ในโอกาสครบรอบคล้ายวันสถาปนา 55 ปี สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ “Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Players in Bio-Economy” ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงการนำนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมเป็นเวทีแสดงผลงานวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้บริการภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยระบบเศรษฐกิจกระแสใหม่ให้เป็นรูปธรรม โดยได้รับเกียรติจากรศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Taste of TISTR” เนื่องในงานสัมมนาและนิทรรศการดังกล่าวนี้ โดยมี ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ วว. ผู้บริหาร พนักงาน วว. รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2561 ณ ห้องบอลรูม A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ในโอกาสนี้ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กับการพัฒนาผู้ประกอบการด้านอาหารของไทย” โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีนโยบายและกลไกการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารและพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงออกสู่ตลาด ครอบคลุมตั้งแต่การแข่งขันของวิสาหกิจชุมชน SMES ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายใหม่ รวมถึงเกษตรกรและประชาชน อาทิ โครงการคูปองนวัตกรรม โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม (iTAP) โครงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการโอทอปด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) 5 ภูมิภาค นอกจากนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังให้ความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างเติบโต อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐานของ วว.ที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ได้แก่ โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร ศูนย์นวัตกรรมผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย ตลอดจนการพัฒนา Food Design & Packaging,Smart Packaging รวมถึงงานบริการเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ การรับรองมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
“วทน. มีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ทำให้ประชาชน สังคม มีความเป็นอยู่ที่ดี อาหารยุคนี้และยุคหน้าไม่ใช่กินเพื่ออยู่ แต่จะเป็น Food for healthy มากขึ้น และเป็น Food safety รวมทั้งจะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาหารจะต้องเพียงพอกับประชากรของโลก ไม่มากไปหรือน้อยไป เชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามารถแข่งขันด้านอาหารได้ในระดับโลก โดยใช้ วทน.มาประยุกต์ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมูลค่าของอาหารจะสูงขึ้นๆ ฉะนั้นเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก วทน. ให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ…” รศ.นพ.สรนิตฯ กล่าวสรุป
กิจกรรมภายในงาน “Taste of TISTR ” ประกอบด้วยการเสวนาเรื่อง “Trends and Innovation in Global Food Business” และการเสวนาเรื่อง ” Trends in Global Food Safety” รวมทั้งสาธิตการทำอาหารด้วยส่วนประกอบจากโครงการภายใต้การดำเนินงานการสนับสนุนของ วว. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของไทยในการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) การจัดแสดงนิทรรศการ การแสดงความร่วมมือกับพันธมิตรของ วว. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Chinese Academy of Sciences (CAS) และ Japan Packaging Institute (JPI) เป็นต้น และยังมีการให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้มแข็งด้วย วทน.