
บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทแป้งมัน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทางด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้ประกาศความสำเร็จในปี 2564 ด้วยยอดขายกว่า 9,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปี 2563 ส่งผลให้คณะกรรมการได้อนุมัติเงินปันผลรวมมูลค่าทั้งหมด 190 ล้านบาท ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ห้องบอลรูม ชั้น 10 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไทยวาเผชิญกับความท้าทายเช่นกัน โดยสิ่งหนึ่งที่สำคัญของเราคือการรักษาคนของเราให้ปลอดภัย อย่างไรก็ตามผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2564 ถือว่าแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับใช้นวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การบริหารการขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 9,105 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 4,422 ล้านบาทหรือร้อยละ 49 รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) 2,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 32 และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,767 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 โดยมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศคิดเป็นร้อยละ 83 และรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 17 เรายังคงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ B2B และ B2C ทั่วโลก ผ่านแบรนด์สินค้าอย่าง มังกรคู่ กิเลนคู่ และโรส อย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศ ไทยวาได้ทำการส่งออกสินค้าไปแล้วทั่วโลก โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศไทย 9 แห่ง ประเทศเวียดนาม 3 แห่ง และยังมีสำนักงานตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศกัมพูชา และประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป้าหมายของบริษัทฯ คือการก้าวเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 10,000 ล้านบาทในปี 2565

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 เราจะมุ่งเน้นไปในการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีความยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าที่ทางบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ระดับสากล นอกจากนี้บริษัทฯ มีการต่อยอดธุรกิจ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ หรือไบโอพลาสติก ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลัง และสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่เพิ่มอีก 8-10 รายการเช่น ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่ปราศจากกลูเตน (gluten free) และโซลูชันด้านอาหาร

บริษัทฯ ยังมุ่งขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ผ่านไทยวาเวนเจอร์ (Thai Wah Ventures) เพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป หรือธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อต่อยอดและพัฒนาสินค้าเกษตร ที่สามารถช่วยเสริมการเติบโตของธุรกิจหลักได้ ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นวัตกรรมด้านฟาร์มและเทคโนโลยีการเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานสำหรับธุรกิจในรูปแบบ B2B พลาสติกชีวภาพและการจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต และส่วนผสมในอาหารและเทคโนโลยีการแปรรูปแบบใหม่ๆ ภายในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้ธุรกิจในเครือของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“เรายังมุ่งที่จะขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายฐานการผลิตและการส่งออก รวมถึงการขยายฐานผู้บริโภคให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ผ่านนวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ทั้งนี้เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นคงทางอาหารและความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการสร้างคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ในปี 2564 เราสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตต่อไปได้อีกในปี 2565 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เป็นปีที่เราครบรอบ 75 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของไทยวา” นายโฮ เรน ฮวา กล่าวทิ้งท้าย