Romer Labs Launches AgraStrip Coconut Test Kit

Products

Romer Labs is expanding its AgraStrip® allergen testing portfolio, already the largest commercially available, with the AgraStrip® Coconut kit, which detects coconut in foods, beverages and rinse waters and on surfaces at an LOD of 10 ppm coconut. All AgraStrip® allergen test kits share the same extraction procedure, ensuring a convenient and streamlined workflow.

Romer Labs, a leading provider of diagnostic solutions for the agricultural, food and feed industries, is introducing a new test kit to its AgraStrip® portfolio of lateral flow devices. The AgraStrip® Coconut test kit brings the simplicity and reliability that all kits in the AgraStrip® line share to an analyte of great importance to food production segments as diverse as confectionery, dairy and infant formula.

Featuring an LOD of 10 ppm for coconut in food matrices, beverages and rinse waters, the AgraStrip® Coconut test kit brings a much-needed solution to food producers looking either to prevent coconut contamination or to inform their consumers with accurate labeling regarding coconut content.

AgraStrip® Coconut kits are highly sensitive immunochromatographic LFDs designed for the detection of coconut in foods and beverages and for the validation and monitoring of cleaning procedures by testing rinse waters and environmental swab samples.

Products

Though relatively rare, all documented cases of coconut allergy have manifested as anaphylactic reactions, which can be lethal when not promptly treated. Thanks to its inclusion as a “tree nut” in the “Big 8” list of food allergens, coconut is gaining in awareness as a significant food allergen. It is a very versatile ingredient, appearing in cosmetics and foods in the form of coconut water, coconut milk and powder, coconut cream and fresh and dried coconut meat or flour.

 

“We are proud to add yet another testing solution to our already comprehensive AgraStrip® line of solutions with the AgraStrip® Coconut test kit,” said Eva Wanzenböck, Managing Director, Romer Labs. “The AgraStrip® Coconut kit has the same advantages that our customers have come to expect from the AgraStrip® line: a very fast time-to-result of 11 minutes including extraction, stability at room temperature, a long shelf life and at 10 ppm coconut one of the lowest LODs around. All AgraStrip® test kits share the same extraction procedure for allergenic analytes, making the whole portfolio an industry leader in convenience and accuracy.”

 

 

2020 Food Packaging Trends from Beyond the Packaging Conference

ส่อง 10 ไอเดียดีไซน์บรรจุภัณฑ์ปี 2020 เตะตา ต้องใจ ผู้บริโภคจากงานสัมมนา Food & Beverage Packaging Conference: Beyond the Packaging

 

คุณนลินี ทองแท้ ผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์ด้านการออกแบบกราฟิกเเละผลิตภัณฑ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เปิดเผยข้อมูลด้านเทรนด์บรรจุภัณฑ์ในปี 2020 ภายในงานสัมมนา Food & Beverage Packaging Conference: Beyond the Packaging ซึ่งจัดขึ้นภายในงานแสดงสินค้า Pack Print International 2019 ไว้อย่างน่าสนใจ

“เคยไหมที่ตัดสินใจซื้อสินค้าเพียงเพราะบรรจุภัณฑ์”

“บรรจุภัณฑ์” เปรียบเสมือนประตูด่านแรกของการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคโดยเฉพาะกับแบรนด์สินค้าที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ตลาด และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก โดยจากงานวิจัยของ C Space ที่ปรึกษาด้านธุรกิจในบอสตันระบุว่า ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และให้คุณค่ากับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในระดับที่ใกล้เคียงกับคุณภาพและประโยชน์ของสินค้าดังกล่าว

ขณะที่ผลการสำรวจของ Bizongo ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อผู้บริโภคพบว่า กว่า 63% ของผู้บริโภคมีพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าจากบรรจุภัณฑ์ที่น่าดึงดูด แม้ว่าการเติบโตของการสั่งซื้อของออนไลน์ หรือ e-Shopping จะเข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน แต่กว่า 79% ของผู้บริโภคยังคงต้องการซื้อสินค้าที่ใช้บริโภค อุปโภคในชีวิตประจำวัน อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน ฯลฯ จากร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต มากกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ถึง 46% มีทัศนคติยอมรับและเปิดใจให้โอกาสกับแบรนด์สินค้าหน้าใหม่ในท้องตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ SMEs และสตาร์ทอัพ รวมถึงธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ ให้มีโอกาสก้าวเข้ามาแข่งขันในท้องตลาดได้มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน ‘บรรจุภัณฑ์’ ทำหน้าที่มากกว่าแค่การบรรจุสิ่งของ แต่ถูกนำมาใช้เพื่อการสื่อสารการตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์สินค้า (Brand Identity) การสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค (Intimacy) ไปจนถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเชื่อมการสื่อสารไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ของแบรนด์ (Integration) โดยคาดว่าเทรนด์การออกแบบมาแรงในปี 2563 ซึ่งน่าจะได้รับกระแสตอบรับและการพูดถึงบนโลกโซเชียลจากผู้บริโภคบ่อยครั้ง ได้แก่

มินิมอลดีไซน์ (Minimalism) ยังเป็นหนึ่งเทรนด์ออกแบบที่ยังคงได้รับความนิยมกับการออกแบบที่คงความเรียบง่าย และสื่อสารได้ชัดเจน โดยมินิมอลดีไซน์ไม่เพียงได้รับการประยุกต์ใช้มากในกลุ่มบรรจุภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงโปรดักต์ดีไซน์ในชีวิตประจำวันรอบตัวก็ยังหยิบเอาเทรนด์มินิมอลไปพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เอาใจคนรุ่นใหม่อีกด้วย ซึ่งมินิมอลดีไซน์ไม่จำเป็นจะต้องจืดชืดไร้สีสันเสมอไป แต่ยังสามารถเติมเต็มความมีชีวิตชีวาด้วยสีสันเข้าไปให้สนุกสนานมากขึ้นได้อีกด้วย

 

การไล่โทนสี และการใช้สีสันฉูดฉาด (Vibrant Gradients) การไล่เฉดสีเป็นการออกแบบที่เป็นกระแสในการดีไซน์ประเภทอื่นๆ แต่สำหรับงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ยังนับว่ามีให้เห็นน้อยชิ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2563 น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของวงการออกแบบในประเทศที่หันมาใช้ดีไซน์ไล่เฉดสีมากขึ้น อาทิ การไล่เฉดสีจากอ่อนไปแก่ จากสีหนึ่งเปลี่ยนเป็นอีกคู่สีหนึ่ง หรือจะเน้นไปที่โทนสีนีออน และสีเรืองแสง เพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวบรรจุภัณฑ์โดดเด่นสังเกตได้ตั้งแต่ไกล

 

กราฟิกแบน (Flat Illustration) การออกแบบแนวสองมิติ (2D) ที่เน้นความเรียบง่าย ตัดทอนแสงและเงา และส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ผู้บริโภคสามารถโฟกัสเนื้อหาหลัก และไม่เสียเวลาให้กับรายละเอียดที่ความจำเป็น เช่น ลดลายเส้นที่รกมากจนเกินไป หรือใช้สีที่น้อยลง เป็นต้น เหมาะกับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการใช้ภาพในการเล่าเรื่องราว แต่ยังคงสื่อสารเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน

 

เน้นตัวอักษรและคำบรรยาย (Big Text & Bold Copies) การออกแบบโดยใช้การเน้นตัวอักษร และคำบรรยายขนาดใหญ่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบดังกล่าว สามารถดึงดูดสายตาได้ และมักแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์ในท้องตลาดทั่วไปที่ยังคงมีการใช้ภาพร่วมกับตัวอักษร นอกจากนี้ ข้อได้เปรียบของดีไซน์ดังกล่าวนั่นคือ สามารถสื่อสารไปยังผู้บริโภคได้ครบถ้วน เข้าใจง่ายกว่าการใช้การบรรยายด้วยภาพ

 

ตัวหนังสือและภาพวาดลายเส้น (Doodle & Hand-drawn Lines) การออกแบบด้วยตัวอักษรและภาพวาดลายเส้น ให้ความรู้สึกลื่นไหล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้สึกที่เป็นมิตร และความสนุกสนานให้กับผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผู้บริโภคอยู่ในช่วงเด็กจนถึงวัยทำงาน

 

ดีไซน์ย้อนสมัย หรือวินเทจ (Vintage) สไตล์วินเทจเป็นเทรนด์ที่แทบจะอยู่ในทุกงานออกแบบ เพราะเป็นสไตล์ที่มีความคลาสสิกในตัว สามารถใช้ได้ตลอดไม่ว่ายุคสมัยไหน โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์สินค้าประเภทงานคราฟต์ หรืองานที่ใช้ขั้นตอนเยอะ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความวินเทจนั้นจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความพิถีพิถัน เพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี

 

วัสดุรักษ์โลก (Eco-Friendly) ปัจจุบัน ในหลายประเทศเริ่มมีการลดการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็น เพื่อให้เกิดสังคมที่ปราศจากพลาสติก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ดังนั้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณค่า ควรทำมาจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

 

โทนสีขาวดำ (Black & White) อีกหนึ่งเทรนด์ที่มีความคลาสสิกไม่แพ้กัน โดยเริ่มสังเกตเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของคุณผู้ชาย ที่นิยมออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้วยโทนสีขาวดำ เพื่อเพิ่มความหนักแน่นให้กับตัวแบรนด์และตัวสินค้า แต่ปัจจุบัน เริ่มมีการใช้สีขาวดำในสไตล์ที่เรียบง่ายและมินิมอลขึ้น ทำให้เป็นเทรนด์การออกแบบที่สามารถอยู่ได้ในทุกสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์ของผู้หญิงและผู้ชาย

 

การใช้ภาพถ่ายสื่อสาร (Photography) อีกหนึ่งเทรนด์การออกแบบที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่อง ด้วยการใช้ภาพถ่ายจจริงมาประกอบเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงตัวสินค้า รวมถึงภาพอาหารที่สวยงามเหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และสะท้อนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้พบเห็นอีกด้วย

 

สมาร์ทบรรจุภัณฑ์ (Smart Packaging) เทรนด์การออกแบบเชิงฟังก์ชันการใช้งานที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ยังไม่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย โดยเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์มาพัฒนาขึ้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติการใช้งานเพิ่มขึ้น อาทิ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อผลิตภัณฑ์หมดอายุ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยบอกความสุกของผลไม้ได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ นักออกแบบ และนักการตลาดต้องพัฒนาบรรจุภัณฑ์ร่วมกัน เพื่อให้สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ และข้อมูลของผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้อง ขณะที่ยังคงดึงดูดผู้บริโภคผ่านดีไซน์การออกแบบ นอกจากนี้ ยังควรพัฒนาไอเดียการทำบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมากกว่าแค่ภาชนะบรรจุสินค้า อาทิ แคมเปญบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มอัดลมชื่อดัง ที่ใช้แนวคิดการสร้างความใกล้ชิดด้วยการพิมพ์ชื่อลงบนบรรจุภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มสำหรับงานสังสรรค์ ที่สามารถเรืองแสงได้เมื่ออยู่ในความมืด เป็นต้น ซึ่งตอบโจทย์การใช้งาน และพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์สินค้าได้บนโลกโซเชียลอีกด้วย

มาดูทางด้านตลาดบรรจุภัณฑ์ในประเทศกันบ้าง พบว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทยพบว่า ประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และคาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคจะมีสัดส่วนสูงถึง 40% จากทั่วโลกในปี 2565 ซึ่งได้รับอานิสงค์จากกลุ่มธุรกิจหลักของประเทศ อย่างอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ขณะที่ประเทศยังประสบความท้าทายด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อก้าวเข้าแข่งขันในตลาดสากล

เจาะลึกเรื่องราวและค้นหาโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ตอบรับเทรนด์ดังที่กล่าวมานี้ได้ที่งานแสดงสินค้า Pack Print International 2019 ซึ่งเป็นมหกรรมจัดแสดงนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ระหว่างวันที่ 18  – 21 กันยายน ณ ไบเทค บางนา ผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรม ทั้งผู้ผลิต นักออกแบบ นักการตลาด ผู้ประกอบการ ฯลฯ ไม่ควรพลาด โดยภายในงานจะรวบรวมนวัตกรรมชั้นนำจากทั่วโลก ที่ช่วยเร่งการเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ลดข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี และสร้างโอกาสให้กับการผลิตประเทศ รวมถึงงานสัมมนาอัปเดตเทรนด์ในวงการอุตสาหกรรม และบริการแมทชิ่ง และให้คำปรึกษา ระหว่างคู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และอุตสาหกรรมไทยในอนาคต

 

 

 

Discovering the Role of Yeast Extracts in Salt Reduction and Boosting Nutritional Profiles with LESAFFRE

Globally, health and wellness trends continue to drive the growth of the food and beverage industry – in 2018, the health and wellness food industry reached USD446 billion, growing faster than the overall food segment.

As a global player in the yeast and fermentation industry, Lesaffre seeks to provide its customers with tailored solutions that help them meet the demands of consumers. Lesaffre provides Asia-Pacific manufactures and markets with an innovative solution as following, Baking (Lesaffre), Food Taste & Pleasure (Biospringer), Healthcare (Gnosis) and Biotechnology (Procelys).

Baking – Innovative and effective yeasts, bread improvers, premixes and sourdough baking solution of Lesaffre Yeast and Baking Solutions can help a manufacturer to create new on-trend products and develop new process as well as provide sensory analysis and training.

“Revisiting Baking” New perceptions to the frozen dough, sourdough and sensory introduced in Lesaffre’s exclusive seminar for industrial held as a pre-Fi Asia 2019 in Bangkok on September 10, 2019

Food Taste & Pleasure – Yeast ingredients and yeast extracts that improve the taste and sensory properties of foods and drinks. Biospringer by Lesaffre offers a range of solutions for taste improvements, creation of signature flavours, healthier formulations, clean label and vegan.

As part of the exhibition at Fi Asia 2019, Lesaffre’s business units have worked to harness the synergies between their businesses to showcase food products that have been developed with a full suite of the company’s solutions that cater to different consumer trends.

Gianfranco Galleri, APAC General Manager, Biospringer has revealed key trends in Asia-Pacific food industry market that have guided the development of innovative solutions in the yeast extract that “There is increasing awareness of personal well-being among modern consumer that drives demand for quality diets and healthier alternatives. We have the solution for gluten-free, reduced sugar, lower sodium, as well as functional foods and organics with the highest global standards of production and we, also have food engineering to work with clients for developing a new product.”

Due to hectic lifestyles and a rising demand for convenience, most people consume an average of 9-12g of salt a day, two times more than the recommended maximum level of intake. This increases the risk of diseases such as heart conditions and hypertension.

“As consumers become more conscious about their health and the food they consume, Biospringer has leveraged on its expertise in food taste and flavouring to develop products that can help reduce salt in recipes without compromising on taste.” Said Gianfranco.

At Fi Asia 2019, Biospringer has introduced about yeast extract and derived ingredients from yeast for baking solutions with highly interested from visitors in the food and beverage industry.

– Spicy Chicken Floss Bun: Experience and exciting burst of flavours and textures, combining softness, spiciness and health all in one!

– Oh-So-Divine Chocolate Croissant: Lesaffre LIVENDO LV1 sourdough starter – enhances the creamy and buttery aromas of bread with sourdough and Biospringer Springer 6008 – booths natural roasted cocoa note.

– Savoury Dippers with Cheddar Sauce: Crusty bread sticks paired with creamy rich cheddar sauce.

– Flaming Toast: Lesaffre LIVENDO F200 – enhances the taste profile of the country baguette, providing it with a more roasted and wheaty flavor. With Biospringer Springer 1405 – highlights spiciness of peri-peri mayo, creating the perfect balance of spices, garlicky and lemony flavor.

 

Find more Lesaffre yeast and baking solutions at www.lesaffre.com

 

 

Interroll’s New Plant in Thailand Fully Operational

 

Sant’Antonino, Switzerland/Bangkok, Thailand, 9 September 2019 – Interroll (Thailand) Co., Ltd. has moved to a new, state-of-the-art plant in Phantong (Chon Buri) in order to seize growth opportunities in Southeast Asia.

 

Interroll Thailand has completed its relocation to a new location in Phantong (Chon Buri) which provides a shop floor of more than 4,800 square meters as well as a 700-square-meter office space in attractive Interroll design.

 

The construction of the new plant in Thailand is an important part of Interroll’s consistent globalisation strategy. Growth markets in Southeast Asia—especially Indonesia, Philippines, Vietnam and Myanmar—show a good demand for Interroll products, with significant potential for the long-term future. Moreover, an increase in the base of installed material handling systems in the region provides additional opportunities for services in the region.

“We are running a state-of-the-art location with improved capacities here,” says Grisorn Nakapong, Managing Director of Interroll Thailand. “The locally manufactured products are Rollers, RollerDrive, Pallet Flow, and Drum Motors service. Our customers can also count on upgraded Drum Motor services, which we provide at this location.”

 

Increased Productivity and Shorter Delivery Times

By the end of 2019, a production line for the Modular Conveyor Platform (MCP) will be added. Moreover, the container loading area has been laid out to support big orders of Pallet Flow for markets in Southeast Asia. The facility also provides an in-house canteen for the employees as well as multipurpose areas for sports and team building activities. Modern office concepts facilitate communication among employees and within project teams.

 

“By introducing product lines with One Piece Flow and a high degree of automation, we have further raised our productivity significantly,” says Jens Strüwing, Executive Vice President Products & Technology at Interroll. “The new plant enables us to shorten delivery times for our customers in the region by 30 to 50 percent and to produce a much larger range of our solutions in proximity to our Southeast Asian target markets.”

 

EURASTiP มั่นใจใน “อุตสาหกรรมกุ้งทะเลไทย” กรมประมง…วอนผู้บริโภคอย่าเชื่อข่าวลวง

ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตกุ้งทะเลที่สำคัญ แต่จากข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้การผลิตกุ้งทะเลของไทยลดปริมาณลงเป็นอันมาก แต่กระนั้นก็ตามไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกในระดับต้นๆ ของโลกที่หลายประเทศให้ความสนใจและจับตามอง

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากการแข่งขันทางการค้าของ “กุ้งทะเล” ที่สูงมากขึ้น
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อมี “ข่าว” ไม่ว่าในทิศทางใดจะกระตุ้นความสนใจ และพร้อมที่จะ “แชร์” ต่อไปอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง จะเห็นได้จากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีวีดีโอที่เผยแพร่ออกมาใน YouTube โดยองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรของประเทศเยอรมนี หัวข้อเรื่อง “The dirty business with the shrimp” ซึ่งงานสารคดีชิ้นนี้นำเสนอภาพที่เป็นลบกับการเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทย ที่จะทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกเข้าใจผิดต่อภาพลักษณ์กุ้งทะเลของไทย โดยข้อมูลทั้งหมดเป็น “เรื่องเก่า” ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่ Dr.David Bassett, Program Manager ของ EURASTiP หรือ The European Asian Aquaculture Technology and Innovation Platform ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืน ยังได้มีคำแถลงในงาน Aquaculture in Thailand: Challenges and opportunities for Europe เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 ถึงวีดีโอดังกล่าวว่า

“…. วิดีโอที่ทำใหม่เป็นภาคภาษาอังกฤษชุดนี้ เป็นชุดเดียวกันกับ “Schmutizge shrimps-dirty shrimp in German” ซึ่งเผยแพร่ในเยอรมนี เมื่อปี พ.ศ.2555 ซึ่งหมายความว่า นอกจากเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเท็จแล้ว วิดีโอการนำเสนอครั้งนี้ยังเป็นข้อมูลที่ล้าสมัย โดยเฉพาะประเด็นการกล่าวอ้างว่า พื้นที่ป่าชายเลนของไทยถูกทำลายล้างด้วยฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล มีการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีที่ผิดวิธี มีการปล่อยน้ำทิ้งที่ทำความเสียหายแก่แม่น้ำลำคลองและสร้างมลพิษเป็นอันตรายกับเด็กที่ไปว่ายน้ำบริเวณนั้น รวมทั้งการจ้างแรงงานผิดกฎหมายจากเมียนมา และเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์เลย ไม่มีการพูดถึงสิ่งที่รัฐบาลไทย รวมทั้งสมาคมกุ้งทะเลต่างๆ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้พยายามร่วมมือกันมาโดยตลอดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างให้อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลของไทยมีความยั่งยืน…” และ EURASTiP ยินดีที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อต่อต้านข้อมูลและเนื้อหาที่เป็นเท็จในวิดีโอชุดนี้ Dr.David Bassett กล่าวทิ้งท้าย
ในฐานะประเทศไทย กรมประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล และผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดสายการผลิต ขอขอบคุณ EURASTiP ผู้นำเข้า และผู้บริโภคทั่วโลก ที่เชื่อมั่น “อุตสาหกรรมกุ้งทะเลไทย” ตลอดมา และยืนยันว่า อุตสาหกรรมกุ้งทะเลของไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาไปสู่ “ความยั่งยืน” และขอความร่วมมือทุกท่านในการหยุดยั้งการ “แชร์” วีดีโอที่มีเนื้อหาอันเป็นเท็จชุดนี้ และช่วยกัน “เผยแพร่” และ “นำเสนอ” ข้อมูลที่ถูกต้อง หากท่านใดต้องการข้อมูลการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลของไทยที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน สามารถติดต่อประสานขอข้อมูลที่กรมประมงได้ตลอดเวลา อธิบดีกรมประมงกล่าวทิ้งท้ายในที่สุด

EURASTiP confidence in “Thai Shrimp Industry”
Thai Department of Fisheries requests the consumers don’t believe of the false statement

Thailand is one of the major shrimp producers of the world. Even facing environmental challenges and disease outbreak crisis causing the decrease of shrimp production, Thailand is still in the top rank of marine shrimp exporting country in the global market.

Dr. Adisorn Promthep, the Director-General of the Department of Fisheries, said that with intense competition in shrimp global market, any positive or negative news cause high interest of consumers and they are ready to share or follow the news. There is the video released last week on YouTube by a German NGO entitled “The dirty business with the shrimps”. This documentary presents a very negative image of the shrimp farming sector in Thailand. This cause misunderstanding and deter the consumers from the fact resulting in damaging the image of Thai shrimp. The documentary presents “old” situation of shrimp farming since 2011; however, our farming has made a great improvement upon sustainable manner. Dr.David Bassett, Program Manager of EURASTiP or The European Asian Aquaculture Technology and Innovation Platform; which aims at reinforcing international cooperation on sustainable aquaculture production with countries from South East Asia, gave his speech at the event “Aquaculture in Thailand: Challenges and Opportunities for Europe” on 2 September 2019 that “This new video is just an English version of the same programme “Schmutizge Shrimps” – dirty shrimp in German – that was circulating in 2012 in Germany. This means that – aside from false statements – the present video is completely outdated, particularly for all the wrong claims on how mangrove areas are cleaned for shrimp farming, misuse of antibiotics and other chemicals, pond discharges making rivers toxic and dangerous for children swimming in these waters, all the illegal workers from Myanmar, and so on. Nothing constructive, not considering all the efforts over the last decade to make the shrimp farming more sustainable by the Thai government authorities, shrimp farm associations and service providers. The EURASTIP partners are available to provide all the necessary documentation to counter the false statements made in the video.

The Director-General of the Department of Fisheries concluded that on behalf of the competent authority of Thailand, Thai shrimp farmers, and other stakeholders the whole value chain would like to thank EURASTiP importers, and consumers for their confidence in “Thai shrimp industry” “We reiterate that Thailand has given priority to “sustainability of shrimp industry. We ask to stop sharing this false statement/documentary and please assist us to “publish” and “provide” the accurate and update information and should further information be needed please contact the Department of Fisheries.

U.S. Dairy Inspires Healthy Snacking Advances at Fi Asia 2019

Innovative, Thai-friendly new product concepts with U.S. dairy proteins and permeate aligned with consumer trends for nutritious and adventurous eating

 

Consumers today are more discerning than ever, seeking out convenient ready-to-eat and ready-to-drink foods, snacks and beverages that not only are delicious and nutritious but also deliver multisensory, adventurous flavor and texture experiences. At this week’s Food Ingredients Asia 2019 (Fi Asia) show in Bangkok, the U.S. Dairy Export Council (USDEC) is addressing how U.S. dairy ingredients – including whey and milk proteins and permeate – are advantageous ingredient solutions poised to effectively meet these wide-ranging consumer expectations.

Dairy proteins represent a unique and powerful group of proteins – they are a high-quality, complete protein naturally found in milk and contains all essential amino acids, including leucine, which plays a central role in stimulating muscle protein synthesis. In addition, their neutral flavor profile creates a perfect space for manufacturers and consumers to add them into both sweet and savoury foods to raise the quantity and quality of protein consumed. These inherent characteristics of multifaceted nutrition, broad functionality and winning taste give U.S. whey and milk proteins an edge in paving the way for more innovative food and beverage solutions supporting health and wellness goals such as weight management, exercise recovery and healthy aging.

To showcase how U.S. dairy proteins can successfully be utilized in nourishing products appealing to consumers across age groups, USDEC highlighted several Southeast Asia-friendly on-the-go snack concepts, including developing a new high-protein spicy mango chewy prototype containing U.S. whey protein isolate at the Fi Asia booth. The prototype was developed in partnership with Singapore Polytechnic’s Food Innovation and Resource Centre (FIRC) and exemplifies the endless possibilities that U.S. dairy proteins possess in fulfilling Southeast Asia’s consumers’ preferences for delicious, nutritious and convenient ways to optimize their protein intake throughout the day.

“The high-protein spicy mango chewy has a surprisingly complimentary sweet, sour and spicy combination, offering consumers excitingly new flavor discoveries in addition to providing a quality protein boost,” said Martin Teo, Technical Director for Food Applications, USDEC, Southeast Asia. “It was developed to be a prototype to inspire end-users to think beyond common flavors and be creative in their product innovation with U.S. dairy proteins. It is also one of many product ideas demonstrating that U.S. dairy ingredients possess the versatility to be successfully added into Asian-style protein-fortified snacks and foods while complementing diverse consumers’ lifestyles,” he added.

Beyond innovating more protein-enriched foods, developing sodium-reduced food options is another significant opportunity for Southeast Asian food producers to help combat the rising incidences of hypertension and other lifestyle diseases. As part of the technical symposium at Fi Asia on September 13, Teo will unveil findings from recent research conducted by FIRC demonstrating the viability of using U.S. dairy permeate as a beneficial flavor-enhancing ingredient in better-for-you, sodium-reduced savoury snacks and seasoning applications. With Southeast Asian consumers as the focus target, the study encompassed formulation trials and sensory evaluation phases examining rice and prawn crackers as well as spicy curry and BBQ seasonings made with U.S. permeate. The study found that the sodium content of crackers and seasonings could be reduced by 20%-40% with the addition of U.S. dairy permeate while maintaining a desirable flavor profile.

This year’s multifaceted Fi Asia show presence including Thai-friendly prototypes reinforces that health and wellness innovation with U.S. dairy protein and permeate is firmly in the spotlight in Southeast Asia and can well support regional manufacturers’ needs for proven ingredient solutions balancing taste, nutrition, functionality and adventure in products aligned with local consumer preferences.

For further resources on nutrition and innovation information with U.S. dairy ingredients, visit ThinkUSAdairy.org/SEAsia.

 

About U.S. Dairy Export Council

The U.S. Dairy Export Council® (USDEC) is a nonprofit, independent membership organization that represents the global trade interests of U.S. dairy producers, proprietary processors and cooperatives, ingredient suppliers and export traders. USDEC aims to enhance U.S. global competitiveness through programs in market development that build global demand for U.S. dairy products, resolve market access barriers and advance industry trade policy goals. As the world’s largest producer of cow’s milk, the U.S. dairy industry offers a sustainably produced, world-class and ever-expanding portfolio of cheese varieties as well as nutritional and functional dairy ingredients (e.g., skim milk powder, lactose, whey and milk proteins and permeate ingredients). USDEC, together with its network of overseas representatives in Southeast Asia and around the world, also works directly with global buyers and end-users to accelerate customer purchasing and innovation success with quality U.S. dairy products and ingredients.

IMCD acquires the business of food ingredient distributor Matrix Ingredients in Singapore and Malaysia

Singapore – IMCD N.V., a leading distributor of speciality chemicals and food ingredients, announced that it acquired the food distribution business of Matrix Ingredients Pte. Ltd., and Matrix Ingredients Sdn. Bhd., in Singapore and Malaysia, respectively.

 

Established in 2002, Matrix Ingredients, a leading solution provider, offers ingredients, technical services and formulation advice in the savoury and processed meat segments. In addition, to servicing both these segments, Matrix Ingredients’ experts work with suppliers and customers on establishing solutions for plant-based meat alternatives, aiming to meet the increased demand for plant-based protein products. Global (animal) protein market is set to grow by 45% in the next two decades, while 60% of this growth will be in South East Asia.

 

Low Boon Weng, Business Group Director IMCD Food & Nutrition APAC, comments: “An increasing disposable income, a growing demand for convenience as well as the increased need for high quality and safe processed foods are all contributing factors to propelling the growth of the processed savoury and meat markets in the South East Asia region.”

 

Haiko Zuidhoff, Vice President, IMCD APAC, adds: “With Matrix Ingredients’ leadership position in the Singapore and Malaysian market, IMCD establishes a solid position in the fast-growing savoury and processed meat segment. Together we are well positioned to deliver accelerated growth in the APAC region to our suppliers.”

 

Moy Teo, owner of Matrix Ingredients, also comments: “By joining IMCD, we look forward to expanding our business in the meat processing segment by combining each other’s network and expertise. It’s an excellent opportunity and we look forward to achieving further growth together.”

 

Both companies will expand their offering to customers with the set-up of a dedicated savoury and processed meat laboratory and the appointment of additional master-butchers in South East Asia for technical and formulatory advice.

 

Tesco Lotus first retailer in Southeast Asia to sell only cage-free eggs

Tesco Lotus, one of the largest retailers in Thailand, has announced it will sell exclusively cage-free eggs at all its stores by 2028. As part of its sustainable sourcing policy, the British-backed company also pledged to source all of its packaged pork from sows not confined in gestation crates by 2027. The retail giant operates more than 2,000 stores in Thailand in five different formats: Hypermarket, Extra, Department Store, Talad, and Express.

Humane Society International, one of the largest and most effective animal protection organizations in the world, applauds this announcement. Dawn Neo, HSI’s corporate outreach manager for farm animal welfare in Asia, said: “We congratulate Tesco Lotus for becoming the first retailer in Southeast Asia, and the first company in Thailand, to commit to a cage-free egg policy, with full implementation by 2028. This important commitment will improve the lives of millions of animals and help to raise animal welfare standards in Thailand and throughout the region.”

Kris Comerford, Tesco Lotus’ product director, stated: “At Tesco Lotus, we strive to offer high quality, healthy, and sustainable products at affordable prices to our customers. To deliver this ambition we have set out a clear policy for sustainable sourcing which includes treating animals in our supply chain humanely at all life stages. Pork meat and eggs are key food items for customers in Thailand and we see opportunities to enhance sourcing standards of these products. By taking the lead, we hope to improve ethical sourcing standards including animal welfare practices in Thailand, so that customers will have access to sustainable products at affordable prices.”

In its transition roadmap, Tesco Lotus plans to ensure that all its packs of 10 eggs come from cage-free hens by 2023, and ensure that all its brand eggs are cage-free by 2028. Currently, Tesco brand organic free-range eggs and cage-free eggs are available at 400 of the company’s larger stores, while ready-to-eat products (such as soft-boiled eggs and steamed eggs) made from cage-free eggs are offered at 550 Tesco Express outlets.

Tesco’s operations in the UK and Central Europe have already committed to selling 100% cage-free eggs by 2025.

In Asia and around the world, egg-laying hens are typically confined in wire cages so small that hens cannot even fully stretch their wings. Cage-free systems generally offer higher animal welfare, as they provide the animals room to move around freely and to express fundamental natural behaviors such as foraging, perching, dustbathing and laying their eggs in nests.

Tesco Lotus joins hundreds of food and hospitality companies that have pledged to switch to using 100% cage-free eggs in their supply chains worldwide, including Accor, Hyatt Hotels, Marriott International, Sodexo, Compass Group and Nestle. In Asia, industry leaders such as The Lo & Behold Group, The Privé Group and SaladStop! have pledged to do the same.

Discover Dairy Protein Ingredient from NZMP at FiAsia 2019

NZMP นำเสนอส่วนผสมอาหารจากนมตอบโจทย์เทรนด์อาหารว่างเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชีย ในงาน Food Ingredients Asia 2019

ในปัจจุบันธุรกิจอาหารว่างมีมูลค่ามากกว่า 139,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (4.182 ล้านล้านบาท) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และคาดว่าจะเติบโตขึ้นร้อยละ 12 [1] ในช่วง 4 ปีข้างหน้า จากการที่ผู้บริโภคหันมารับประทานอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพเป็นทางเลือกบ่อยขึ้นในแต่ละวัน NZMP ซึ่งเป็นธุรกิจวัตถุดิบอาหารชั้นนำและนำเสนอคำตอบทางธุรกิจ ของ Fonterra จึงได้จัดแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่เป็นวัตถุดิบอาหารที่ทำจากนมนั้นจะตอบความต้องการของแนวโน้มนี้อย่างไรที่งาน Food Ingredients Asia (Fi Asia) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2562

จากรายงานข้อมูลการสำรวจผู้บริโภคทั้วโลกเมื่อปี 2018 พบว่าผู้บริโภคร้อยละ 61[2] ทั่วโลกชื่นชอบการบริโภคอาหารทานเล่นในระหว่างมื้ออาหาร ในขณะที้ผู้บริโภคร้อยละ 26 ในประเทศไทยรับประทานอาหารทานเล่นแทนมื้อเย็น และร้อยละ 45 ของผู้บริโภคทั่วโลกใส่ใจคุณค่าสารอาหารจากอาหารทานเล่นที่บริโภคมากขึ้น[3] ส่งผลให้ตลาดอาหารทานเล่นของไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตเกือบร้อยละ 15  ในอีก 4 ปีข้างหน้าที่มูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ  (105,000 ล้านบาท)[4]

คุณเฮมมิช โกเวน ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์ NZMP ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกกล่าวว่า “แนวโน้มที่ผู้บริโภคทานอาหารทานเล่นเป็นมื้อหลักได้พัฒนาการมาเป็นแนวโน้มการบริโภคที่จริงจังจากการที่ผู้บริโภคทานอาหารทานเล่นในมื้ออาหารหลัก และความต้องการทางเลือกของอาหารที่มีคุณค่ามากขึ้นก็ขับเคลื่อนให้ธุรกิจนี้เติบโต”

“ก่อนหน้านี้ธุรกิจอาหารทานเล่นขึ้นอยู่กับความสะดวกสบาย แต่ผู้บริโภคในวันนี้กำลังมองหาทางเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมอาหารจากธรรมชาติ มีส่วนแต่งเติมเพียงเล็กน้อยที่รู้ที่มา ที่จะทำให้อิ่มได้นานขึ้นและช่วยให้ทำได้ตามเป้าหมายของการได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและในการออกกำลังกาย” คุณโกเวนกล่าว

จากการที่ประชากรเพิ่มขึ้นและอายุมากขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย ก็ทำให้มีความใส่ใจถึงความสำคัญในการมีไลฟไสตล์ที่แอคทีฟและมีสุขภาพที่ดี ประกอบไปด้วยผู้บริโภคมีสนใจทางเลือกในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายมากขึ้น

“วัตถุดิบอาหารที่ทำจากนมของ NZMP มีบทบาทสำคัญในการทำให้อาหารทานเล่นมีคุณประโยชน์เป็นทางเลือกให้แก่ผู้คนในทุกช่วงอายุ ด้วยข้อมูลสุขภาพที่มีความเชื่อถือที่มีมาอย่างยาวนานของเราและวัตถุดิบอาหารที่มีหลากหลายชนิดช่วยในการตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน โยเกิร์ตหรือเครื่องดื่ม นมเป็นวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพสูงสุดประเภทหนึ่งสำหรับทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต” คุณโกเวนกล่าว

Highlight & Business Solution from NZMP 

1. คอนเซปต์ใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสุขภาพของกลุ่มคนสูงอายุ NZMP SureProtein™ MicroLac MPC4850 ซึ่งมีโปรตีนที่ดีจากนมเพื่อเอื้อต่อการรักษาสมรรถภาพของกล้ามเนื้อ และวิตามินต่างๆเช่นวิตามินบี วิตามินดี รวมถึงแคลเซียม เพี่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหากับการบริโภคน้ำตาลแลคโตส

 

2. เครื่องดื่มทางการแพทย์ที่มีน้ำตาลแลคโตสต่ำ NZMP SureProtein™ LowLac WPC550 ซึ่งจะมีเวย์โปรตีนในปริมาณสูง เพื่อผลิตเครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยซึ่งมีโปรตีนระดับ gold standard ที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสยอดเยี่ยม เพื่อเอื้อต่อสมรรถภาพของกล้ามเนื้อในระหว่างการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วย

 

3. อาหารและเครื่องดื่มที่ผสมโปรตีนรวมถึงส่วนผสมโปรตีนใสที่ทำจาก SureProteinTM WPI8855 โปรตีนบาร์ และโปรตีนอบกรอบ ช็อคโกแล็ตและขนมมัฟฟินที่มีโปรตีนสูง

4. คอนเซ็ปต์โยเกิรต์โปรตีนสูง มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับรสนิยมแต่ละแบบของผู้บริโภค และเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาหารทานเล่นสำหรับบริโภคที่บ้านหรือระหว่างการเดินทาง

5. ชีสของ NZMP หลากหลายประเภทที่ได้รับรางวัล รวมถึงชีสมอสซาเรลล่าแบบแช่แข็งคุณภาพสูงซึ่งมาพร้อมกับพิซซ่าที่อบใหม่ร้อนๆจากเตา และ

6. ผลิตภัณฑ์ใหม่ NutriWhite ผงที่ทำจากนมซึ่งมีราคาไม่สูง ผสมเพิ่มคุณค่าอาหาร และออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับใส่ในชาและกาแฟ

 

นอกเหนือไปจากการจัดแสดงส่วนผสมอาหารที่ทำจากนมที่บูธแล้ว NZMP ยังได้จัดเสวนาใน 4 หัวข้อที่น่าสนใจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญร่วมบรรยาย อาทิ ดร. ริชาร์ด สวินเบอร์น นักโภชนาการอาหารอาวุโสทางการกีฬา และนักวิทยาศาสตร์ด้านการนอนหลับ สถาบันกีฬาแห่งประเทศสิงคโปร์ โดยจะพูดถึงประโยชน์จากการบริโภคโปรตีนก่อนนอนในการสร้างและการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ และสุขภาพโดยรวม และคุณลอร่า แมคไพค์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดด้านสารอาหารทางการแพทย์และ ลู ซาง ผู้จัดการด้านเทคนิคฝ่ายภูมิภาคของ NZMP ซึ่งจะมาพูดคุยถึงทางออกด้านสารอาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชากรที่กำลังมีอายุเพิ่มขึ้น และนอกจากนี้ ผู้มาเยี่ยมชมบูธยังสามารถชมฟาร์มโคนมของนิวซีแลนด์ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) 360° ที่บูธ NZMP Booth No. B2 Hall 104

 

ลอร่า แมคไพค์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดด้านสารอาหารทางการแพทย์ (ซ้าย) เฮมมิช โกเวน ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์เอ็นแซ็ดเอ็มพี ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก (ขวา)

 

คุณโกเวนกล่าวเสริมว่า “NZMP มีประวัติอันยาวนานในการสร้างพันธมิตรกับธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วภูมิภาคเอเชียเพื่อพัฒนาส่วนผสมที่สามารถใช้ทำผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้องการ ด้วยส่วนผสมอาหารของ NZMP ผู้ผลิตอาหารจะสามารถตอบความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยสารอาหารและปลอดภัยโดยใช้ประโยชน์จากธุรกิจนมของนิวซีแลนด์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติและใช้หญ้าในการเลี้ยงวัวนม”

 

—————————————————————————————————————————————

[1] การคาดการณ์ของธุรกิจอาหารทานเล่นของ Euromonitor ระหว่างปี 2562-2566

[2] Global Data, Global Consumer Survey Q3, 2018

[3] FMCG Gurus Snacking survey 2019

[4] การคาดการณ์ของธุรกิจอาหารทานเล่นของ Euromonitor ระหว่างปี 2562-2566

 

Sportification – BENEO presents new opportunities to food manufacturers in Thailand

 

BENEO นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกีฬา (Sportification) สร้างโอกาสใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมอาหารของไทยในงาน Fi Asia 2019

 

ความสนใจในกีฬาต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นของคนไทยกำลังเป็นตัวช่วยผลักดันตลาดโภชนาการการกีฬาในประเทศไทยให้เติบโตขึ้น โดยในงาน Fi Asia 2019 บริษัท BENEO ในฐานะผู้นำในตลาด Functional ingredients ของอาหารและเครื่องดื่มกำลังจะเสนอแนวทางผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาท้าทายตลาดเดิมๆ ในการช่วยเหลือผู้บริโภคให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีชีวิตชีวามากขึ้น คุณคริสเตียน ฟิลิปเซ่น กรรมการผู้จัดการของ BENEO Asian Pacific กล่าวว่าตลาดผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทางการกีฬาที่เป็นกระแสหลักล้วนเหมือนๆ กัน ถึงเวลาแล้วที่จำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ที่แตกต่างในด้านโภชนาการการกีฬาสักที

“การให้ความสำคัญกับเรื่องกีฬา สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในด้านโภชนาการ มีผลิตภัณฑ์มากมายในตลาดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับนักกีฬาอาชีพ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วไปที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพที่จะมารองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่กระฉับกระเฉงของพวกเขา อุตสาหกรรมอาหารจำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มขึ้นสู้กับความท้าทายในการช่วยให้ผู้บริโภคตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาเพื่อให้มีชีวิตที่กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้นควบคู่ไปกับโภชนาการที่ดีขึ้น” คุณคริสเตียน กล่าว

สร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาทั่วไปและนักกีฬามืออาชีพ

จากการศึกษาของ Health Focus International พบว่า 57% ของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยมักจะเลือกอาหารหรือเครื่องดื่มที่ช่วยปรับปรุงระดับพลังงานให้ดีขึ้น(1)  อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์กีฬาที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพลังงาน รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เจลและบาร์ที่เกี่ยวเนื่องกับกีฬาในตลาดล้วนแล้วแต่มี ‘ฟาสต์คาร์โบไฮเดรต’ (Fast carbohydrates) เช่น มอลโทเดกซ์ทริน (Maltodextrin) น้ำเชื่อมกลูโคสและน้ำตาลซูโครสซึ่งปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วเพื่อให้พลังงานอย่างเร่งด่วน การปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดในอัตราที่รวดเร็วนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานในทันทีสำหรับการฝึกซ้อมกีฬาในระยะสั้นแบบเข้มข้น (Short burst intensive athletic training) แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมปกติในชีวิตประจำวัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทีมีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (High glycaemic products) จะทำให้ระดับน้ำตาลและระดับอินซูลินในเลือดสวิงถึงจุดสูงสุดและตกต่ำลงมา อีกทั้งยังไปยับยั้งกระบวนการเผาพลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงาน (Fat oxidation) สำหรับผู้บริโภคประเภทนี้คาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีระดับน้ำตาลต่ำ (Low glycaemic carbohydrates) จึงจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีผลกระทบน้อยต่อระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังรักษาระดับพลังงานให้มีเพียงพอสม่ำเสมอ และช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย สนับสนุนเป้าหมายการลดน้ำหนักอีกด้วย

ทั้งนี้ BENEO ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตอาหารเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้บริโภคทั่วไปที่ปรารถนาสุขภาพดีรูปร่างสมส่วน โดยใช้ Palatinose™ ซึ่งจะปล่อยคาร์โบไฮเดรตออกมาอย่างช้าๆ  Palatinose™ ผลิตจากน้ำตาลหัวผักกาด (Sugar beet) โดยจะถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ในอัตราที่ช้าลง ดังนั้น กลูโคสจะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณทีละเล็กทีละน้อย

Palatinose™ เหมาะสำหรับการใช้งานในผลิตภัณฑ์โภชนาการกีฬาหลากหลายประเภท โดยให้พลังงานคาร์โบไฮเดรตอย่างสมบูรณ์ในรูปแบบที่ยั่งยืนเพียงพอ ขจัดอาการ “ร่าเริงและซบเซาลงอย่างรวดเร็ว” (Boost and crash) ที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นถึงจุดสูงสุดและตกต่ำอย่างรวดเร็ว และเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อัตราการเผาผลาญไขมันที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าร่างกายเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานจึงช่วยให้ผู้บริโภคที่กระฉับกระเฉงสามารถดึงคาร์โบไฮเดรตสำรองของตนไว้ใช้งานได้นานขึ้น Palatinose™ ให้พลังงานที่ร่างกายต้องการเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพหรือคนทั่วไปที่ต้องการทำงานประจำวันที่แสนจะยุ่งและวุ่นวายให้ผ่านพ้นไป ช่วยให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการกีฬาที่หลากหลายเนื่องจากมีรสหวานและหวานเหมือนกับน้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ Palatinose™ ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องดื่มกีฬา (Isotonic drinks) ยังคงมีคุณภาพที่เหมือนเดิมตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์

ประเทศไทย – ชาติที่ตื่นตัวในเรื่องการกีฬาสูงมาก

เนื่องด้วยผลิตภัณฑ์โภชนาการการกีฬามีเพิ่มมากขึ้นในตลาดสำหรับผู้บริโภคกระแสหลัก ดังนั้น คาดว่าตลาดนี้ในประเทศไทยจะมีสูงถึง 4,292,820,000 บาทในปี 2562 และ 6,773,650,000 บาทในปี 2566 เมื่อเห็นความต้องการของผู้บริโภคอยู่ที่นี่ชัดเจนแล้ว ผู้ผลิตอาหารจึงควรจะต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีหลากหลายมากขึ้น โดยการเพิ่มส่วนผสมที่ส่งเสริมการกีฬาลงไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน จึงจะตอบสนองความต้องการด้านโภชนาการการกีฬาในหมู่ผู้บริโภคกระแสหลักในประเทศไทยและทั่วโลกได้

พบกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพจากส่วนผสมอาหารธรรมชาติโดยผู้เชี่ยวชาญจาก BENEO ซึ่งจะมาออกบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ร่วมกับ DPO (Thailand) บริษัทพันธมิตรสำคัญในประเทศไทยได้ที่งาน Food Ingredients Asia 2019 บูธ H22 โดยจะได้พบกับตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Palatinose™ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาที่มีคุณภาพอย่างเหมาะสมและน่าดึงดูดสำหรับผู้บริโภค

 

[1] Survey in Thailand, conducted by Health Focus International 2018, with 500 participants