Page 99 - FoodFocusThailand No.212 NOVEMBER 2023
P. 99

BEV TREND & TECH Edition


                     ไตรกลีีเซอไรด์์ในตับได์้ โด์ยการเพิ่่�มปร่มาณของ Hepatic Gluta-  3. Vinegar helps stop the spread of cancer cells and
                     thione (GSH) ซ่�งมีบทบาทสำำาคััญในการเป็นสำารต้านอนุมูลีอ่สำระ   induces the systematic decline of cancer cells (Apoptosis).
                                                                        From Table 1, there are also reports that indicate that Japanese
                     กระตุ้นการสำร้างภููม่คัุ้มกัน แลีะการเพิ่่�มระด์ับของ Trolox              vinegar made from sugar cane (known as ‘kibizu’ in Japanese),
                     Equivalent Antioxidant Capacity (TEAC) ซ่�งเป็นคั่าที�ใช้้ใน       ‘kurosu’ or rice vinegar, and ‘izumi’ or Japanese black vinegar
                     การทด์สำอบการเป็นสำารต้านอนุมูลีอ่สำระในตัวอย่าง เม่�อเปรียบเทียบ  made from black brown rice, have the ability to systematically
                                                                        inhibit cancer cells and induce the decline of cancer cells
                     กับสำารต้านอนุมูลีอ่สำระมาตรฐาน ซ่�งมีผลีโด์ยตรงต่อระบบ             (Apoptosis).
                     การทำางานภูายในร่างกาย                                4. Vinegar is a natural chemical that can kill foodborne
                        นอกจากนี� กรด์อะซ่ต่ก (หร่อกรด์นำ�าสำ้ม) สำามารถเพิ่่�มระด์ับ  pathogens. Since ancient Greek times, cider vinegar has been
                                                                        used to inhibit the growth of fungi and bacteria through the action
                     การทำางานของ Alternative Oxidase gene Expression (AOX)   of acetic acid. The effectiveness of vinegar depends on various

                     ซ่�งมีรายงานว่า ช้่วยกระตุ้นการทำางานของกระบวนการออกซ่เด์ช้ัน  factors such as the type and strain of bacteria, temperature, the
                                                                        level of acidity-alkalinity, and the concentration of acetic acid,
                     ของกรด์ไขมัน (Fatty Acid Oxidation) จากการศึ่กษายังพิ่บว่า   etc. Acetic  acid  is  recognized  as  one  of  the  best  organic
                     ไม่เพิ่ียงแต่กรด์อะซ่ต่กจะช้่วยยับยั�งคัอเลีสำเตอรอลีแลีะการเก่ด์  acids that can inhibit Escherichia Coli O157: H7, which is a
                     กรด์ไขมันในตับแลี้ว ยังช้่วยช้ักนำากระบวนการย่อยสำลีายไขมัน   pathogenic bacterium in food. When compared with other types
                                                                        of organic acids such as lactic acid, citric acid, and malic acid,
                     (Lipolysis) ได์้อีกด์้วย                           acetic acid was found to be more effective in inhibiting such
                        2.  น้ำำ��ส้้มส้�ยชููหมัก  ชู่วยลดระดับน้ำำ��ต�ลใน้ำเลือด            bacteria.
                                                                           Vinegar is also used in the postharvest fruit and vegetable
                     (Hyperlipidermia) และภ�วะโรคอ้วน้ำ (Obesity) มีงานว่จัย  industry. It is reported that the use of acetic acid can help reduce
                     หลีายช้่�นรายงานว่า การบร่โภูคั Apple Cider Vinegar, Ginsam   contamination from many types of microorganisms in lettuce
                     Vinegar แลีะ Tomato Vinegar ช้่วยลีด์ระด์ับนำ�าตาลีกลีูโคัสำ         such as Escherichia Coli, Salmonella typhimurium, and Listeria
                                                                        monocytogenes. There is also the application of acetic acid for
                     หลีังม่�ออาหาร (Postprandial blood glucose) แลีะช้่วยลีด์ภูาวะ  fumigation  purposes  instead  of  using  chemicals,  such  as
                     ด์่�อต่ออ่นซูลี่นในร่างกาย (Insulin resistance) รวมถ่งช้่วย              sodium hypochlorite, to eliminate fungus on the surface of some
                     เพิ่่�มระด์ับอ่นซูลี่นในกระแสำเลี่อด์อีกด์้วย ซ่�งสำ่งผลีต่อการคัวบคัุม  fruits.
                     ระด์ับนำ�าตาลีในร่างกาย นอกจากนี� ยังมีรายงานว่จัยบ่งช้ี�ว่า
                     การบร่โภูคันำ�าสำ้มสำายชู้หมักจะไปรบกวนกระบวนการย่อย

                     ของคัาร์โบไฮเด์รต แลีะยับยั�งการย่อยของนำ�าตาลีโมเลีกุลีคัู่
                     (Disaccharides) ให้กลีายเป็นนำ�าตาลีโมเลีกุลีเด์ี�ยว (Monosac-
                     charides) ซ่�งอยู่ในรูปที�ด์ูด์ซ่มเข้าสำู่ร่างกายได์้ อันจะมีสำ่วนช้่วยใน
                     การลีด์การสำะสำมของนำ�าตาลีในร่างกายได์้ทางอ้อมอีกด์้วย
                     นอกจากนี� การบร่โภูคันำ�าสำ้มสำายชู้หมัก 1 ช้้อนโต๊ะ ใน 2 ม่�ออาหาร
                     ต่อวัน จะสำามารถลีด์ระด์ับนำ�าตาลีในกระแสำเลี่อด์ได์้
                        3. น้ำำ��ส้้มส้�ยชููหมัก ชู่วยยับยั�งก�รแพร่กระจ�ยของเซลล์
                     มะเร็ง และชูักน้ำำ�ก�รต�ยของเซลล์มะเร็งอย่�งเป็็น้ำระบบ
                     (Apoptosis) จากตารางที� 1 มีรายงานว่จัยว่า นำ�าสำ้มสำายชู้ของ
                     ญี�ปุ�นที�ผลี่ตจากนำ�าอ้อย (ภูาษาญี�ปุ�น เรียกช้่�อว่า Kibizu) รวมถ่ง
                     Kurosu ซ่�งเป็นนำ�าสำ้มสำายชู้หมักจากข้าวแลีะ Izumi ซ่�งเป็น
                     นำ�าสำ้มสำายชู้หมักสำีด์ำาของญี�ปุ�นที�ผลี่ตมาจากข้าวกลี้องสำีน่ลี
                     มีคัวามสำามารถในการยับยั�งเซลีลี์มะเร็งแลีะช้ักนำาการตายของ
                     เซลีลี์มะเร็งอย่างเป็นระบบได์้ (Apoptosis)
                        4. น้ำำ��ส้้มส้�ยชููหมักเป็็น้ำส้�รเคมีจ�กธรรมชู�ติที่ี�ส้�ม�รถ
                     ฆ่่�เชูื�อก่อโรคใน้ำอ�ห�รได้ ตั�งแต่สำมัยกรีกโบราณ นำ�าสำ้มสำายชู้
                     หมักถูกนำามาใช้้ในการยับยั�งการเจร่ญเต่บโตของเช้่�อราแลีะเช้่�อ
                     แบคัทีเรียด์้วยการออกฤทธิ์่�ของกรด์อะซ่ต่ก  (กรด์นำ�าสำ้ม)

                     ซ่�งสำามารถเข้าทำาลีายเซลีลี์ของแบคัทีเรียได์้ โด์ยประสำ่ทธิ์่ภูาพิ่ของ
                     นำ�าสำ้มสำายชู้หมักจะข่�นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช้่น ช้น่ด์แลีะสำายพิ่ันธิ์ุ์

                                                                                                       NOV  2023  NO. 68   99


                                                                                                                    19/10/2566 BE   11:23
         96-101_��������� 4_�����������.indd   99
         96-101_��������� 4_�����������.indd   99                                                                   19/10/2566 BE   11:23
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104