Page 58 - 148
P. 58

SURF THE AEC


       การก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง ในเมียนมาและอินเดียโดยผ่านเส้นทางนี้    ประเทศต่างตระหนักถึงปัญหานี้ และให้ความส�าคัญกับการเชื่อมเส้นทาง
          ความร่วมมือในพื้นที่เส้นทางใน 3 ประเทศทางเศรษฐกิจจะเป็นในลักษณะ  การค้ากับอาเซียนที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้รวดเร็วขึ้น
       เกื้อกูลกันเป็นหลัก ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นยุค 3.0 หรือเป็นยุค  มัณฑะเลย์ เป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองรองจากนครย่างกุ้ง เป็นเมือง
       อุตสาหกรรมหนัก เช่น ไทยผลิตและส่งออกเหล็กกล้า น�้ามันส�าเร็จรูป รถยนต์/  ศูนย์กลางการค้าปลีก-ค้าส่งอันดับ 1 ของเมียนมา และก�าลังก้าวขึ้นเป็นประตู
       ชิ้นส่วน วัสดุก่อสร้างและปูนซีเมนต์ เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ   การค้า/ฐานการผลิตมุ่งสู่ตลาดอินเดียและจีน (ประชากรรวม 2,600 ล้านคน
       และก�าลังก้าวสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม   หรือร้อยละ 40 ของประชากรโลก) ปัจจุบันมีเขตอุตสาหกรรมมัณฑะเลย์
       ส่วนเมียนมาและภาคอีสานของอินเดียยังคงเป็นยุค 1.0 คือ เป็นยุคของ  (Mandalay Industrial Zone) ซึ่งมีบริษัทเข้าไปด�าเนินการแล้วประมาณ 1,200
       เกษตรกรรม และก�าลังพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่ยุค 2.0 คือ ยุคอุตสาหกรรมเบา   ราย ในสาขาธุรกิจส�าคัญ เช่น โรงงานถลุงเหล็ก การแปรรูปสินค้าเกษตร
       ซึ่งในยุคนี้ต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วย เช่น ผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า และการแปรรูป  สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ และอุปกรณ์เครื่องจักรกล ส�าหรับ
       สินค้าเกษตร เป็นต้น จึงต้องมีการน�าเข้าปัจจัยการผลิตมากขึ้น ซึ่งโดย  ธุรกิจไทยในเขตอุตสาหกรรมนี้เป็นธุรกิจจัดจ�าหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร
       ธรรมชาติแล้วการค้าจะไหลจากประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่มากกว่าไปยัง  และธุรกิจผลิตอาหารสัตว์
       ประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่น้อยกว่า สินค้าที่มีศักยภาพในตลาดนี้ ได้แก่   มัณฑะเลย์ยังเป็นจุดตัดกับเส้นทางสายไหมตอนใต้ของจีนอีกด้วย โดย
       อาหารแปรรูป เครื่องจักรกลทางการเกษตร ยานยนต์ ด้าย ผ้าผืน หนังฟอก   เส้นทางนี้เริ่มจากท่าเรือจาวผิ่ว (Kyaukpyu) ริมอ่าวเบงกอล ใกล้เมืองซิตตเว
       น�้าตาล และเม็ดพลาสติก ขณะที่เมียนมาและอินเดียอุดมสมบูรณ์ด้วย  และกรุงเนปิดอว์ โดยการสนับสนุนการก่อสร้างจากจีนซึ่งประกอบด้วยการ-
       ทรัพยากรธรรมชาติที่จ�าเป็นต่อภาคการผลิตของไทย อาทิ เมียนมาอุดม  ก่อสร้างท่าเรือน�้าลึก/ท่อน�้ามัน/ก๊าซ/ถนนเชื่อมต่อไปยังมัณฑะเลย์และ
       สมบูรณ์ด้วยทรัพยากรประมง อัญมณี ทองค�า น�้ามัน ก๊าซธรรมชาติ ไม้สัก          คุนหมิงของจีน ซึ่งด�าเนินการเสร็จเรียบร้อยเมื่อปี 2556 เพื่อการขนถ่ายน�้ามัน/
       ไม้ซุง และหินปูน ส่วนอินเดียมีถ่านหิน (มากเป็นอันดับ 4 ของโลก) เหล็ก   ก๊าซจากตะวันออกกลางและเมียนมาสู่จีน ส่งผลให้เกิดธุรกิจต่อเนื่อง
       แมงกานีส (อันดับ 7 ของโลก) ไมก้า บอกไซต์ (อันดับ 5 ของโลก) โครไมต์          หลายอย่างในแนวเส้นทางดังกล่าว อาทิ นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่น-
       ก๊าซธรรมชาติ เพชร หินปูน ทอเรียม (อันดับ 1 ของโลก แหล่งใหญ่อยู่ชายฝั่ง  น�้ามัน เมืองใหม่/ชุมชนใหม่ และทางรถไฟ และเส้นทางนี้ยังมีความน่าสนใจ
       เกรละ) จึงเป็นไปได้สูงที่จะมีการแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิต/วัตถุดิบผ่าน            ในแง่ที่สินค้าไทยจะมีช่องทางตลาดทั้งในระดับผู้บริโภคทั่วไปและระดับ
       เส้นทางนี้เพิ่มมากขึ้น                                อุตสาหกรรมตามแนวเส้นทางนี้ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจขึ้นเป็นล�าดับ
          ตลาดภาคอีสานอินเดียค่อนข้างใหม่ส�าหรับคนไทย จึงควรหาพันธมิตร  ปัจจุบันความเคลื่อนไหวของมหาอ�านาจที่ส�าคัญ คือ การเข้าไป
       ทางการค้าที่รู้จักตลาดเป็นอย่างดี คนกลางทางการค้าที่เราควรให้ความสนใจ  ร่วมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น (ในไทยและอินเดีย)
       เป็นพิเศษเห็นจะเป็นชาวอินเดีย (เชื้อสายเจนไน) ในเมียนมา คนกลุ่มนี้เปรียบ  จีน (ในปากีสถาน เมียนมา ลาว และศรีลังกา) เกาหลีใต้ (ในเวียดนาม) ดังนั้น
       ได้กับพ่อค้าจีนในไทยที่เก่งค้าขาย คนกลุ่มนี้ก็ค้าขาย/พ�านักในมัณฑะเลย์          ประเทศไทยจึงควรเตรียมความพร้อมในระดับนโยบายในการเข้าไป
       โมเร่ และตามูจ�านวนมากเนื่องจากเป็นย่านการค้าเก่าแก่ อีกทั้งเชี่ยวชาญ         ร่วมพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจไตรภาคีแห่งนี้ ซึ่งมีศักยภาพสูงที่จะเกิดระเบียง
       ทั้งตลาดอินเดียและเมียนมา จึงเหมาะที่จะเป็นพันธมิตรในการเจาะตลาดใน  เศรษฐกิจในท�านองเดียวกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของ
       เส้นทางไตรภาคี นอกจากนั้น ภาคอีสานของอินเดียจะมีความคล้ายกับ                  ไทยด้วย อันจะช่วยสร้างโอกาสทางการส่งออก/การลงทุนที่หลากหลายให้กับ
       ยูนนานของจีนที่ห่างไกลความเจริญและไม่มีทางออกทะเล ซึ่งรัฐบาลทั้งสอง  ผู้ประกอบการไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน


































       56  FOOD FOCUS THAILAND  JUL  2018
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63