Page 52 - FoodFocusThailand No.221 August 2024
P. 52
STRA
STRATEGIC R & DTEGIC R & D
จากเมล็ดองุ่นยังสำามารถีเป็ลี�ยนเนื�อเยื�อไขมันสำีขาวิเป็็นเนื�อเยื�อ
ไขมันคัล้ายสำีนำ�าตาล (Brown fat-like adipose tissue) ด้วิยผลจาก
กระบวินการ browning effect ได้ โดยป็กติแล้วิเนื�อเยื�อไขมันสำีขาวิ
จะมีหน้าที�หลักในการเก็บสำะสำมไขมันทำาให้มีจำานวินไมโทคัอนเดรีย
น้อย แต่เมื�อสำารสำกัดนั�นเป็ลี�ยนจากเนื�อเยื�อไขมันสำีขาวิให้เป็็น
เนื�อเยื�อไขมันคัล้ายสำีนำ�าตาลจะชี่วิยให้มีจำานวินไมโทคัอนเดรียที�
เพิ�มข่�นได้ และยังสำ่งผลให้เกิดกระบวินการออกซิเดชีันของไขมันได้
มากข่�นอีกด้วิย อย่างไรก็ตามกระบวินการ browning effect ของ
สำารสำกัดโป็รแอนโทไซยานิดินจากเมล็ดองุ่นก็ยังไม่มีการศึ่กษาที�
ชีัดเจน นอกจากโป็รแอนโทไซยานิดินจากเมล็ดองุ่นที�มีการศึ่กษา
เป็็นจำานวินมากแล้วิ สารสกััดเรสเวอราทรอลก็เป็็นพอลิฟีีนอล
จากเมล็ดองุ่นอีกชีนิดหน่�งที�มีการศึ่กษากันอย่างแพร่หลาย โดยมี
รายงานวิ่าเรสำเวิอราทรอลสำามารถีเพิ�มการสำลายไตรกลีเซอไรด์
ให้กลายเป็็นกรดไขมันอิสำระและกลีเซอรอล รวิมถี่งเพิ�มกระบวินการ
ออกซิเดชีันของไขมัน และเพิ�มจำานวินไมโทคัอนเดรีย ซ่�งสำ่งผลให้มี
การเผาผลาญพลังงานได้มากข่�น อย่างไรก็ตามผลวิิจัยเรื�อง
กลไกการเพิ่่�มระบบเผาผลาญไขมันของสารสำคััญจากพิ่ืช การบริโภคัเรสำเวิอราทรอลในมนุษย์ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที�จะ
Adenosine 5′-monophosphate-activated protein kinase สำรุป็ได้วิ่าสำารสำกัดนี�จะสำามารถีจัดการโรคัอ้วินได้
(AMPK) เป็็นวิิถีีทางชีีวิภาพที�สำำาคััญในระบบคัวิบคัุมการเผาผลาญ สารสกััดจากัพืืชตระกัูลซิิตรัส เชี่น สำ้ม มะนาวิ และเกรป็ฟีรุต
ของร่างกาย โดยมีบทบาทในการคัวิบคัุมเอนไซม์ Hormone ก็เป็็นหน่�งในสำารสำกัดจากพืชีที�มีรายงานถี่งสำมบัติที�ชี่วิยเพิ�ม
Sensitive Lipase (HSL) ซ่�งทำาหน้าที�เป็ลี�ยนไตรกลีเซอไรด์ให้เป็็น การเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยสำารสำำาคััญในสำารสำกัดจากพืชี
กรดไขมันอิสำระและยับยั�งการสำร้างไขมัน นอกจากนี� AMPK ยัง ตระกูลซิตรัสำที�มีการรายงานถี่งสำมบัติดังกล่าวิ คัือ ซิตรัสำฟีลาโวินอยด์
ทำาหน้าที�กระตุ้นกระบวินการออกซิเดชีันของกรดไขมันที�จะเกิดข่�น (Citrus flavonoids) ซ่�งป็ระกอบไป็ด้วิยสำารสำำาคััญหลากหลายชีนิด
ภายในตับ ซ่�งมีงานวิิจัยมากมายที�ได้ศึ่กษาถี่งองคั์ป็ระกอบของพืชี เชี่น เฮสำเพอริดิน (Hesperidin) เฮสำเพอริทิน (Hesperetin)
ในการนำามาใชี้เป็็นสำ่วินผสำมอาหารที�มีบทบาทต่อการกระตุ้น นารินจีนิน (Naringenin) นารินจิน (Naringin) แทนเจอเรติน
วิิถีีชีีวิภาพนี� เนื�องจากสำารสำำาคััญเหล่านี�มีสำ่วินชี่วิยในการเพิ�ม (Tangeretin) โนบิเลติน (Nobiletin) เคัวิอซิติน (Quercetin) และ
กระบวินการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ และชี่วิยลดคัวิามเสำี�ยง แคัมพ์เฟีอรอล (Kaempferol) นอกจากนี� ยังรวิมถี่งสำารสำำาคััญใน
ต่อการเกิดโรคัอ้วินได้อีกด้วิย โดยจะขอกล่าวิถี่งสำารสำกัดจากพืชี กลุ่มซิตรัสำแคัโรทีนอยด์ (Citrus carotenoids) และเทอร์พีน
เพียงบางชีนิดที�มีการศึ่กษากันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ สารสกััดจากั (Terpenes) อย่าง β-cryptoxanthin และใยอาหารอีกด้วิย
องุ่่�น สารสกััดจากัพืืชตระกัูลซิิตรัส และสารสกััดจากัชา เป็็นต้น โดยจากผลการศึ่กษาป็ระสำิทธิิภาพของสำารสำกัดจากพืชีตระกูล
องุ่่�น เป็็นพืชีที�อุดมไป็ด้วิยสำารป็ระกอบฟีีนอลิกหลากหลายชีนิด ซิตรัสำในมนุษย์ ร่วิมกับผลการทบทวินวิรรณกรรมอย่างเป็็นระบบ
ไม่วิ่าจะเป็็นโป็รแอนโทไซยานิดิน(Proanthocyanidin) หรือ และ Meta-analysis ได้ข้อสำรุป็วิ่าการบริโภคัพืชีตระกูลซิตรัสำ และ
เรสำเวิอราทรอล (Resveratrol) ซ่�งมีรายงานวิ่า สารสกััดโปรแอนโท- สำารสำกัดจากพืชีตระกูลซิตรัสำสำามารถีลดคั่าดัชีนีมวิลกาย (Body
ไซิยานิดินที�สำกัดได้จากเมล็ดองุ่นมีสำมบัติทางชีีวิภาพที�หลากหลาย Mass Index; BMI) เสำ้นรอบเอวิ เสำ้นรอบสำะโพก และนำ�าหนักตัวิได้
ซ่�งรวิมถี่งการลดคัวิามอ้วินและระดับไขมันในเลือด โดยมีงานวิิจัย โดยมีป็ระสำิทธิิภาพเพิ�มข่�นตามคัวิามเข้มข้นที�ใชี้ โดยสำารสำกัดจาก
ที�พบวิ่า สำารสำกัดโป็รแอนโทไซยานิดินจากเมล็ดองุ่นชี่วิยลด พืชีตระกูลซิตรัสำชี่วิยเพิ�มการเผาผลาญพลังงานที�ได้จาก
การขยายขนาดของเซลล์ไขมัน (Adipocyte hypertrophy) และ การกระตุ้น β-3 cell receptor และชี่วิยเพิ�มการสำร้างไมโทคัอนเดรีย
เพิ�มการแบ่งตัวิของเซลล์ไขมันได้ ซ่�งเป็็นการเพิ�มหน้าที�ของเซลล์ รวิมถี่งเพิ�มการเป็ลี�ยนเนื�อเยื�อไขมันสำีขาวิเป็็นเนื�อเยื�อไขมัน
ไขมันด้วิย นอกจากนี� สำารสำกัดโป็รแอนโทไซยานิดินจากเมล็ดองุ่น สำีนำ�าตาล ซ่�งสำ่งผลให้มีการเผาผลาญพลังงานและไขมันเพิ�มข่�น
ยังชี่วิยเพิ�มป็ระสำิทธิิภาพในการเผาผลาญของเนื�อเยื�อไขมันสำีนำ�าตาล อีกด้วิย
ด้วิยการชี่วิยเพิ�มฤทธิิ�ของเอนไซม์ออกซิเดสำ (Oxidase activity) สำารสำกัดกลุ่มสำุดท้ายที�จะกล่าวิถี่งคัือ สารสกััดจากัชา โดยชีา
และหน้าที�ของไมโทคัอนเดรีย ซ่�งจะทำาให้เกิดการเผาผลาญพลังงาน สำามารถีแบ่งตามกระบวินการหมักและการแป็รรูป็ได้เป็็นชีาขาวิ
ได้ดียิ�งข่�น นอกจากนี�ยังมีรายงานวิ่า สำารสำกัดโป็รแอนโทไซยานิดิน (White tea) ชีาเหลือง (Yellow tea) ชีาเขียวิ (Green tea) ชีาอู่หลง
52 FOOD FOCUS THAILAND AUG 2024
24/7/2567 BE 07:27
51-55_Strategic R&D_���������_KU.indd 52 24/7/2567 BE 07:27
51-55_Strategic R&D_���������_KU.indd 52