Page 52 - 148
P. 52

STRONG QC &
       STRONG QC & QAQA


                  Kurt Brunner, Ph.D.
                  Division Research Officer
                  Romer Labs Division Holding GmbH
                  kurt.brunner@romerlabs.com















       เทคโนโลยีกำรทดสอบสำรก่อภูมิแพ้



       ที่เหนือกว่าเทคนิคทางระบบภูมิคุ้มกัน





       ชุดทดสอบสารก่อภูมิแพ้ในอาหารในเชิงพาณิชย์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนั้นใช้หลักการตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางระบบภูมิคุ้มกัน เช่น

       เทคนิค ELISA หรือชุดทดสอบแบบแถบสี (Strip tests) โดยการใช้เทคนิค ELISA นั้นจ�าเป็นต้องมีการฝึกอบรมบุคลากรให้มีความสามารถ
       ใช้เทคนิคดังกล่าวได้  แต่วิธีดังกล่าวสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างจ�านวนมากได้พร้อมกันโดยใช้หลุมทดสอบขนาด  48  หรือ  96  เพลต
       ซึ่งโดยทั่วไปการวิเคราะห์อาจใช้เวลาประมาณ 30 นาที และหนึ่งถึงสองชั่วโมง


          ปัจจุบันเทคนิค ELISA เป็นวิธีที่มีการน�ามาใช้อย่างแพร่หลายในการตรวจหา  มาใช้เมื่อหลายปีก่อนในด้านการตรวจวินิจฉัยโรค การตรวจชิ้นส่วนหลักฐาน
       และตรวจวัดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร อย่างไรก็ตาม แม้จะสามารถ  และการตรวจติดตามทางสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปรพันธุกรรม
       วิเคราะห์ได้หลายตัวอย่างในเวลาเดียวกัน แต่ตัวอย่างเหล่านั้นสามารถใช้กับ  ในช่วงต้นปี 2000 เทคนิค PCR ได้น�ามาใช้เป็นครั้งแรกในการระบุ DNA
       ชุดวิเคราะห์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น                ของสารก่อภูมิแพ้ในอาหารทั่วไปอย่างถั่วฮาเซลนัทและถัวลิสง กระทั่งปัจจุบัน

       ข้อจ�ำกัดในกำรเลือกวิธีกำรทดสอบ                       เทคนิคดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในการตรวจวิเคราะห์สารก่อภูมิแพ้หลักๆ
       เนื่องจากความจ�าเพาะเจาะจงสูงของแอนติบอดี้ที่จะจับกับโปรตีนซึ่งเป็นสาร-   8 ชนิด ในสหรัฐอเมริกา และสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรป
       ก่อภูมิแพ้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น รวมถึงข้อจ�ากัดของเทคโนโลยีนี้ ชุดทดสอบแยก  อีก 14 ชนิด
       ประเภทสารก่อภูมิแพ้จึงมีการน�ามาใช้ส�าหรับตรวจสอบสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิด   เทคนิค PCR จะตรวจจับโมเลกุล DNA ที่มีความเสถียรมากๆ ซึ่งอาจเป็น
       นอกจากนี้ ระดับความจ�าเพาะเจาะจงที่สูงของสารก่อภูมิแพ้ยังอาจน�าไปสู่การ-  ประโยชน์เมื่อใช้ตรวจวิเคราะห์อาหารที่ผ่านการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
       อ่านผลการวิเคราะห์ที่เป็นลบเทียมได้ ในกระบวนการผลิตอาหาร เช่น การใช้  โดย DNA มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับผลกระทบแม้ในสภาวะกดดันทางการผลิตและ
       ความร้อน การเติมสารประกอบประเภทกรดหรือการหมักสามารถท�าให้  ยังคงสามารถตรวจวัดได้เมื่อโปรตีนส่วนมากเสียสภาพหรือเปลี่ยนรูปไป
       โครงสร้างโปรตีนที่เป็นสารก่อภูมิแพ้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โดยสารก่อภูมิแพ้
       ที่เปลี่ยนรูปไปนี้อาจสูญเสียคุณสมบัติทางภูมิคุ้มกัน และแอนติบอดี้ที่จ�าเพาะ
       เจาะจงก็จะไม่สามารถเข้าจับกับโปรตีนที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ได้ต่อไป และน�าไป
       สู่การอ่านผลการวิเคราะห์เป็นลบที่ไม่เป็นลบจริง หรือเพียงแค่มีปริมาณลดลง
          แม้จะมีชุดทดสอบ Strip tests ที่ราคาไม่สูง ใช้งานง่าย ไม่จ�าเป็นต้องใช้
       อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ และให้ผลการวิเคราะห์ที่รวดเร็วในเวลาไม่กี่นาที
       แต่ชุดทดสอบดังกล่าวส่วนมากเป็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและขึ้นอยูกับ
       ปริมาณแอนติบอดี้ที่ใช้เป็นตัวจดจ�า                                                   รูปที่ 1 การวิเคราะห์ PCR โดยทั่วไป

       กำรทดสอบสำรก่อภูมิแพ้ด้วยเทคนิค DNA                      นอกจากนี้ เทคนิค PCR ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสารก่อภูมิแพ้ในผักเซเลอรี่
       ปฏิกิริยาการสังเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นเอในหลอดทดลอง หรือ PCR คือวิธีการ  ซึ่งไม่สามารถตรวจด้วยแอนติบอดี้ได้ ในสหภาพยุโรปการตรวจสารก่อภูมิแพ้
       วิเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นเอที่ให้ผลรวดเร็วและราคาไม่สูง เทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้น  ในผักเซเลอรี่จะต้องมีการติดฉลาก กระทั่งปัจจุบันความพยามทั้งหมดใน
       ในช่วงปี 1980 แล้วพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเทคนิคดังกล่าวได้รับการน�า  การผลิตแอนติบอดี้ที่เข้ากันนั้นล้มเหลว เนื่องจากความใกล้เคียงของสายพันธุ์
                                                             ผักเซเลอรี่และกลุ่มผักในตระกูลเดียวกันอย่างพาร์สลีย์ แครอท ผักชี หรือเฟนเนล
                          JUL  2018
       50 FOOD FOCUS THAILAND JUL  2018
       50 FOOD FOCUS THAILAND
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57