Page 39 - 147
P. 39

SPECIAL FOCUS


               ในปัจจุบัน คนไทยมีรายได้ต่อครัวเรือนสูงขึ้นจากสมัยก่อน ช่วยให้  เทคโนโลยีการปรับการรับรสชาติ 2

             ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีรสชาติ  วิธีการลดนำ้าตาลที่ได้ประสิทธิผลที่ดี คือ การใช้เทคโนโลยีการปรับการ-
             อร่อย จากการศึกษาของบริษัทเคอร์รี่ในกลุ่มคนไทยจำานวน 200 คน      รับรสชาติเป็นส่วนช่วยในการลดปริมาณนำ้าตาลลง โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่ม
             พบว่า คนไทยกว่าร้อยละ 60 คอยเฝ้าระวังการบริโภคนำ้าตาลของตนเอง   ความสามารถในการรับรสชาติหวาน ในผลิตภัณฑ์ที่มีนำ้าตาลปริมาณน้อย
             และคนไทย 3 ใน 4 คนต้องการให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพมีรสชาติอร่อยด้วย   ทำาให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และยังคงรสชาติอร่อย ด้วยเทคโนโลยีนี้
             สถิติเหล่านี้สะท้อนถึงการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพที่มากยิ่งขึ้น      ผู้ผลิตสามารถคงไว้ซึ่งรสชาติต้นตำารับหรือปรับรสชาติให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้
             ในประเทศไทย และกระแสการดูแลสุขภาพนี้กำาลังแพร่กระจายอยู่            ปริมาณนำ้าตาลที่น้อยลง ซึ่งยังดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย
             ทั่วภูมิภาค นอกจากนี้ยังค้นพบว่าเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม  ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีการปรับการรับรสชาติ  โดยเทคโนโลยี
                                                                                                       2
             ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ปริมาณลดลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา   ดังกล่าว  ช่วยเพิ่มการรับรสชาติ ความหวาน และเนื้อสัมผัส แม้จะมีการลด
             เนื่องจากความกังวลเรื่องสุขภาพที่มีมากขึ้น         ปริมาณนำ้าตาล เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่อร่อยเสมือนมีปริมาณ
               ผลิตภัณฑ์ลดนำ้าตาลจึงเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ   นำ้าตาลตามปกติ อีกทั้งยังปราศจาควัตถุเจือปนอาหารบนฉลากอีกด้วย
             ดังนั้น แบรนด์ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดนำ้าตาล และยังคง  เทคโนโลยีการปรับการรับรสชาติ  ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ
                                                                                            2
             รสชาติอร่อย ความหวาน และเนื้อสัมผัสที่เป็นธรรมชาติของเครื่องดื่มได้   ซึ่งได้ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ซอส และ
             จะมีโอกาสเติบโตในตลาดได้สูง และประสบความสำาเร็จเหนือคู่แข่ง         เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์เบเกอรี ซีเรียล และลูกอม โดย
             รายอื่นๆ ที่ยังคงพึ่งความหวานจากนำ้าตาล นวัตกรรมด้านสารที่ให้       เทคโนโลยีการปรับการรับรสชาติ  ช่วยเพิ่มความหวานในผลิตภัณฑ์
                                                                                        2
             ความหวานแทนนำ้าตาลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้   ที่ลดนำ้าตาลได้ถึงร้อยละ 50 ซึ่งขึ้นยู่กับกฎหมายและข้อกำาหนดของฉลาก
             ดังจะเห็นได้จากวัตถุดิบที่ใช้ทดแทนนำ้าตาลที่มีให้เลือกหลากหลาย      ผลิตภัณฑ์ และสิ่งสำาคัญคือ เทคโนโลยีการปรับการรับรสชาติ  ได้รับการ-
                                                                                                          2
             มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แบรนด์เครื่องดื่มจะต้องแสวงหาวัตถุดิบ                รับรองฮาลาล และสามารถแสดงฉลากอาหารเป็นสารแต่งกลิ่นธรรมชาติ
             ที่สามารถให้ความหวาน รสชาติ และเนื้อสัมผัสได้ใกล้เคียงกับนำ้าตาล  เพื่อกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และมองหาผลิตภัณฑ์ที่ได้ฉลากคลีน
             มากที่สุด และยังสามารถเรียกได้ว่าผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติอีกด้วย
                                                                มองหาช่องทางและมีส่วนร่วมในโอกาสเหล่านั้น
             การใช้สารให้ความหวานสังเคราะห์ที่ใช้ทดแทนน�้าตาล   กฎกระทรวงเรื่องภาษีนำ้าตาลในประเทศไทยส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าต้องปรับ
             (Artificial Sweetener) เป็นตัวเลือกที่ดีจริงหรือ?  สูตร หรือลดปริมาณนำ้าตาลในผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามอาจจะสร้างความ-
             ในขณะที่สารให้ความหวานสังเคราะห์มีให้เลือกใช้มากมายหลากหลาย   ไม่แน่นอนให้แก่ผู้ผลิต ท้าทายยิ่งไปกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงนั้นยังควบคู่
             อาทิเช่น แอสปาร์แตม แซคคาริน (ขัณฑสกร) แอซีซัลเฟม นีโอแทม      ไปกับการเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสุขภาพ
             และซูคราโลส แต่สารให้ความหวานสังเคราะห์เหล่านี้ต่างมีข้อจำากัด        ยิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งสถานการณ์นี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ในประเทศไทย
             ในการใช้โดยเฉพาะเรื่องของรสชาติ คือ มีรสชาติขม เฝื่อน และมีกลิ่น     ผู้ผลิตแต่ละรายจะคงสัดส่วนการตลาดของตนเองไว้ได้อย่างไร หากสามารถ
             ที่ไม่เหมือนนำ้าตาลเวลารับประทาน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบ   ลดปริมาณนำ้าตาลงได้ แต่ไม่สามารถคงรสชาติความอร่อยตามที่ผู้บริโภค
             “ธรรมชาติ” และ “ฉลากคลีน” ในประเทศไทยได้ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น    ต้องการไว้ได้
             อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการใส่ใจต่อสุขภาพ โดยผู้บริโภคเริ่มคำานึง
             ถึงความปลอดภัยและผลกระทบต่อสุขภาพในผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารให้
             ความหวานสังเคราะห์อีกด้วย จากผลสำารวจพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ
             ผู้บริโภคคิดว่าสารให้ความหวานสังเคราะห์นั้นไม่ดีต่อสุขภาพและ

             พยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารให้ความหวาน
             สังเคราะห์เหล่านี้
               เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตจึงเริ่มทดแทน
             สารให้ความหวานสังเคาระห์ด้วยสารเพิ่มความหวานที่ได้จากวัตถุดิบ
             ธรรมชาติ ได้แก่ หญ้าหวาน (Stevia) หล่อฮั้งก้วย (Monk fruit) และ
             อีรีทรีออล (Erythritol) อย่างไรก็ตาม สารให้ความหวานต่างๆ ที่ได้กล่าว
             มานั้น ช่วยเพิ่มแค่การรับรู้รสชาติหวาน แต่ไม่ได้ช่วยในคุณสมบัติ
             ด้านอื่นๆ อาทิเช่น เนื้อสัมผัส ความข้น หรือสีที่ได้รับจากการใส่นำ้าตาล
             จึงทำาให้มีความท้าทายอย่างมากในการลดปริมาณนำ้าตาลในผลิตภัณฑ์
             ที่มีองค์ประกอบที่สลับซับซ้อน เช่น เบเกอรี ซีเรียลบาร์ และไอศกรีม


                                                                                            JUN  2018              35 35
                                                                                            JUN  2018 FOOD FOCUS THAILANDFOOD FOCUS THAILAND
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44