Page 75 - FoodFocusThailand No.159 June 2019
P. 75
SURF THE AEC
(1) มณฑลไห่หนาน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของจีน ที่ GDP สายไหมโลก โดยผ่านโครงการต่างๆ เช่น ร้านธงฟ้าประชารัฐ รถเร่น่าซื้อ (ธงฟ้าเคลื่อนที่) แอปพลิเคชัน
มีขนาดใหญ่สุด เป็นศูนย์กลาง Big Data ของจีน “ถุงเงินประชารัฐ” หลักสูตร CLMVT Connex (โดย สนค.) การจ�าหน่ายสินค้าชุมชนข้ามภูมิภาคโดย
มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูล Global Big Data Exchange ผ่านเครือข่ายร้านธงฟ้าประชารัฐที่กระจายอยู่ทั่วไทย รวมทั้งการสนับสนุน SMEs ก้าวสู่ธุรกิจออนไลน์
(GBDEx) แห่งแรกของจีน มีบริษัทคลาวด์ และคอล- ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ SMEs เติบโตได้รวดเร็วทั้งระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับโลก เป็นต้น
เซ็นเตอร์จากทั่วโลกตั้งอยู่เป็นจ�านวนมาก มีอุตสาห- และที่ส�าคัญ SMEs ต้องหาโอกาสในการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตโลกผ่านเส้นทางสายไหม
กรรมชิปส�าหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ รวมถึง เช่น ยางพาราไทยอาจเชื่อมโยงกับสายการผลิต Apollo Tyres ของอินเดีย (มีสาขาในไทย) และ
มีโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือมากมายอีกด้วย Linglong Tire ของจีน
(2) มณฑลเสฉวน เป็นศูนย์กลางเชื่อมความ- 4. อุตสาหกรรมอาหารเป็นสาขาที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน
สัมพันธ์เศรษฐกิจของจีนกับอาเซียน เป็นอีกหนึ่ง ชนชั้นกลางกว่า 200 ล้านคน ที่เดิมท่องเที่ยวในจีนเป็นหลัก ซึ่งจะหันมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
มณฑลที่น่าจับตามอง (โดยเฉพาะเมืองฉงชิ่งและ มากขึ้นผ่านเส้นทางสายไหม เป็นที่น่ายินดีว่าปัจจุบันไทยผลิต “ไข่ปลาคาเวียร์” ได้แล้ว น่าจะท�าให้
เฉิงตู) เนื่องจากเป็นศูนย์กลางเชื่อมเส้นทางรถไฟจีน อุตสาหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวคึกคักมากยิ่งขึ้น
กับทั่วโลก (มณฑลอื่นๆ ที่ส�าคัญ ได้แก่ มณฑล
กวางตุ้ง ฝูเจี้ยน เจียงซี กุ้ยโจว ยูนนาน หูหนาน และ
กวางสี)
(3) เมืองบ่อเต็น (เมืองชายแดน สปป.ลาว) ทาง
จีนก็ได้เข้ามาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพลิกโฉม
เป็นเชินเจิ้น 2 เป็นที่เรียบร้อย
ในด้านเส้นทางสายไหมของอินเดียนั้นได้ตัดตรง
จากชายแดนอินเดีย พาดผ่านเมียนมา มายังแม่สอด
ของไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จในราวกลางปี 2562 โดย
เส้นทางนี้ยังเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจของอินเดีย
ภายใต้โครงการ Golden Quadrilateral (GQ) ผ่าน
10 หัวเมืองหลักเศรษฐกิจร้อนแรงของอินเดียโดยตรง
ได้แก่ มหานครมุมไบ กรุงนิวเดลี โกลกัตตา บังกะลอร์
เจนไน ไฮเดอราบัด อาเมดาบัด ปูเน สุรัต และ
กานปูร์ จะเป็นโอกาสแก่ไทยในการเจาะตลาด 1,300
ล้านคนของอินเดีย
บทวิเคราะห์
1. การเชื่อมโยงเส้นทางสายไหมของไทยไม่ใช่
เป็นความบังเอิญ แต่เป็นการปรับตัวอันชาญฉลาด
ของไทยให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของ
เศรษฐกิจโลกที่ก�าลังก้าวสู่การเป็นยุคทองของเอเชีย
ตามที่ ADB คาดการณ์ไว้ อีกทั้งทางสายไหมไทยยัง
ดึงดูดการลงทุนสู่ EEC เพื่อใช้ไทยเป็นฐานเจาะตลาด
64 ประเทศทั่วโลก
2. ผู้ประกอบการควรแสวงหาโอกาสในเส้นทาง
สายไหมมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เนื่องจากมีโอกาสเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งการค้า
ยุคใหม่ผ่านอี-คอมเมิร์ซ บล็อกเชน เป็นต้น จะช่วย
ผลักดันให้ SMEs ก้าวสู่ตลาดโลกได้ดีกว่าเดิม
3. SMEs ต้องปรับตัวครั้งใหญ่สู่โลกของการ-
แข่งขันมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีหลาย
โครงการเพื่อติดอาวุธทางปัญญาและสร้างความ-
เข้มแข็งแก่ SMEs เพื่อสร้างความมั่นใจในการแข่งขัน
ในเส้นทางสายไหมไทยที่เชื่อมโยงกับเส้นทาง
JUNE 2019 FOOD FOCUS THAILAND 75
74-77_Sure the AEC.indd 75 17/5/2562 BE 16:26