SIAL Asia Pacific 2024 Events Pre-Launch

          เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โปรโมซาลงส์ ประเทศไทย หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย และบริษัท Comexposium ได้จัดงานแถลงข่าว SIAL Asia Pacific 2024 Events Pre-Launch ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก MR. Henri Tan ประธานผู้จัดงาน South East Asia Comexposium กล่าวเปิดงาน รวมถึงวิทยากรพิเศษที่มาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด ภาพรวมความสำเร็จหลังการจัดงานแสดงสินค้าที่ผ่านมา รวมถึงการคาดการณ์ตลาดในปี พ.ศ.2567 โดยได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเอเชียแปซิฟิกที่มีศักยภาพสูง อาทิ จีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น

          จากการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจถึงร้อยละ 5 อีกทั้งยังมีการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิดอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีอัตราการบริโภคต่อคนในปีพ.ศ. 2566-2571 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 จึงส่งผลให้จีนมีความต้องการอาหารที่มีคุณภาพจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของผู้บริโภคชนชั้นกลางในประเทศจีน โดยเมืองเซี่ยงไฮ้ถือว่าเป็นเมืองที่มีศักยภาพขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลกซึ่งคิดเป็นมูลค่านำเข้าและส่งออกถึงร้อยละ 20 ของประเทศ รวมถึงเป็นกลุ่มเมืองขนาดใหญ่ที่ร่ำรวยที่สุดในจีนซึ่งเป็นแหล่งรวมที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่างชาติจากทั่วโลกอีกด้วย และจากภาพรวมความสำเร็จของการจัดงาน SIAL เมืองเซี่ยงไฮ้ ในประเทศจีนที่ผ่านมา พบว่าผักเกล็ดหิมะ (South African Ice Plant Vegetable) ได้มีการจำหน่ายครั้งแรกและได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีน นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากงาน SIAL ที่ผ่านมา อาทิ ไอเบอริโกแฮม (Jamon iberico) จากสเปน อะโวคาโด รวมถึง Italian S.Pellegrino sparkling water และเนื้อสัตว์จากพืช นอกจากนี้ ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดของเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นมณฑลที่มีอัตราการเติบโตของตลาดอาหารร้อยละ 15 ของทุกปี และเซินเจิ้นถือเป็นเมืองนวัตกรรมที่อยู่ในโครงการเศรษฐกิจพิเศษตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีน และมีประชากรวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 15-59 ปี ถึงร้อยละ 79.53 โดยพบว่าการจัดงาน SIAL ในเมืองเซินเจิ้นที่ผ่านมานั้น มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนที่สูงจากการหาคู่ค้าทางธุรกิจที่มีศักยภาพอีกด้วย นอกจากนี้ งาน SIAL Interfood 2023 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียที่ผ่านมา ก็ได้ตอกย้ำถึงความสำเร็จด้วยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า และมีความสนใจที่จะเข้าร่วมงานอีกครั้งในปีหน้าถึงร้อยละ 98

          หากผู้ประกอบการไทยต้องการเพิ่มโอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจ ประชาสัมพันธ์สินค้า รวมถึงสำรวจตลาดที่น่าสนใจ งาน SIAL 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกนี้ คือคำตอบของคุณ โดยงาน SIAL ได้ขยายเครือข่ายมาสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิกแล้ว และมีกำหนดงานแสดงสินค้าในปี พ.ศ.2567 ดังนี้

– จีน (เซี่ยงไฮ้): 28-30 พ.ค. 2567 (ไทยพาวิลเลียน)

– มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์): 2-4 ก.ค. 2567

– จีน (เซินเจิ้น): 2-4 ก.ย. 2567 (ไทยพาวิลเลียน)

– อินโดนีเซีย (จาการ์ตา): 13-16 พ.ย. 2567

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อทีมงาน Promosalons Thailand ได้ทางpromosalons@francothaicc.com หรือติดต่อ 02-650-9613 ต่อ 140

Resilient and Innovative Food Systems งานสัมมนาระดับนานาชาติ เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของระบบอาหารที่มุ่งเน้นเพื่อแก้ปัญหาด้านความมั่งคงอาหารในทุกมิติ

     จากความตระหนักด้านระบบอาหารในปี พ.ศ. 2564 ที่งาน UN Food Systems Summit ซึ่งได้นำเสนอเกี่ยวกับความเปราะบางของระบบอาหารทั่วโลก จนส่งผลต่อความไม่มั่นคงของอาหาร (Food Insecurity) อันเกิดจากหลากหลายปัญหาทั้งโรคระบาด สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและความขัดแย้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านอาหารสำหรับอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้แก่ระบบอาหารเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

       

ทาง International Union of Food Science and Technology (IUFost) จึงร่วมกับองค์กรด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อาหารมากมายจากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) องค์การอนามัยโลก (WHO) คณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย (FoSTAT) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช. หรือ NXPO) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข. หรือ PMUC) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อจัดงานสัมมนา “Resilient and Innovative Food Systems” ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้หรือแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมระบบอาหารและการเกษตรเพื่อความยั่งยืนในทุกด้าน และเกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยงานสัมมนาครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนักวิจัย ผู้บริหาร และสื่อที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมอาหารตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อร่วมรับรู้และหารือถึงแนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพด้านความมั่งคงอาหารและการเกษตรในระดับประเทศและระดับโลก

     

ภายในงานได้แบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ จากการแสดงให้เห็นถึงที่มาและความสำคัญของการมีระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมกับกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากต่างประเทศที่ได้นำนวัตกรรมอาหารเข้าไปช่วยให้อาหารมีความยั่งยืนมากขึ้น เช่น ประเทศสิงค์โปร์ที่ได้เปิดตัวและกำหนดมาตรการในการจำหน่ายเนื้อสัตว์จากห้องทดลอง (Cultured Meat) เป็นประเทศแรกๆ ของโลก แสดงให้เห็นถึงการเปิดรับนวัตกรรมการผลิตอาหารที่ช่วยให้สามารถผลิตอาหารได้มากขึ้น โดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสวัสดิภาพสัตว์น้อยลง เป็นต้น

    

นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อบรรยายจากนักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแหล่งโปรตีนทางเลือก ทั้งแมลง ไข่ผำ หรือเทมเป้ ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบอาหาร และแนวทางการกำหนดกฎหมาย ความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหารใหม่ชนิดต่างๆ ตลอดจนการอภิปรายที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เสนอแนะแนวทางและสอบถามข้อสงสัยตลอดงานสัมมนาครั้งนี้

 

 

The 8th Edition of the Week of the Italian Cuisine in the World Celebrated in Bangkok, November 13-19, 2023

              The Embassy of Italy in Bangkok and Italian Trade Agency Bangkok Office are jointly celebrating the 8th Edition of the Italian Week of the Cuisine in the World, November 13-19, 2023, offering a delectable experience with a diverse program under the theme, “At the Table with Italian Cuisine: Well-being with Taste”. It is an annual event that celebrates Italian culinary traditions and promotes Italian food and wine culture on a global scale, with the core mission to propagate the outstanding quality of Italian culinary traditions infused with innovative elements.

              H.E. Paolo Dionisi, Ambassador of Italy to Thailand said: “This year’s edition of the Italian Cuisine Week revolves around the theme ‘At the Table with Italian Cuisine: Well-being with Taste’. We will thus focus on healthy lifestyles, the quality of Italian products, and their effect on the well-being of individuals. For this purpose, we have invited the award-winning Italian Chef Enrico Derflingher, who will prepare, together with starred Thai Chef Thitid ‘Ton’ Tassanakajohn, the special menu at Nusara restaurant. He will also present his signature dish at UNIT Wine Dinner in collaboration with UNIT Wine Tour for the first time in Thailand. Chef Enrico Derflingher will conduct masterclasses and participate in TV programs. Other activities include a soccer match combined with food tasting, Italian cuisine classes, gourmet dinners, and the Italian restaurants certified ‘Ospitalità italiana’ offering special menus during the whole week. The Italian Cuisine Week will continue in Phnom Penh, where we will organize masterclasses on Italian wines by a certified Sommelier and special menus by Italian restaurants.

              Ms Paola Guida, Italian Trade Commissioner-Thailand & Myanmar disclosed: “We are extremely pleased to present The 8th Edition of the of the Italian Cuisine Week in the World featuring the rich Italian cuisine experience with many activities, including promotion of Italian restaurants around Bangkok for the public, elegant gala dinner,  Italian Wine Tour event, informative panel talk on the link between food and health and the Mediterranean diet, and Cooking Class. We also invite the delegates in food and beverage as well as wine business from neighboring countries; Myanmar, Laos, and Cambodia to participate in the series of activities in Thailand.

Highlight Programs in Thailand:

Tuesday, November 14, 2023:

              A spectacular Gala Dinner at Nusara Restaurant created by the legendary Italian Chef Enrico Derflingher himself. Collaborating with him, “Chef Ton” Thitid Tassanakajohn of Nusara, an expert of Thai cuisine, harmoniously balancing family traditions with modern culinary techniques to create a collaboration menu perfectly pairing with Italian wine.

Wednesday, November 15, 2023:

              UNIT Wine Tour 2023 Thailand. For the first time in Thailand, the wonderful world of unexpected journeys of Italian wines by UNIT Wine Tour at the Grand Hyatt Erawan Bangkok Hotel. The day begins with the Wine Master class followed by Meet & Taste walk-around to meet 20 wineries from 10 regions in Italy.

              UNIT Wine Dinner.  An evening of Italian food & beverage and wine excellence awaits at The Food School Bangkok.  Dubbed as an ‘Unexpected Dinner’, the event features the finest Italian cuisine from its Cooking Station manned by chefs from the renowned ALMA – The School of Italian Culinary Arts, The Food School Bangkok and festival’s guest chef Enrico Derflingher.

Thursday, November 16, 2023:

              Cooking Masterclass. The 8th Edition of the Week of Italian Cuisine Week in the World in Bangkok will culminate at a Cooking Masterclass for the students enrolled in ALMA course at The Food School instructed by chef from ALMA in collaboration with special guest chef Enrico Derflingher.

              A Panel Talk. The discussion, titled “A tavola con la cucina italiana: il benessere con gusto” – At the Table with Italian Cuisine: Well-being with Taste’, will explore the concept of well-being through Italian cuisine. Learn about Italian Cuisine as a UNESCO-nominated Heritage from experts – Chef Enrico Derflingher and a Gastroenterologist-Director of the Bumrungrad’s well-being and longevity program. Interested parties to attend the Panel Talk can send an email to rsvp.bangkok@ice.it (limited seatings)

For the whole week of 13-19 November.

Join us in celebrating the heritage and flavors of Italian Cuisine, exploring special offers from Italian restaurants certified Ospitalità italiana 2023 around Bangkok. The participating Italian restaurants are

– Acqua Bangkok
https://www.instagram.com/acquarestaurantbangkok/?hl=en

– Cetara
https://www.facebook.com/cetarabangkok/

– Coastiera
https://www.facebook.com/coastierabangkok/

– Da Lena
https://www.facebook.com/p/Da-Lena-Trattoria-Italiana-100064657590609/

– Favola
https://www.facebook.com/favolasuvarnabhumi/

– Gianni ristorante
https://www.facebook.com/GianniBangkok/

– Giglio trattoria Fiorentina
https://www.facebook.com/gigliobkk/

– Il Bolognese
https://www.facebook.com/trattoria.pizzeria.ilbolognese/

– IO – Italian Osteria Bangkok
https://www.facebook.com/ioosteriabkk/

– L’Oliva
https://www.facebook.com/lolivabkk/?locale=th_TH

– Pizza Massilia
https://www.facebook.com/pizzamassiliabkk/

– Starita
https://www.facebook.com/staritabangkok/

Find out more about the 8th Edition of the Week of the Italian Cuisine in the World by visiting Facebook Page: ITA Bangkok

อัปเดตเทรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านการบรรจุและฉลากผ่านสัมมนาเพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ Drupa World Tour: Print Promotion Industry Summit เตรียมความพร้อมก่อนงาน Drupa 2024 ในปีหน้า

งานสัมมนาเพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ ‘Drupa World Tour: Print Promotion Industry Summit’ เพื่อผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ที่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่น่าสนใจ เพื่อเตรียมตัวมุ่งสู่อนาคตของการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ที่ใกล้จะมาถึง โดยได้รับเกียรติจากคุณพงศ์ธีระ พัฒนธีระ นายกสมาคมการพิมพ์ไทย ที่ได้กล่าวถึงความสำคัญของการก้าวให้ทันเทรนด์และเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ เนื่องจากปัจจุบันประเทศแถบเอเชียมีแนวโน้มให้ความสำคัญและความใส่ใจในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในเรื่องความยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

Dr. Andreas Pleßke ประธานของกรรมการของ Drupa ได้ร่วมสัมมนาในหัวข้อ “drupa 2024: The Future of Printing is Now.” ที่บอกเล่าถึงปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ความยั่งยืน การเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการขาดแคลนแรงงานที่มีความรู้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้มองเห็นภาพรวมในปัจจุบันและหาแนวทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่าธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ ฉลาก หรือการพิมพ์ดิจิทัลนั้นมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

     

ส่วนหัวข้อถัดไปจะเป็นการกล่าวถึงความน่าสนใจของงาน drupa 2024 ที่ห่างหายไปนานถึง 7 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ยังไม่แน่นอน การกลับมาครั้งนี้จึงต้องแตกต่างและโดดเด่นกว่างานอื่นๆ ที่ผ่านมา โดยผู้บรรยายคือ Ms. Sabine Geldermann ได้ระบุว่ามีบริษัทที่เข้าร่วมงานนี้กว่า 48 ประเทศทั่วโลก โดยกว่า 600 บริษัทที่ตอบรับมาร่วมงานนี้ บนพื้นที่การจัดงานกว่า 140,000 ตร.ม. แบ่งเป็น 17 ฮอลล์ พร้อมด้วยบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้เป็นสัดส่วนและโซนต่างๆ เช่น drupa cube เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมองหานวัตกรรมเพื่อบรรจุภัณฑ์และฉลาก ตลอดจนผู้ที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ TouchPoint Packaging ที่แบ่งเป็นหมวดหมู่ตามสิ่งที่น่าสนใจ เช่น ความยั่งยืน เทคโนโลยี และสิ่งทอต่างๆ รวมถึง drupa Next Age (DNA) ที่รวบรวมข้อมูล Mega trend ที่น่าสนใจ พร้อมร่วมเรียนรู้ในการรับมือถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เป็นต้น

ภายในงานยังมีหัวข้อการบรรยายที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมถึงการ pitching ให้เห็นถึงนวัตกรรม หรือจุดมุ่งหมายของ 7 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์นี้ทั้ง 1. Heidelberger Druckmaschinen AG, 2. LEONHARD KURZ Stiftung & Co. KG, 3. IST METZ GmbH & Co. KG, 4. KAMA GmbH, 5. Koenig & Bauer AG, 6. Müller Martini AG และ 7. POLAR Cutting Technologies GmbH

     

นอกจากนี้ หากท่านสนใจเข้าร่วมทริปงาน Drupa 2024 ณ ประเทศเยอรมนี สามารถแจ้งความประสงค์ได้กับทางสมาคมการพิมพ์ไทย โดยมีรายละเอียดตามลิงก์นี้

www.thaiprint.org/2023/11/news-event/drupa-fair-2024-trip/

     

 

Denmark moves forward to showcase its potential in technology and innovation and is ready to partner with Thai F&B manufacturers to create a better and more sustainable kitchen of the world

เดนมาร์กเดินหน้าผลักดันแสดงศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมจับมือผู้ผลิตไทยสร้างครัวของโลกแบบยั่งยืน Continue reading “Denmark moves forward to showcase its potential in technology and innovation and is ready to partner with Thai F&B manufacturers to create a better and more sustainable kitchen of the world”

BENEO Reveals the Latest Surveys, Found that the Demand for Prebiotic Products in Thailand Rises Along with the Health-Conscious Trends of Global Consumers.

BENEO เผยผลสำรวจล่าสุด ตลาดพรีไบโอติกส์ในไทยมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น

แปรผันตามกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก

จากการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจด้านสุขภาพด้วยสัดส่วนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพทางเดินอาหารต่อความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของพรีไบโอติกจึงมีโอกาสในการเติบโตสูงมากในประเทศไทย ข้อมูลดังกล่าวมาจากผลการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกครั้งล่าสุดโดย One Inch Whale ที่จัดทำในนามของ BENEO ผู้ผลิตชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ส่วนผสมอาหารฟังก์ชันที่มีประโยชน์จากพืช (Plant-based functional ingredients) ซึ่งการสำรวจล่าสุดนี้ เป็นการสำรวจผู้บริโภคทั้งหมด 9,243 รายจาก 9 ประเทศ รวมถึงผู้เข้าร่วม 1,002 รายในประเทศไทย

จากผลการสำรวจครั้งนี้ พบว่า 1 ใน 2 ของผู้บริโภคในประเทศไทย (ร้อยละ 55) ระบุว่าตนเองใส่ใจเรื่องสุขภาพ (Health-conscious) ในขณะที่ประมาณ 1 ใน 3 แสดงความสนใจอย่างยิ่งในเรื่องของอาหารและส่วนผสมของอาหารเพื่อสุขภาพอย่างชัดเจน (ร้อยละ 29) นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยยังยอมรับโดยทั่วกันถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างสุขภาพของระบบทางเดินอาหารกับสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสำรวจชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภค 1 ใน 5 ของประเทศไทยได้ยอมรับอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพรีไบโอติก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดูแลรักษาสุขภาพ

ผู้บริโภคต่างตระหนักถึงความเชื่อมโยงของพรีไบโอติกส์กับสุขภาพ
ผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเชื่อมโยงการบริโภคพรีไบโอติกส์กับการส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร (ร้อยละ 58) ส่วนผู้บริโภคชาวไทยสามารถเชื่อมโยงการบริโภคพรีไบโอติกส์กับสุขภาพโดยรวมสูงถึงร้อยละ 70 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ร้อยละ 53 แสดงให้เห็นการรับรู้ที่ชัดเจนมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ และแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยตระหนักรู้เรื่องนี้อย่างสูง นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสนใจอ่านข้อมูลที่สื่อสารอยู่บนบรรจุภัณฑ์และถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยมากกว่า 3 ใน 5 ของผู้บริโภคในการสำรวจนี้ยอมรับว่าได้อ้างอิงข้อมูลนี้ก่อนตัดสินใจซื้อ ถึงร้อยละ 67 ของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งความสนใจของผู้บริโภคชาวไทยต่อข้อมูลของพรีไบโอติกส์ที่มีการสื่อสารอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ถึงร้อยละ 62 ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน แม้ว่าผู้บริโภคจะสนใจพรีไบโอติกส์ค่อนข้างสูงและเข้าใจถึงผลเชิงบวกที่มีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี แต่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งในประเทศไทยต่างระบุว่ายังมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในท้องตลาดที่ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการเพื่อการบริโภคในชีวิตประจำวัน จึงชี้ให้เห็นว่าความสนใจในเรื่องสุขภาพทางเดินอาหารของคนไทยมีมากกว่าการแก้ไขปัญหาท้องผูกหรือปัญหาทางการแพทย์ แต่ครอบคลุมถึงความเข้าใจว่าระบบย่อยอาหารที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดี หรือทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี (ร้อยละ 55)

ภายในงาน FI Asia 2023 ที่ผ่านมานี้ ทาง Food Focus Thailand ได้รับเกียรติจากคุณ Thomas Schmidt, Marketing Director ของ BENEO Group และคุณ Christian Philippsen, Managing Director ของ BENEO Asia Pacific Pte Ltd. ที่ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดพรีไบโอติกส์ในประเทศไทย โดยระบุว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับสุขภาพลำไส้ (Gut Health) เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถึงร้อยละ 70 และยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของบริษัท BENEO ที่มีผลิตภัณฑ์เส้นใยจากรากชิโครี (Orafti® Inulin และ Orafti® Oligofructose) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) พร้อมมีข้อมูลงานวิจัยรองรับ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าปลอดภัย สามารถนำมาใช้เพิ่มความหวานแทนน้ำตาลได้ โดยไม่รบกวนกับปริมาณน้ำตาลในเลือด หรือระดับอินซูลินในร่างกาย สามารถนำมาใช้เพิ่มเนื้อสัมผัส โดยไม่เพิ่มแคลอรีให้กับอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

นอกจากนี้ BENEO ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ครอบคลุมอยู่ทุกภูมิภาค สามารถสนับสนุนผู้ผลิตอาหารให้มีความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานพรีไบโอติกส์ให้เหมาะสมกับรสนิยมของผู้บริโภคในภูมิภาคนั้น รวมถึงการผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคที่เป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมความมุ่งมั่นของ BENEO เพื่อการเชื่อมโยงคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพที่ดี ซึ่งสามารถสนับสนุนผู้ผลิตในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพื่อออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BENEO และส่วนผสมอาหาร
สามารถเยี่ยมชมได้ที่: www.beneo.com และ www.beneo.com/news
หรือติดตาม BENEO บน Twitter: @_BENEO หรือ LinkedIn: www.linkedin.com/company/beneo

Due to a high proportion of health-conscious consumers who are aware of the importance of digestive health to overall well-being, Thailand holds strong opportunities for food and drink products containing prebiotic ingredients. This is according to a new global consumer survey conducted by One Inch Whale on behalf of BENEO, a leading manufacturer of plant-based functional ingredients. The research surveyed a total of 9,243 consumers in 9 countries, including 1,002 participants in Thailand.

The research indicates that 1 in 2 consumers in Thailand (55%) define themselves as health-conscious, while about 1 in 3 already exhibit a strong interest in healthy foods and ingredients (29%). There is also a widespread recognition among these Thai consumers of the intrinsic link between digestive health and overall health — especially with regard to physical and mental well-being, as well as an effective and functionable immune system. The survey highlights that 1 in 5 consumers in Thailand are already incorporating prebiotic foods and/or supplements as part of their regimen.

Awareness of the Link Between Prebiotics and Health

The majority of consumers associate prebiotics with supporting digestive health (58%). Also, the link to overall health is strong, with 70% of Thai consumers making that connection. Compared to the global average of 53%, this is much more outspoken in this region and shows that Thai consumers are highly cognisant. In addition, consumers look closely to on-pack communication as a crucial purchase motivator, with over three-fifths referencing this information before buying (67%). In fact, the appeal of prebiotics in on-pack communication is high in Thailand — at 62%. Although consumers are extremely interested in prebiotics and understand their positive effects on health and well-being, there continues to be an unsatisfied demand; with more than half of respondents in Thailand stating that there are not enough healthy products to incorporate into their daily routine. This is particularly pertinent as their interest in digestive health goes beyond constipation or medical issues, and encompasses an understanding that a good working digestive system is part of a healthy lifestyle, or makes them feel good (55%).

According to FI Asia 2023, Food Focus Thailand was also honored by Mr. Thomas Schmidt, Marketing Director of BENEO Group and Mr. Christian Philippsen, Managing Director of BENEO Asia Pacific Pte Ltd. highlighted the market potential of Thailand’s prebiotics products, stated that Thai consumers are focusing on gut health because it is related to 70% of the immune system and overall health. Due to BENEO’s expertise has natural chicory roots fiber products (Orafti® Inulin and Orafti® Oligofructose), No-GMO with many research and certified results which ensure consumers safe ingredients and the ability to add natural sweetness instead of sugar without affecting the blood sugar level or insulin, also improve the texture without added more calories which is proper for weight management consumers.

Together with BENEO’s technical expertise spanning all continents, food manufacturers are well-equipped to develop new products incorporating prebiotics that suit the regional palates of their consumers. This combination of scientific and technical expertise is key for BENEO’s ambition to connect nutrition and health by supporting manufacturers in bringing healthy products to the shelves.

For further information on BENEO and its ingredients, please visit: www.beneo.com and www.beneo.com/news or follow BENEO on Twitter: @_BENEO or LinkedIn: www.linkedin.com/company/beneo

EXBERRY® by GNT to Highlight Wide-ranging Possibilities with Plant-based Colors at Fi Asia Thailand 2023

EXBERRY® จาก GNT เน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ที่หลากหลายด้วยสีจากพืชที่งาน FI Asia 2023 Continue reading “EXBERRY® by GNT to Highlight Wide-ranging Possibilities with Plant-based Colors at Fi Asia Thailand 2023”

บริษัท บ้านโป่งทาปิโอก้า: จากโรงงานแปรรูปมันสำปะหลังสู่ Texture House Company ผู้ให้บริการโซลูชันด้านเนื้อสัมผัส (Texture Solution)

Continue reading “บริษัท บ้านโป่งทาปิโอก้า: จากโรงงานแปรรูปมันสำปะหลังสู่ Texture House Company ผู้ให้บริการโซลูชันด้านเนื้อสัมผัส (Texture Solution)”

Atlas Copco Celebrates 150th Anniversary and Inaugurates New Thailand Facility. 

 Atlas Copco บริษัทข้ามชาติสัญชาติสวีเดนฉลองครบรอบ 150 ปี พร้อมเปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในประเทศไทย

บริษัท แอตลาส คอปโก้ บริษัทอุตสาหกรรมจากประเทศสวีเดน ผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและวิศวกรรมชั้นนำด้านเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมอุตสาหกรรม เพื่อทุกอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ ระดับโลก ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่ที่ทันสมัยแห่งใหม่ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ สำหรับบริษัท แอตลาส คอปโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Atlas Copco ได้นำเสนอโซลูชันด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าคนสำคัญในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างดีตลอดมา การลงทุนครั้งใหม่นี้ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Atlas Copco โดยมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ผ่านการออกแบบระบบต่างๆ ในอาคารให้ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

โดยในพิธีเปิดอาคารสำนักงานแห่งใหม่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาทางบริษัทได้รับเกียรติจากคุณ Sanjay Safaya, Regional General Manager / Managing Director ของบริษัท แอตลาส คอปโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน พนักงานและสื่อทุกท่าน พร้อมอธิบายถึงโครงการของสำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ ที่ออกแบบด้วยหลัก 3 ประการ คือ จะต้องเอื้อต่อการพัฒนาบุคลากร รองรับความต้องการของลูกค้า และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

จากนั้นคุณ Horst Wasel (Vice President Atlas Copco Holding SE-Asia & Oceania) ได้กล่าวถึงการก่อตั้งบริษัทและการทำงานที่มุ่งมั่นจะมอบนวัตกรรมที่ดีที่สุดให้แก่คู่ค้าทั่วโลกมาตลอด 150 ปีนี้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมถึงและช่วยเหลือคู่ค้าในภูมิภาคเอเชียได้อย่างทันท่วงทีในทุกอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากคุณ Henrik Elmin, Senior Executive Vice President and Business Area President Industrial Technique ที่ได้กล่าวถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วยรายได้รวมกว่า 13 พันล้านยูโร จากผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ Atlas Copco ได้สร้างสรรค์ขึ้น อีกทั้งยังกล่าวถึงหลักการบริหารการจัดการแบบ Decentralized technique ที่เป็นพื้นฐานในการที่จะเริ่มปรับให้โครงสร้างของแต่ละส่วนการทำงานมีความเป็นปัจเจกมากขึ้น เพื่อให้การทำงานรวดเร็วและเข้าถึงลูกค้าได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ทาง Atlas Copco ยังได้พูดถึง 3 ส่วนเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ดำเนินธุรกิจที่มีความสำคัญสำหรับสำนักงานในประเทศไทย ได้แก่ Compressor Technique กลุ่มธุรกิจเทคนิคเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมนำเสนอโซลูชันอากาศอัดสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตและกระบวนการเป็นหลัก Industrial technique กลุ่มธุรกิจนี้นำเสนอเครื่องมือประกอบการขันในงานอุตสาหกรรม โซลูชันการประกอบและ Vision System และล่าสุดกับ Power Technique พื้นที่ธุรกิจนี้นำเสนอโซลูชันด้านอากาศ พลังงาน เช่น เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมแบบลากจูง ปั๊ม เสาไฟ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอีกด้วย

สนใจในนวัตกรรมของ Atlas Copco สามารถติดต่อ www.atlascopco.com/th-th

Atlas Copco is a Swedish industrial company, a leader in technology and engineering innovations. With world-leading innovation, it has pioneered many products and engineering technologies. Since 1957, Atlas Copco has been providing energy-efficient products and industrial productivity solutions and services to its valued customers in Thailand across all industry segments. This new investment in Thailand reaffirmed its commitment to provide solutions and services for its customers in the region to reduce energy consumption and operational costs and reduce the carbon footprint.

On August, 23rd 2023 is a celebration of the new office and facility by Mr. Sanjay Safaya, Regional General Manager / Managing Director of Atlas Copco (Thailand) Co., Ltd. to give a speech to honorable guests, colleagues, and media& press and describe this new building structure based on 3 main ideas which are enabling people development, meet customer demand and look after the environment.

After that, Mr. Horst Wasel (Vice President Atlas Copco Holding SE-Asia & Oceania) stated about the beginning if the company and the striving to offer innovation to our partners worldwide over 150 years with hoping this building is a part of the success to connect and assist our ASEAN’s partner in all industries.

 Mr. Henrik statement – Senior Executive Vice President and Business Area President of Industrial Technique said Atlas Copco has been very successful in the past, both in this region but also globally. Just to mention some facts, Atlas Copco now has some 13 billion EUR revenues by providing many key products for industrial customers global with innovations and products. Also, our decentralized technique in organization means that we would like to have our local teams stay close to the local market and the customers and be fast to adapt to local needs.

Atlas Copco is constantly developing new technologies and products in 3 categories, Compressor Technique, The Compressor Technique business area provides compressed air solutions. Industrial technique, this business area provides industrial power tools, assembly, and machine vision solutions, and the latest, Power Technique provides air, power, and flow solutions through products such as mobile compressors, pumps, light towers, and generators.

 For more information about the innovation from Atlas Copco: www.atlascopco.com