55 บริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำจากไทย คว้ารางวัล Superior Taste Award 2023
จากสถาบัน International Taste Institute เวทีประเมินรสชาติอาหารระดับโลก

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา สถาบัน International Taste Institute ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล “Superior Taste Award 2023” โดยได้มอบกว่า 124 รางวัล ให้แก่ 55 บริษัททั่วประเทศไทย อาทิ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) คว้า 17 รางวัล ในหมวดหมู่เนื้อสัตว์และอาหารจากเนื้อสัตว์ที่ผ่านการหมักหรือปรุงสุก (ชาร์กูว์ทรี)

บริษัท ไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด คว้า 11 รางวัล สินค้าประเภท “เบียร์-ไซเดอร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”

และ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ฟู้ด จำกัด (มหาชน) กับ 6 รางวัลในหมวดน้ำผลไม้และผลิตภัณฑ์ทดแทนนม

โดยผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการประเมินรสชาติอย่างเข้มงวดจากสถาบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก สะท้อนถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิตในด้านคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์ 

รางวัล Superior Taste Award 2023

รางวัล Superior Taste Award เป็นเครื่องหมายการันตีรสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการทดสอบและประเมิน จนได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยเชฟมืออาชีพและซอมเมอลิเยร์ชั้นนำ ในปีนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมาย Superior Taste Award จำนวน 2,574 รายการ ซึ่งผ่านการประเมินกระบวนการรับรสและแปลความหมายตามเกณฑ์ประสาทสัมผัส อันประกอบด้วย ได้เห็น ได้กลิ่น ได้ทานอาหาร ได้ลิ้มลองและสัมผัส โดยต้องมีผลคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า 70% เท่านั้นจึงจะได้รับพิจารณาเพื่อรับรางวัล พร้อมระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาอย่างดี สมดุล และอร่อย

ผู้ได้รับรางวัล Prestige Awards ทั้ง 103 ราย

นอกจากนี้ สถาบัน International Taste Institute ยังยกย่องผู้ผลิตที่ผลิตสินค้าออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับคะแนนยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และในปี 2566 นี้ บริษัทของคนไทยที่สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาได้ คือ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ที่คว้า 4 รางวัล ในหมวดสินค้ากลุ่มน้ำผลไม้ บริษัท บอนกาแฟ จำกัด คว้า 1 รางวัลในหมวดสินค้ากลุ่มกาแฟ และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ได้รับ 1 รางวัลในหมวดสินค้ากลุ่มพาสต้า-บะหมี่-ข้าว-ธัญพืช โดยผู้ที่ได้รับรางวัล Prestige Awards นี้มีทั้งหมด 103 ราย ประกอบด้วย รางวัล Crystal Taste Awards จำนวน 77 รางวัลและ รางวัล Diamond Taste Awards จำนวน 26 รางวัล

 

ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่มาพร้อมคุณภาพและความอร่อย

เพื่อเป็นการชักชวนผู้บริโภคให้เปลี่ยนไปลองใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืช ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องจัดการกับหนึ่งในอุปสรรคหลักของการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ นั่นคือประสบการณ์ด้านรสชาติ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืช เช่น เบอร์เกอร์หรือนักเก็ตทดแทนเนื้อสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับนมหรือชีส และผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับอาหารทะเลอีกด้วย โดยข้อมูลของสถาบัน International Taste Institute แสดงให้เห็นว่า คุณภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

ในโอกาสนี้ มร.อลัน โคซอน (Alan Coxon) ประธานคณะกรรมการฝั่งเชฟของสถาบัน International Taste Institute ได้กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่เราได้เห็นว่าบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืชมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คณะกรรมการประทับใจมากกับคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในปีนี้ สินค้าบางรายการที่เราประเมินมีความใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์มาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านกลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัส”

 

ทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารที่เป็นเลิศ

คณะกรรมการของสถาบัน International Taste Institute ประกอบด้วยเชฟและซอมเมลิเยร์ชื่อดังจากทั่วโลกซึ่งเป็นตัวแทนของสมาคมอาหารชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นเชฟมิชลินสตาร์ หรือผู้ชนะจากการแข่งขันจากเวทีนานาชาติ ทุกคนล้วนมีความหลงใหลในอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพร่วมกัน

พร้อมกันนี้ มร.เอริก เดอ สโปลแบร์ช (Eric de Spoelberch) ประธานบริหารสถาบัน International Taste Institute กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับใบสมัครเข้าร่วมการตัดสินเป็นจำนวนมากจากเชฟและซอมเมลิเยร์ทั่วโลก ทำให้เราสามารถรวบรวมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพได้เป็นจำนวนมากเพื่อช่วยและสนับสนุนผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มให้ยกระดับรสชาติความอร่อยให้กับผลิตภัณฑ์ของตน สอดคล้องกับพันธกิจของเราในการทำให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยของอร่อย”

สำหรับรายชื่อของผู้ผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.taste-institute.com

ภารกิจระดับโลก “ไก่ไทยจะไปอวกาศ”
CPF ผู้นำยกระดับมาตรฐานไก่ไทย สู่ มาตรฐานระดับอวกาศ อีกความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ประกาศภารกิจเตรียมส่งไก่ไทยไปพิชิตอวกาศ ในโครงการ Thai food – Mission to Space เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้ดำเนินโครงการวิจัยร่วมกับสองพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอวกาศจากประเทศสหรัฐอเมริกา NANORACKS LLC และ บจก. มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ MU Space ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอวกาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภารกิจเตรียมส่งไก่ไทยไปพิชิตอวกาศครั้งนี้ ไก่ไทยต้องผ่านการรับรองความปลอดภัยมาตรฐานอวกาศ (Space Food Safety Standard) ซึ่งก็คือมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารขั้นสูงระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศสามารถบริโภคได้

นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าวมีการจัดเวทีเสวนา Thai food – Mission to Space เชิญกูรูจากไทยและต่างประเทศ มาร่วมเสวนา เพื่อขับเคลื่อนการพลิกโฉมอาหารไทยไปไกลสู่อวกาศ ด้วยความปลอดภัยมาตรฐานอวกาศในหลากหลายประเด็น ซึ่งในงานเสวนาประกอบด้วย Mr. Michael Massimino อดีตนักบินอวกาศ NASA, Miss Vickie Kloeris นักวิทยาศาสตร์การอาหารที่เคยทำงานในห้องวิจัยของ NASA, รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์, ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และนายอาจวรงค์ จันทมาส นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และพิธีกรรายการดัง ”ใดๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์”

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ เปิดเผยว่าการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย สู่มาตรฐานอวกาศครั้งนี้ เกิดจากความเชื่อมั่นว่าเนื้อไก่ของซีพีเป็นหนึ่งในแบรนด์เนื้อสัตว์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก จึงตั้งเป้าหมายใหญ่ที่จะพิชิตมาตรฐาน Space Food Safety Standard ให้เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยในโครงการ Thai food – Mission to Space

“ซีพีเอฟ ตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารอย่างที่สุด เมื่อได้พันธมิตรที่เชี่ยวชาญ อย่าง NANORACKS LLC และ MU Space มาร่วมดำเนินโครงการ Thai food – Mission to Space ที่จะปฏิบัติภารกิจร่วมกับ “ศูนย์วิจัยด้านอาหารอวกาศของสหรัฐ” สิ่งนี้จะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่อาหารจากประเทศไทยจะได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับนี้ นับเป็นการแสดงศักยภาพขั้นสูงของนวัตกรรมเทคโนโลยีและความปลอดภัยการผลิตเนื้อไก่ของไทย และที่สำคัญ คือ การยืนยันว่าคนไทยทุกคนได้บริโภคไก่ที่ปลอดภัยในระดับเดียวกับที่องค์กรระดับโลกยอมรับ” นายประสิทธิ์กล่าว

ด้าน Mr. Michael James Massimino อดีตนักบินอวกาศ NASA ร่วมบอกเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตในสภาวะไร้น้ำหนักและกล่าวว่า อาหารที่นักบินอวกาศต้องรับประทานนั้น ความปลอดภัยไร้สารตกค้างเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะจะส่งผลต่อสุขภาพนักบินอวกาศในระยะยาว และสารอาหารที่เหมาะสมก็มีผลอย่างมากต่อมวลกระดูกและกล้ามเนื้อของนักบินแต่ละคน ดังนั้น อาหารหมวดโปรตีนจึงต้องมีการจัดเตรียมเป็นพิเศษ และที่ผ่านมาอาหารส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบอาหารแห้ง (Dehydrate food) ที่ต้องเติมน้ำลงในอาหาร หรือแบบพร้อมทาน (Ready-to-eat) ด้วยเทคโนโลยีรีทอร์ท (Retort) ที่สามารถแกะแล้วบริโภคได้ทันที แต่สิ่งที่ต่างกับขณะที่อยู่บนพื้นโลก คือ ลักษณะของอาหารและซอสต่างๆ จะมีความข้นเหนียว เพื่อให้ติดกับช้อนและสามารถบริโภคได้สะดวก หรือบริโภคจากบรรจุภัณฑ์ได้เลย และอีกสิ่งที่แตกต่าง คือ เรื่องการรับรสและกลิ่นของอาหารที่ลดลง ทำให้เรารับรู้รสชาติอาหารได้น้อยลง อาหารประเภทสไปซี่ฟู้ดจึงเป็นที่นิยมในหมู่นักบิน

ส่วน Miss Vickie Kloeris นักวิทยาศาสตร์การอาหารที่เคยทำงานในห้องวิจัยของ NASA มานานกว่า 34 ปี และเป็นผู้จัดการระบบอาหารสำหรับเที่ยวบินแรกสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) กล่าวว่า อาหารที่จะถูกส่งขึ้นไปกับนักบินอวกาศนั้น ต้องครบถ้วนทั้งด้านความปลอดภัยและโภชนาการ โดยมีเกณฑ์กำหนดจาก NASA ที่เข้มงวดมากกว่าอาหารที่ขายทั่วไป เพราะในอวกาศเป็นสถานที่ห่างไกลโรงพยาบาลและหมอมากที่สุด นักบินอวกาศจึงต้องปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องได้รับสารอาหารที่เหมาะสมอย่างครอบคลุมตรงตามความต้องการของร่างกายของนักบินแต่ละบุคคล สำหรับโครงการ Thai food – Mission to Space นั้น จากการที่ได้ไปดูงานวิจัยที่ห้องแล็บและวิธีการเลี้ยงไก่ของ CPF ทำให้รู้สึกประทับใจในมาตรฐานการผลิตเนื้อสัตว์ที่สูงมากของไทย ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าเนื้อไก่ ซีพี นั้นปลอดสารปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ สารเคมีตกค้างและเชื้อโรคปนเปื้อน ที่จะสามารถพิชิตมาตรฐานอวกาศ ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับที่ NASA กำหนด และแน่นอนว่าอาหารไทยขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยติดอันดับโลก หากมีการส่งไก่จากไทยในเมนูแบบไทยขึ้นไปบนสถานีอวกาศเป็นครั้งแรกนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีของนักบินอวกาศบนนั้นแน่นอน

ทั้งนี้ ซีพีเอฟได้รับมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยด้านอาหารระดับนานาชาติสูงสุดถึง 6 มาตรฐาน โดยล่าสุด ยังเป็นบริษัทรายแรกในอาเซียนที่มีมาตรฐานการผลิตอาหารของตนเอง (CPF Food standard; PS 7818: 2018) โดยการสนับสนุนจาก BSI หรือสถาบันมาตรฐานอังกฤษ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เกิดจากการบูรณาการมาตรฐานสากลหลายๆ มาตรฐานเข้าด้วยกัน ประกอบด้วย HACCP(CODEX), ISO 9001, ISO 22000 รวมถึง กฎระเบียบภายในและต่างประเทศ ตลอดจนมาตรฐานความปลอดภัยอาหารของสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งอังกฤษ (BRC) การปฏิบัติทางสุขลักษณะที่ดี (GHP) ระบบการจัดการสวัสดิภาพสัตว์เพื่อส่งออก และสามารถตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่การผลิตได้ 100% ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ขณะที่มาตรฐานอวกาศ จะต้องผ่านกระบวนการตรวจเชื้อโรค สารตกค้าง ความปลอดภัย และคุณภาพด้านอาหารต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ของ Space Food Lab ซึ่งมีการตรวจสอบมากกว่า 40 การตรวจสอบ

ที่มา: pr@cpf.co.th

ก.เกษตรฯ –กรมปศุสัตว์ – ซีพีเอฟ ร่วมปล่อย “เป็ดแปรรูป” ตู้ปฐมฤกษ์ ของไทยไปออสเตรเลีย
ตอกย้ำความมั่นใจในมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก

Continue reading “ก.เกษตรฯ –กรมปศุสัตว์ – ซีพีเอฟ ร่วมปล่อย “เป็ดแปรรูป” ตู้ปฐมฤกษ์ ของไทยไปออสเตรเลีย
ตอกย้ำความมั่นใจในมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก”

CARBERY EXPANDS FOOTPRINT IN ASIA WITH OPENING OF PREMISES IN SINGAPORE

CARBERY MARKS TENTH ANNIVERSARY OF OPENING OF SYNERGY FLAVOURS MANUFACTURING SITE IN THAILAND

27TH April 2023 – Carbery Group, the international dairy, flavours and nutritional ingredients company based in West Cork, has just celebrated an exciting week marking two significant milestones in their commitment to and investment in the South East Asian region.

In Singapore, Carbery marked the official opening of the new Carbery Group Asia Business and Innovation Centre. This event also coincided with the Carbery team celebrating the tenth anniversary of the opening of their Synergy flavours manufacturing site in Thailand.

Group Chairman Cormac O’Keeffe and Chief Executive Jason Hawkins travelled to the region this week to mark the two important occasions and to celebrate with local teams in Thailand and Singapore.

Speaking on the significance of the trip, CEO Jason Hawkins said: “Ten years ago we made an important strategic commitment to expanding our business and better serving our customers in South East Asia with the opening of our premises in Bangkok. The team and our business has gone from strength to strength in those ten years and we are delighted to mark this occasion with the team. The decision to expand our footprint in the region with a business and innovation centre in Singapore is a natural extension of that success.”

Carbery Chairman Cormac O’Keeffe outlined his excitement at the development: “Any expansion of our business is a good news day for Carbery and for our farmer shareholders. I want to thank them for their support as we continue to expand and diversify our business model and seek new customers in new markets. Asia is a key growth area on both the dairy and flavours sides of our business, and we look forward to the new opportunities our presence in Singapore will bring.”

Sebastiano Pagano, CEO of Synergy Europe and Asia, who along with Gordon Eng, Head of Business Development & Strategy, Asia, will be based in the Singapore office.

Sebastiano Pagano, CEO at Synergy Europe and Asia, explained: “The objective of opening in Singapore is to fully take advantage of the strong, established and available ecosystems and networks to enable growth across the wider region. This in turn will allow Carbery Group to foster stronger collaboration with industry partners, start-ups, universities and research institutes, and with strategic key customers.”

  Continue reading “CARBERY EXPANDS FOOTPRINT IN ASIA WITH OPENING OF PREMISES IN SINGAPORE”

Indulge in Italian Delights: The Italian Pavilion at THAIFEX-Anuga Asia 2023 (23-27 May 2023) in Bangkok

Indulge in Italian Delights: The Italian Pavilion at THAIFEX-Anuga 2023 (23-27 May 2023) in Bangkok, Presented by the Italian Trade Agency, and Italian Embassy. Discover both offline and online Authentic Italian products through leading supermarket and a full-scale e-commerce experience. Continue reading “Indulge in Italian Delights: The Italian Pavilion at THAIFEX-Anuga Asia 2023 (23-27 May 2023) in Bangkok”

Global FoodTure Mission Thailand 2023 นำเสนองานประชุมความร่วมมือไทย-ดัตช์ กำหนดนิยามใหม่สำหรับระบบอาหารแห่งอนาคต ปูเส้นทางสู่งาน Healthy Food Asia 2023

Continue reading “Global FoodTure Mission Thailand 2023 นำเสนองานประชุมความร่วมมือไทย-ดัตช์ กำหนดนิยามใหม่สำหรับระบบอาหารแห่งอนาคต ปูเส้นทางสู่งาน Healthy Food Asia 2023”

Koelnmesse เน้นย้ำแนวทางการจัดงาน “Anuga 2023” ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ภายใต้แนวคิด “ความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานอาหาร”

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา Koelnmesse ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และหอการค้าไทย (TCC) ได้จัดการอภิปรายโต๊ะกลมขึ้นภายในงาน Thaifex-Anuga Asia 2023 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับงาน Anuga 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2566 ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี

ซึ่งในงานนี้ได้รับเกียรติจาก Mr. Gerald Boese, Chief Executive Officer, Koelnmesse GmbH, Mr. Bastian Mingers, Vice President Trade Fair Management, Koelnmesse GmbH คุณอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย (TCC) และ Myrthe de Beukelaar, Senior Market Analyst, Innova Market Insights ร่วมหารือเกี่ยวกับการผลักดันอาหารไทย ให้สามารถรองรับความต้องการอาหารทั่วโลกได้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนผ่านการพัฒนาโซลูชันร่วมกัน อันเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต่อไป
Mr. Gerald Boese, Chief Executive Officer ของ Koelnmesse GmbH กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาร่วมงาน Thaifex-Anuga Asia 2023 ที่ประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมเตรียมเดินหน้าจัดงาน Anuga 2023 ในเดือนตุลาคมนี้ ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เพื่อตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มที่ดึงดูดผู้คนจากทั้งห่วงโซ่อุปทานอาหารมารวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างนวัตกรรม ความร่วมมือและเครือข่าย อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม” และยังได้เปิดเผยว่าในปีนี้ มีผู้ประกอบการจากไทยหลายบริษัทเข้าร่วมจัดแสดงในงาน Anuga โดยใช้พื้นที่มากกว่า 3000 ตารางเมตรอีกด้วย

พร้อมกันนี้ Mr. Bastian Mingers, Vice President Trade Fair Management ของ Koelnmesse GmbH ได้เสริมว่า “Anuga 2023 ถือเป็นเวทีแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ประกอบไปด้วยงานย่อยมากถึง 10 งานในที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และเทรนด์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารได้ โดยคาดว่าจะมีผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 8,000 ราย บนพื้นที่กว่า 158,000 ตารางเมตร” อีกทั้งยังเชิญชวนผู้ประกอบการไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกท่านเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ในขณะที่ตลาดกำลังขยายตัว ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น แต่ยังติดหลายปัญหาระดับโลก Anuga จึงพยายามหาทางออกเพื่อจัดส่งอาหารให้คนทั่วโลก โดยเป็นเวทีในการหารือร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ความโปร่งใส และการตรวจสอบย้อนกลับได้ของทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการจัดหาอาหารแห่งอนาคต

คุณอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า “ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพร้อมทั้งความรู้ ความสามารถที่จะพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะทำงานร่วมกับหอการค้าไทย (TCC) ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าร่วมงาน Anuga เพื่ออัปเดตเทรนด์และเทคโนโลยี โดยระบุว่า เยอรมนีเป็นหนึ่งคู่ค้าสำคัญของไทย เรามีการทำธุรกิจร่วมกัน และการเข้าร่วมงาน Anuga จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้และพัฒนาโซลูชัน มุ่งสู่ความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานอาหารต่อไป”

และเพื่อเป็นการรณรงค์ในเรื่องการลดขยะอาหาร (Food Waste) ทาง Anuga ได้ร่วมมือกับ “TAFEL” ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ดูแลจัดการอาหารเหลือทิ้งจากการบริโภค เพื่อกระจายสู่ผู้ที่มีความต้องการหรือขาดแคลนอาหาร โดยทาง Koelnmesse ได้ทำการประชาสัมพันธ์แคมเปญนี้กับผู้จัดแสดงงานที่มีการสาธิตการทำอาหารและจัดชิมผลิตภัณฑ์ภายในงาน เพื่อนำอาหารที่เหลือจากการจัดแสดงไปบริจาคหลังจบงานแสดงสินค้านี้อีกด้วย

ผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่สนใจเข้าร่วมงาน Anuga 2023 ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2566 ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.anuga.com

สัมมนาด้านพลาสติก PET แปรใช้ใหม่ (rPET) ที่มากกว่าแค่นำกลับมาใช้

Continue reading “สัมมนาด้านพลาสติก PET แปรใช้ใหม่ (rPET) ที่มากกว่าแค่นำกลับมาใช้”

การขับเคลี่อนบรรจุภัณฑ์ฐานชีวภาพในระดับอุตสาหกรรม เพื่อลดการใช้พลาสติกที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Continue reading “การขับเคลี่อนบรรจุภัณฑ์ฐานชีวภาพในระดับอุตสาหกรรม เพื่อลดการใช้พลาสติกที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม”