Page 55 - FoodFocusThailand No.197 August 2022
P. 55

STRATEGIC R&D


                  เส่ียหายเกิด้ขึ�น ขาด้ความแข็งแรง ทำาให้ผิวชั�นบนสุ่ด้ยุบตัวลงมา เราจึงเห็นลักษณะ  ส่่งผลถึึงผิวได้้ด้ีกว่าการทา โด้ยการพิิจารณาผลิตภััณฑ์์เส่ริมอาหารที�มี
                  ของผิวชั�นนอกเป็นริ�วรอย เหี�ยวย่น และหย่อนคล้อย โด้ยเกิด้ขึ�นจากการด้ำาเนิน              ส่่วนประกอบของคอลลาเจน ควรพิิจารณาที�หลัก 3 ประการคือ ชนิด้ของ
                  วิถึีชีวิตต่างๆ เช่น อาหารการกิน การสู่บบุหรี� ความเครียด้ การด้ื�มแอลกอฮอล์ รวมทั�ง  คอลลาเจน กรรมวิธีีส่กัด้ และขนาด้โมเลกุลของคอลลาเจน การไฮโด้รไลซ์์
                  การออกกำาลังที�มากเกินไป ก็มีผลต่อการเปลี�ยนไปของคอลลาเจนเหล่านี�ด้้วย    คอลลาเจนทางอุตส่าหกรรมนั�นจะเป็นการย่อยโปรตีนคอลลาเจนจากนำ�าหนัก
                      เมื�ออายุมากขึ�น การส่ังเคราะห์คอลลาเจนตามธีรรมชาติจะลด้ลง และเอนไซ์ม์   โมเลกุล 300 กิโลด้าลตัน ให้เป็น พิอลิเปปไทด้์ ที�มีนำ�าหนักโมเลกุล 1,000-8,000
                  (Collagenase) ที�มีปริมาณเพิิ�มมากขึ�น ทำาให้ผิวเหี�ยวและขาด้ความยืด้หยุ่น นอกจากนี�   ด้าลตัน แล้วย่อยต่อด้้วยเอนไซ์ม์กลายเป็นคอลลาเจนเปปไทด้์ ที�มีนำ�าหนัก
                  ยังมีหลักฐานที�แส่ด้งให้เห็นว่า ผิวหนังบริเวณที�เผชิญกับแส่ง UV จะมีการเหนี�ยวนำา  โมเลกุลน้อยกว่า 1,000 ด้าลตัน โด้ยการย่อยให้โมเลกุลเล็กลงควรย่อยด้้วย
                  ให้เกิด้การขยายของ ROS (Reactive Oxidation Stress) ซ์ึ�งเป็นตัวทำาให้เกิด้การเร่ง  การใช้เอนไซ์ม์ชีวภัาพิ ซ์ึ�งควบคุมกระบวนการได้้ง่ายและไม่มีผลพิลอยได้้อื�นๆ
                  ปฏิิกิริยาของเอนไซ์ม์ Collagenase ที�บริเวณนั�น ด้ังนั�น การควบคุมการส่ร้าง                     จะทำาให้ได้้เปปไทด้์ที�มีนำ�าหนักโมเลกุลน้อย ดู้ด้ซ์ึมได้้ง่าย และมีองค์ประกอบ
                  คอลลาเจนและยับยั�งปฏิิกิริยาของ Collagenase จึงเป็นหลักส่ำาคัญในการลด้และ  ของกรด้อะมิโนที�มีความส่มำ�าเส่มอมากกว่า
                  แก้ไขปัญหาเหล่านี� โด้ยส่ามารถึนำามาประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื�องส่ำาอางประเภัทส่กินแคร์  2. การยัับยัั�งปฏิิกิริยัา Collagenase   กลุ่มของ Collagenase เช่น
                  ต่างๆ ทั�งนี� ผลกระทบจากการขาด้คอลลาเจนนอกจากทำาให้เกิด้ริ�วรอยบนผิวหนัง   MMP-1 (Matrix metalloproteinase-1 หรือ Fibroblast collagenase),
                  ผิวหนังเหี�ยวย่น หย่อนคล้อย ทำาให้กระดู้กอ่อนเส่ื�อมส่ภัาพิแล้ว ยังนำาพิาไปสู่่โรคไขข้อเส่ื�อม  MMP-8 (Neutrophil collagenase), MMP-13 (Collagenase- 3) เป็นเอนไซ์ม์
                  ด้้วย เนื�องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิด้หนึ�งที�ประกอบด้้วยกรด้อะมิโนที�เรียงต่อกัน  Collagenase ที�มีส่่วนส่ำาคัญต่อการเปลี�ยนแปลงของเนื�อเยื�อ โด้ยจะมีการส่ร้าง
                  ด้้วยพิันธีะเปปไทด้์ คือกรด้อะมิโน Glycine Proline และ Hydroxyproline   เอนไซ์ม์ชนิด้นี�มากขึ�นในจุด้ที�เกิด้การอักเส่บ  ซ์ึ�ง MMP จะไปทำาให้โครงส่ร้างที�
                                                                          เป็นเกลียวของคอลลาเจนขาด้เป็นท่อน โด้ยเฉพิาะคอลลาเจนที�อยู่ในกระดู้ก
                  3 วิิธีีสร้้างผิิวิพร้ร้ณที่ี�ดีี เพ่�อแสดีงควิามงามจากภายในส่�ภายนอก  กระดู้กอ่อน และผิวหนัง  ซ์ึ�งส่่งผลให้ผิวมีความหย่อนคล้อย มีริ�วรอย และมี
                     1. การสร้างคอลลาเจน วิตามินซ์ี มีบทบาทที�ส่ำาคัญในการส่ังเคราะห์ คอลลาเจน   ความแห้งกร้าน ด้ังนั�น จึงจำาเป็นต้องหาวิธีีการที�จะยับยั�งปฏิิกิริยาของเอนไซ์ม์
                  โด้ยวิตามินซ์ีเพิิ�มการส่ังเคราะห์คอลลาเจนโด้ยเฉพิาะคอลลาเจนชนิด้ type I  ซ์ึ�งเป็น  ที�ส่ลายคอลลาเจน และหาทางส่่งเส่ริมการส่ร้างคอลลาเจน ซ์ึ�งพิบว่าส่ารส่กัด้
                  คอลลาเจนในส่่วนของผิวหนังและเส่้นเอ็น  เนื�องจากวิตามินซ์ีเป็น Co-factor ของ  จากพิืชหลายชนิด้มีปฏิิกิริยายับยั�งเอนไซ์ม์ตัวนี�  โด้ยเฉพิาะพิืชที�มีส่ารประกอบ
                  เอนไซ์ม์ Prolyl hydroxylase ซ์ึ�งเป็นเอนไซ์ม์ที�ทำาให้โมเลกุลคอลลาเจนมีความเส่ถึียร   พิอลิฟีีนอล เช่น ฟีลาโวนอยด้์ กรด้ฟีินอลิก และแทนนิน จากการศึึกษา
                  และ Lysyl hydroxylase ซ์ึ�งเป็นเอนไซ์ม์ที�ทำาให้โครงส่ร้าง Cross  linking ในโมเลกุล   ส่ารส่กัด้จากพิืช 16 ชนิด้เพิื�อหาปฏิิกิริยาของเอนไซ์ม์ที�ยับยั�งการทำางานของ
                  คอลลาเจนมีความแข็งแรง ซ์ึ�งเอนไซ์ม์เหล่านี�จะเร่งกระบวนการเติมหมู่ Hydroxy ให้  Collagenase (Anticollaginase) พิบว่า ชาขาวมีปฏิิกิริยาสู่งสุ่ด้ ถึึงร้อยละ 87
                  กับกรด้อะมิโน Proline และ lysine ให้กลายเป็น Hydroxyproline และ Hydroxylysine   ชาเขียวร้อยละ 47 ส่ารส่กัด้จากด้อกกุหลาบ (Rose tincture) ร้อยละ 41
                  ที�ทำาให้การยึด้เส่้นใยหน่วยย่อยของคอลลาเจนให้เป็นมัด้เส่ถึียรมากขึ�น กระบวนการนี�     และลาเวนเด้อร์ร้อยละ 31 ปัจจุบันมีการผลิตผลิตภััณฑ์์อาหารเส่ริมเพิื�อ
                  เกิด้เป็น Procollagen และนำาไปสู่่การส่ร้างเป็นคอลลาเจนต่อไป   ความงามจากส่ารส่กัด้เหล่านี� โด้ยใช้บริโภัคเพิื�อยับยั�งการทำางานของเอนไซ์ม์
                     นอกจากนี�วิตามินซ์ี ยังมีบทบาทในการชะลอวัย จากการศึึกษาโด้ยเปรียบเทียบ  Collagenase
                  การนำาเซ์ลล์เกิด้ใหม่จากผิวชั�นนอกของเด้็กเกิด้ใหม่ กับเซ์ลล์ Fibroblast ของคนชรา   3. การเพิ่ิ�มการปกป้องผิิวจากภายันอก จากที�กล่าวมาข้างต้น ผิวหนัง
                  อายุ 85 ปี พิบว่าเซ์ลล์ผู้สู่งอายุมีอัตราการแบ่งตัวเพิียงแค่ 1 ใน 5 ส่่วนของเซ์ลล์ของ  ชั�นนอกสุ่ด้ที�อยู่ด้้านบนสุ่ด้ของหนังกำาพิร้า หรือชั�น Stratum Cornium ซ์ึ�งเปรียบ
                  เด้็กเกิด้ใหม่ แต่เมื�อเติมวิตามินซ์ี เข้าไปในอาหารที�เลี�ยงเนื�อเยื�อนั�น พิบว่าเซ์ลล์ผู้สู่ง  เส่มือนกำาแพิงอิฐที�เรียงต่อกันและยึด้ติด้กันด้้วยปูน ก้อนอิฐก็คือเซ์ลล์ผิวหนัง
                  อายุแบ่งตัวเร็วกว่าการแบ่งตัวของเซ์ลล์เด้็กเกิด้ใหม่ที�ไม่ได้้เติมวิตามินซ์ี ถึึง 6 เท่า   ปูนก็คือไขมัน ซ์ึ�งร้อยละ 50 ของไขมันนี�คือเซ์ราไมด้์ (Ceramide) หากผิวหนัง
                  และเมื�อเปรียบเทียบเซ์ลล์ของเด้็กเกิด้ใหม่ที�ทั�งมีและไม่มีวิตามินซ์ี ในอาหารเลี�ยงเชื�อ   ชั�นนี�ไม่แข็งแรงหรือมีเซ์ราไมด้์ลด้ลง นำ�าในผิวจะสู่ญเส่ีย ทำาให้ผิวแห้ง ความ
                  พิบว่าในส่่วนจานเพิาะเลี�ยงเชื�อที�มีวิตามินซ์ี เซ์ลล์ส่ามารถึแบ่งตัวได้้ด้ีกว่าถึึง 4 เท่า   ยืด้หยุ่นผิวลด้ลง ผิวที�สุ่ขภัาพิด้ีต้องมีปริมาณเซ์ราไมด้์ที�สู่ง การเส่ริมเซ์ราไมด้์
                  เมื�อเทียบกับเซ์ลล์ที�ไม่ได้้เติมวิตามินซ์ี  ซ์ึ�งการแบ่งตัวเกิด้เซ์ลล์ใหม่ทำาให้เกิด้การผลัด้  ทำาได้้ด้้วยการกินอาหารที�มีเซ์ราไมด้์ และเซ์ราไมด้์ส่ามารถึถึูกดู้ด้ซ์ึมได้้ผ่านผนัง
                  เซ์ลล์ผิว และมีเซ์ลล์ใหม่ขึ�นมาแทน ซ์ึ�งเซ์ลล์ใหม่มีความกระจ่างใส่ ทำาให้ปัญหาเรื�อง  ลำาไส่้เข้าสู่่กระแส่เลือด้ แหล่งอาหารที�มีเซ์ราไมด้์ตามธีรรมชาติที�จัด้เป็น
                  ผิวหมองคลำ�าลด้ลง เป็นการชะลอวัยอย่างหนึ�ง แหล่งอาหารที�พิบวิตามินซ์ี ได้้แก่        Phytoceramide เช่น ถึั�วเหลือง จมูกข้าวส่าลี งา เมล็ด้องุ่น ถึั�วลิส่ง มันเทศึ
                  ผลไม้ตระกูลส่้ม ส่ตรอว์เบอร์รี มะละกอ มะม่วง มะเขือเทศึ ผักใบเขียว บรอกโคลี และ   และข้าวกล้อง หรืออาจใช้ผลิตภััณฑ์์เส่ริมอาหารที�มีส่ารส่กัด้เซ์ราไมด้์จากแหล่ง
                  ฝรั�ง เป็นต้น                                           พิืชเหล่านี�ก็ได้้
                     Hydrolyzed collagen คือคอลลาเจนที�ถึูกย่อยแล้วบางส่่วนเป็นโมเลกุลส่ายส่ั�นๆ    ความงามจากภัายในคือการมีผิวพิรรณที�มีสุ่ขภัาพิด้ี ดู้อ่อนกว่าวัย ซ์ึ�งผิว
                  ซ์ึ�งจะเป็นวัตถึุด้ิบส่ำาหรับการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย โด้ยมีวิตามินซ์ี เป็นตัวเร่ง  เป็นอวัยวะที�มีพิื�นที�มากที�สุ่ด้ในร่างกาย การดู้แลผิวจากภัายในที�ส่่งผลมาถึึง
                  กระบวนการให้เกิด้การส่ังเคราะห์คอลลาเจน จึงมีผลิตภััณฑ์์อาหารเส่ริมคอลลาเจน  ภัายนอก คือการส่ร้างความงามที�ยั�งยืน ด้ังนั�นโภัชนาการคือกุญแจส่ำาคัญ
                  ที�ให้เราได้้บริโภัคในรูปแบบต่างๆ มากมาย แหล่งของคอลลาเจนได้้จากเส่้นเอ็นของ  การเส่ริมส่ร้างคอลลาเจนให้ผิว ด้้วยวัตถึุด้ิบที�ใช้ส่ร้างคอลลาเจน ไปจนถึึง
                  โค หรือจากหนังหมู แต่ปัญหาที�พิบคือ คอลลาเจนจากแหล่งเหล่านี�มักมีปัญหาจาก  การยับยั�งเอนไซ์ม์ที�ย่อยส่ลายคอลลาเจน และการปกป้องผิวจากภัายนอกด้้วย
                  โรควัวบ้า โรคไข้หวัด้หมู หรือด้้วยเหตุผลทางศึาส่นา ปัจจุบันผู้ผลิตส่่วนใหญ่ใช้แหล่ง  การเส่ริมเซ์ราไมด้์ผ่านการบริโภัค ทั�งหมด้นี�คือหลักการของการส่ร้างผิวส่วย
                  คอลลาเจนจากส่ัตว์นำ�า ทั�งประเภัทมีกระดู้กส่ันหลังและไม่มีกระดู้กส่ันหลัง ซ์ึ�งกรด้   สุ่ขภัาพิด้ีและส่ะท้อนความงามจากภัายใน
                  อะมิโนจาก Hydrolyzed collagen จะกระตุ้นให้เกิด้การส่ร้างคอลลาเจนที�บริเวณ
                  ผิวหนัง  การเส่ริมคอลลาเจนด้้วยการบริโภัคอาหารหรือผลิตภััณฑ์์เส่ริมอาหารจะ
                                                                                                  AUG  2022 FOOD FOCUS THAILAND  55


                                                                                                                     22/7/2565 BE   09:37
         54-57_Strategiv R&D_����.indd   55                                                                          22/7/2565 BE   09:37
         54-57_Strategiv R&D_����.indd   55
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60