์จากทั่วโลก…แสงสว่างให้งาน R&D
สามเทรนด์หลักๆ ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในช่วงเวลานี้ คือ
1. รัก (ษ์) โลก
ทุกวันนี้ ผู้บริโภคไม่ได้คาดหวังเพียงแค่คุณค่าทางโภชนาการจากผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่พวกเขาเลือกซื้อเท่านั้น แต่ยังคาดหวังประเด็นเรื่องความยั่งยืนจากบริษัทผู้ผลิตอีกด้วย ความยั่งยืนดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตอาหาร ตั้งแต่การสรรหาวัตถุดิบ การผลิต การบริโภค รวมไปถึงการทิ้งขยะบรรจุภัณฑ์ ซึ่งแน่นอนว่าจะสำเร็จได้ต้องเกิดจากความร่วมมือกันของทั้งซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต ภาครัฐ ภาคค้าปลีก องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ รวมทั้งตัวผู้บริโภคเองด้วย

2. แคร์ทุกช่วงวัย
อีกเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ คือ การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาวขึ้น ผู้บริโภคจะดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เป็นการป้องกันตัวเองจากภาวะโรคต่างๆ มากกว่าที่จะรอการรักษา ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัยมีสุขภาพที่ดี ทั้งสุขภาพกระดูก ข้อต่อ สมอง เป็นต้น

3. เสริ์ฟความสะดวก
ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริการ้อยละ 27 ให้ความเห็นว่า การเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพเองเป็นการเสียเวลาไม่ใช่น้อย นอกจากนี้ ผู้บริโภคบราซิลร้อยละ 22 เต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่ม ถือเป็นการซื้อความสะดวก ส่งผลให้อาหารเช้าแบบซื้อแล้วหิ้วไปกินระหว่างทาง อาหารว่างที่อิ่มได้อย่างรวดเร็ว และโซลูชันสำหรับอาหารมื้อเย็นเป็นคำตอบที่ดี

นวัตกรรมการแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม
กระบวนการแปรรูปแบบใช้ความร้อนเป็นวิธีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมายาวนาน อย่างไรก็ตาม การใช้ความร้อนสูงส่งผลให้คุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามิน ตลอดจนลักษณะปรากฏบางประการ เช่น สี กลิ่นรส สูญเสียไป ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในกระบวนการแปรรูป เช่น เทคโนโลยี Pressure Assisted Temperature Sterilization (PATS) เทคโนโลยีโอห์มมิค เทคโนโลยีไมโครเวฟ เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ เทคโนโลยีอินฟราเรด เป็นต้น

The challenge for product and process development (commonly referred to as product development) is to develop a product which is acceptable to the “target consumer”. According to FAO, the retailer would see more than 20,000 new barcodes each year. After 39 weeks of launch, around 33% were successful, 42% were still in distribution but declining and 25% had failed.

Food Focus Thailand Roadmap # 46: New Product Ideas Edition has ended successfully. The special seminar was honored by expert speakers from both government and private sectors. This seminar guided you how to create “new to the world”, “product improvement” as well as “cost reduction”.

Global Trends Shining an Idea for R&D
There are 3 major global trends as followed;

1. Green Consumption
Nowadays, consumers expect not only nutrition from a product, but also sustainability from the food and beverage companies. Sustainability, therefore, is voted to be one of the major global trends. There should be a collaboration between suppliers, manufacturers, governments, non-profit organizations, retailers, and consumers. To ensure sustainability extends from farm to retailer, to fork to bin and, ideally, to rebirth as a new plant, ingredient, product or package.

2. Through the Ages
Preparing oneself for a longer and healthier lifespan is another trend. Consumer would like to pursuit holistic, proactive and ongoing lifestyle. Food and beverage products can help people of all ages improve their bone, joint, and brain health, as well as proactively address other age-related health concerns.

3. Elevated Convenience
It was founded that 27% of US consumers agree it takes too much time to prepare healthy food. And 22% of Brazilians are willing to pay extra to save time. Consequently, grab-and-go breakfast, quick snacks, and dinner-time solutions will be the answer.

Novel Food Processing Techniques
Thermal processing has been widely used for a long time. However, it has caused the loss of nutrition such as vitamin and also the unacceptable appearance in terms of color, flavour, etc. Novel thermal processing, for instances, pressure assisted temperature sterilization (PATS), ohmic heating, microwave heating, radio frequency processing, and infrared processing, has been developed.

General & Global Food Standard

มาตรฐานอาหารทั่วไปและระดับสากลสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

By: เสฏฐวุฒิ ยอดนันทพัฒน์
Settawoot Yoodnunthaphat
Client Manager, Operations – Food Division
British Standards Institution (BSI)
settawoot.yoodnunthaphat@bsigroup.com

Full article TH-EN

เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารคือหนึ่งในปัจจัยหลักที่มนุษย์ใช้ในการดำรงชีพ เมื่อมีจำนวนประชากรมนุษย์เพิ่มมากขึ้นจึงส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารมากขึ้น ดังนั้น การผลิตเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าวจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม การผลิตที่มีปริมาณและจำนวนมากขึ้นย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดมากขึ้นเช่นกันจึงทำให้ต้องมีมาตรฐานเข้ามาควบคุมทั้งด้านคุณภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ตั้งแต่ระดับมาตรฐานอาหารทั่วไป ไปจนถึงมาตรฐานอาหารระดับสากล ทั้งอยู่ในรูปแบบภาคบังคับ หรือภาคความสมัครใจของแต่ละโรงงานอาหาร

ปัจจุบันมาตรฐานระดับสากลมีผลกระทบต่อการค้าอย่างรุนแรง ในอุตสาหกรรมอาหารต้องยกให้มาตรฐานของภาคเอกชนที่มีผลต่อการค้าระหว่างประเทศ คือ The Global Food Safety Initiative หรือ GFSI ที่มีผลกระทบต่อการซื้อขายผลิตภัณฑ์อาหารระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก โดย GFSI เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยมีหน่วยงาน CIES-The Food Business Forum เป็นผู้ประสานการดําเนินงาน และมีคณะกรรมการบริหารมูลนิธิทําหน้าที่กําหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์และบริหารห่วงโซ่การผลิตอาหาร โดยมีแนวคิดที่ต้องการจัดทําระบบการรับรองที่สามารถลดความซ้ำซ้อน โดยมาตรฐานที่ได้รับการรับรองภายใต้ GFSI ณ ปัจจุบันมีทั้งหมดด้วยกัน 11 มาตรฐาน

นอกเหนือจากนี้ยังมีมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ SQF (The Safe Quality Food) Edition 8, CanadaGAP Version 7.1, Global Aquaculture Alliance Seafood Processing, Global GAP ภายใต้ชื่อมาตรฐาน IFA Version 5.2, GRMS (Global Red Meat Standard) Version 6.0, PrimusGFS Version 3.0, JFSM (Japan Food Safety Management Association) ภายใต้ชื่อมาตรฐาน JFS-C Version 2.3 และ JGF (Japan GAP Foundation) ภายใต้ชื่อมาตรฐาน ASIAGAP version 2.1 ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้ GFSI เช่นกัน

As we have known that food is one of the essential requisites for human livings, when the number of populations increase, it results in more demand for food. Therefore, the production to serve such demand also increases. However, the more productions have been made, the more errors can be occurred. It is necessary to have a standardization to control quality and food safety from the general food standard to international food standard both in compulsory form or the voluntary of each food factory.

At present, the international standard having a serious impact on trade in food industry is the standard of private sector that affects international trade, namely The Global Food Safety Initiative or GFSI that creates large effects on international trading of food products. GFSI was found by an integration of a large group of retailers, which was established in 2000. The CIES-The Food Business Forum was act as the coordinator, while the foundation management committee is responsible for determining strategically direction and managing the food production chain with the concept of creating a certification system that can reduce duplication. There are11 standards that are currently certified under GFSI.

In addition, there are other standards include SQF (The Safe Quality Food) Edition 8, CanadaGAP Version 7.1, Global Aquaculture Alliance Seafood Processing, Global GAP under the standard namely IFA Version 5.2, GRMS (Global Red Meat Standard) Version 6.0, PrimusGFS Version 3.0, JFSM (Japan Food Safety Management Association) under the standard namely JFS-C Version 2.3 and JGF (Japan GAP Foundation) under the standard namely ASIAGAP version 2.1, which is certified under GFSI as well.

Technology Revolution Enhances Automation

การปฏิวัติเทคโนโลยีเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบอัตโนมัติ

By: บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จํากัด
Mettler-Toledo (Thailand) Limited
MT-TH.CustomerSupport@mt.com

Full article TH-EN

ความต้องการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในตลาดอาหารที่มีการแข่งขันสูงกำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกขณะ ดังนั้น การเชื่อมต่อระหว่างกันและการสื่อสารโดยตรงของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องมือตรวจสอบที่สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเครื่องได้ในตัวจึงสามารถสร้างประโยชน์ต่อโรงงานผู้ผลิตอาหารได้อย่างมาก ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ขององค์กรโดยรวมไปในตัวด้วย

คำว่า “อุตสาหกรรม 4.0” และ “Industrial Internet of Things” (IIoT) กำลังกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันเนื่องจากโรงงานจำนวนมากขึ้นกำลังเปลี่ยนไปสู่การเป็น “โรงงานอัจฉริยะ” คำศัพท์ข้างต้นนี้คือ หัวใจหลักของระบบอัตโนมัติที่กำลังเพิ่มขึ้นและการปรับปรุงกระบวนการสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิตอาหารและผู้ผลิตวัตถุดิบกำลังพบว่าพวกเขาถูกกดดันมากขึ้นในการขานรับความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่ความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความคาดหวังที่สูงขึ้นในเทคโนโลยีการชั่งน้ำหนักและการตรวจสอบในการใช้เป็นโซลูชันเพื่อปรับปรุงกระบวนการการผลิต เพิ่มระบบการทำงานอัตโนมัติ และให้ข้อมูลที่ชัดเจนผ่านข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การแจ้งเตือนล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ
ในการทำงานแบบแมนนวลดั้งเดิม ข้อมูลจะถูกเก็บ บันทึก และกระจายไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายระดับอยู่เรื่อยๆ เช่น ทีมงานบำรุงรักษาอาจตรวจสอบพารามิเตอร์ของอุปกรณ์และบันทึกประสิทธิภาพด้วยตนเอง แต่การทำเช่นนั้นไม่ได้ช่วยหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของสายการผลิตทั้งหมดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ไม่ได้มีการเฝ้าระวังตรวจสอบ ซึ่งความสามารถในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของสายการผลิตได้ของเครื่องมือนั้นสามารถช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวได้ ผ่านการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าอาจมีการหยุดสายการผลิตก่อนที่จะดำเนินการหยุดสายการผลิตจริง และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการบูรณาการความสามารถนี้เข้าไปในเครื่องจักรให้สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานในแต่ละวันและเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์โดยรวม (OEE) ให้ดีขึ้น

The need to improve process efficiency in highly competitive food markets is constant. Interconnectivity and direct communication using weighing and inspection equipment with built-in diagnostics delivers real benefits for processors while keeping pace with Industry 4.0 developments.

The terms “Industry 4.0” and the “Industrial Internet of Things” (IIoT) are becoming commonplace as more facilities become “smart factories.” These terms are at the core of increased automation and process improvement for foods industry.

Increasing Pressure
Raw material processors and manufacturers are finding themselves under increasing pressure to react quickly to fulfill customer requirements. This leads to the need to improve production efficiency and heightens expectations for weighing and inspection technology to deliver solutions that streamline processes, increase automation and provide visibility through real-time data.

Automated Advanced Warnings
In traditional manual operations, data is frequently captured, documented and distributed with varying degrees of human intervention. For example, maintenance teams may monitor equipment parameters and log performance manually. But that does not necessarily avoid a complete line stoppage that may occur in the event of an unmonitored trend that is allowed to drift outside acceptable tolerances. Built-in diagnostics can avoid such events, providing advanced warning of a potential line stoppage before it actually occurs. This is just one example of how integrated diagnostics can improve day-to-day processes and enhance Overall Equipment Efficiency (OEE).

Chr. Hansen launches Sweety® Y-1

 

The first culture in the world allowing dairy manufacturers to create naturally sweeter products while reducing added sugar

8 May 2019 – Health organizations, governments and retailers are setting objectives to reduce sugar in foods while consumers are increasingly focusing on sugar content, looking for healthy and natural products that taste great. This means dairy manufacturers are experiencing pressure to reduce added sugar in their products, especially in yogurt.

“Dairy manufacturers often add sugar to their products to compensate for the taste of post acidification, finding the right balance between sweet and sour. With our new patented culture, post acidification is very low, which reduces the need for added sugar,” says Jessica Bentley, commercial development manager, Fresh Dairy at Chr. Hansen.

Exploit the natural sweetness in milk
Sweety® Y-1 is an innovative culture solution allowing the natural creation of sweetness by unlocking milk’s own resource – lactose.

“Using what is naturally available in milk and applying our expertise in culture application, we have developed a culture that will enable a sweeter taste than other cultures can,” explains Kim Soerensen, senior principal scientist in strains, Bacterial Physiology at Chr. Hansen.

Sweety® Y-1 is a culture solution using Streptococcus thermophilus and Lactobacillus bulgaricus cultures. It can convert the existing sugars in milk, using more of the lactose and yielding glucose – which provides a greater sweetness intensity. This means you can add less sugar and still get the same sweet-tasting product, resulting in a healthier product offering.

Let your yogurt stay sweet throughout shelf life with a clean label
With Sweety® Y-1, Chr. Hansen brings a groundbreaking innovation to the dairy market. The culture enables manufacturers to meet modern market trends and consumer demands for healthy food by reducing added sugar without compromising the good taste of the product.

“Sweety® Y-1 is a mild culture with superior pH stability. This enables dairy manufacturers to create products that maintain sweetness throughout shelf life. As the first and only company to launch such a solution, we expect a lot of interest and are excited to engage with our customers,” Bentley elaborates.

Using Sweety® Y-1 cultures in the production of fermented dairy foods enables dairy producers to:
– Enhance sweetness by converting the existing sugar in milk
– Maintain the sweet taste during shelf life with very low post acidification
– Create natural and clean label products without the use of artificial sweeteners

“At Chr. Hansen, we are dedicated to improving food and health – not only for this generation but for the generations to come. To do this, we are actively contributing to the UN Global Goals, including goal number three: Good health and well-being. Sweety® Y-1 fits this agenda perfectly by using nature’s own resources to provide good tasting fermented dairy products with less sugar added, enhancing a healthy lifestyle,” Bentley concludes.