29
SEP 2017 FOOD FOCUSTHAILAND
SURF
THE AEC
โดยผู
้
เข้
าร่
วมประชุ
มได้
น�
ำเสนอ แลกเปลี่
ยนบทเรี
ยนและประสบการณ์
รวมถึ
งประเด็
นและความท้
าทาย เพื่
อให้
ได้
ข้
อเสนอแนะในแนวทางการ
ด�
ำเนิ
นงานร่
วมกั
นในการก�
ำหนดนโยบายและยุ
ทธศาสตร์
ระดั
บชาติ
และ
ระดั
บภู
มิ
ภาคต่
อที่
ประชุ
มด้
านการเกษตรของอาเซี
ยนในโอกาสต่
อไป
ดร.เสริ
มสุ
ข สลั
กเพ็
ชร์
รองอธิ
บดี
กรมวิ
ชาการเกษตร กล่
าวในพิ
ธี
เปิ
ด
การประชุ
มฯ ว่
า หลั
งจากวิ
กฤตราคาอาหารโลกในปี
พ.ศ. 2550 - 2551
การประชุ
มสุ
ดยอดอาเซี
ยน (อาเซี
ยนซั
มมิ
ท) มี
มติ
เห็
นชอบให้
ความมั่
นคง
ทางอาหารเป็
นวาระส�
ำคั
ญเร่
งด่
วนที่
สุ
ดเรื
่
องหนึ่
ง และแนวคิ
ดเรื่
องระบบ
อาหาร-เกษตรอย่
างยั่
งยื
นจึ
งได้
เริ่
มขึ้
นและมี
การน�
ำมาใช้
เพื่
อมุ
่
งสู
่
ความ-
มั่
นคงทางอาหารและการพั
ฒนาที่
ยั่
งยื
นในภู
มิ
ภาคอาเซี
ยนซึ่
งระบบอาหาร-
เกษตรอย่
างยั่
งยื
นยั
งจะน�
ำไปสู
่
การบรรลุ
เป้
าหมายการพั
ฒนาแห่
ง
สหั
สวรรษ ทั้
งเป้
าหมายด้
านขจั
ดความยากจน และความหิ
วโหย การเพิ่
ม
คุ
ณค่
าทางอาหารและพั
ฒนาสุ
ขภาพลดการท�
ำลายสิ่
งแวดล้
อมลดสภาวะ
โลกร้
อน รวมทั้
งสร้
างความร่
วมมื
อทั้
งในระดั
บประเทศ ระดั
บภู
มิ
ภาคและ
ระดั
บโลก
ดร.เสริ
มสุ
ขยั
งกล่
าวถึ
งระบบอาหาร-เกษตรอย่
างยั่
งยื
นว่
าเป็
นการผสม
ผสานปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงของพระบาทสมเด็
จพระปรมิ
นทรมหา-
ภู
มิ
พลอดุ
ลยเดช ในหลวงรั
ชกาลที่
9 และภู
มิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
นในการท�
ำ
การเกษตรของประเทศสมาชิ
กอาเซี
ยนไว้
ด้
วยกั
นอี
กด้
วย
ทางด้
าน ดร. แมทเธี
ยส บิ
คเคล ผู
้
อ�
ำนวยการโครงการระบบอาหาร-
เกษตรแบบยั่
งยื
นแห่
งอาเซี
ยน องค์
กรความร่
วมมื
อระหว่
างประเทศของ
เยอรมั
น (GIZ) ซึ
่
งเป็
นโครงการความร่
วมมื
อระหว่
างอาเซี
ยนและรั
ฐบาล
เยอรมั
น กล่
าวถึ
งระบบอาหาร-เกษตรอย่
างยั่
งยื
นว่
าคื
อ การผลิ
ตผลิ
ตผล
และผลิ
ตภั
ณฑ์
ทางการเกษตรอย่
างปลอดภั
ย มี
คุ
ณภาพ และมี
ความ-
รั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมและสิ่
งแวดล้
อม เพื่
อสุ
ขภาพที่
ดี
ของชุ
มชนและ
ระบบนิ
เวศการเกษตร ผู
้
บริ
โภคทุ
กคนสามารถซื้
อหาได้
ในราคาที่
จ่
ายไหว
ชุ
มชนมี
ชี
วิ
ตความเป็
นอยู
่
โดยรวมที่
ดี
ขึ้
นสามารถปรั
บตั
วกั
บการพั
ฒนาและ
การเปลี่
ยนแปลงสภาพภู
มิ
อากาศได้
และน�
ำวิ
ธี
ปฏิ
บั
ติ
ทางการเกษตรที่
ดี
จากประเทศสมาชิ
กในอาเซี
ยนมาปรั
บใช้
ได้
อย่
างเหมาะสม รวมทั้
งมี
การส่
งเสริ
มการแลกเปลี่
ยนข้
อมู
ล ทั้
งข้
อได้
เปรี
ยบและความเสี่
ยงใน
การท�
ำการเกษตรอย่
างยั่
งยื
นระหว่
างภาคส่
วนที่
เกี่
ยวข้
อง
ทางด้
านศู
นย์
ให้
ค�
ำปรึ
กษาและแบ่
งปั
นความรู
้
ของภู
มิ
ภาคได้
จั
ด
สั
มมนาในหั
วข้
อ “ระบบอาหาร-เกษตรยั่
งยื
นเพื
่
อความมั่
นคงทางอาหาร
และการพั
ฒนาอย่
างยั่
งยื
นในภู
มิ
ภาคอาเซี
ยน” เพื่
อเป็
นเวที
ส�
ำหรั
บ
ผู
้
เชี
่
ยวชาญและผู
้
มี
ส่
วนได้
ส่
วนเสี
ยหลั
กทั้
งจากภาครั
ฐและเอกชนและ
องค์
กรภาคประชาสั
งคมเพื่
อแลกเปลี่
ยนประสบการณ์
และบทเรี
ยน
ที่
ได้
รั
บ ประเด็
นและความท้
าทาย ตลอดจนเสาะหาแนวทางการใช้
ระบบ
เกษตรอาหารยั่
งยื
น เพื่
อความมั่
นคงด้
านอาหารใน “ระบบเกษตรอาหาร
ยั่
งยื
นในภู
มิ
ภาคอาเซี
ยน”
ผลของการประชุ
มระดมสมองครั้
งนี้
คาดว่
าจะออกมาในรู
ปแบบของ
ข้
อเสนอแนะและกลไกความร่
วมมื
อในการก�
ำหนดนโยบายแห่
งชาติ
และ
ในระดั
บภู
มิ
ภาค และกลยุ
ทธ์
ส�
ำหรั
บ “ระบบอาหาร-เกษตรยั่
งยื
น”
ส�
ำหรั
บภู
มิ
ภาคอาเซี
ยน และผลของการประชุ
มครั้
งนี้
ยั
งจะถู
กใช้
เป็
น
ส่
วนหนึ่
งของการขั
บเคลื่
อนการท�
ำงานไปสู
่
ระบบเกษตรอาหารยั่
งยื
น
พร้
อมทั้
งน�
ำเสนอไปยั
งคณะท�
ำงานกลุ
่
มพื
ชไร่
ของอาเซี
ยนเพื่
อใช้
ในการ-
พิ
จารณาต่
อไปในอนาคต