33
SEP 2017 FOOD FOCUS THAILAND
SPECIAL
INTERVIEW
คุ
ณอภิ
รั
กษ์
โกษะโยธิ
น
ประธานกรรมการบริ
หารและประธานเจ้
าหน้
าที่
บริ
หาร
บริ
ษั
ท วี
ฟู้
ดส์
คอร์
ปอเรชั่
นจ�
ำกั
ดและบริ
ษั
ท วี
ฟู้
ดส์
(ประเทศไทย) จ�
ำกั
ด
“ถ้
าผู
้
ประกอบการเข้
าใจและตระหนั
กถึ
งแนวโน้
มของกระแสโลก
ที่
ส่
งผลกระทบต่
อการใช้
ชี
วิ
ตของคนในยุ
ค 4.0 นั่
นจะเป็
นบั
นไดขั้
นแรก
ที่
ช่
วยให้
ผู
้
ประกอบการสามารถวิ
จั
ยและพั
ฒนาผลิ
ตภั
ณฑ์
ได้
ตรงตามโจทย์
และความต้
องการของผู
้
บริ
โภค” คุ
ณอภิ
รั
กษ์
กล่
าว พร้
อมเสริ
มว่
าแนวโน้
ม
ของกระแสโลก หรื
อ Global Mega Trend ล้
วนเกี่
ยวข้
องกั
บวิ
ถี
การใช้
ชี
วิ
ต
และการเปลี่
ยนแปลงต่
างๆ ที่
เกิ
ดขึ้
นบนโลกใบนี้
ไม่
ว่
าจะเป็
นการ-
เปลี่
ยนแปลงของสภาพภู
มิ
อากาศปั
ญหาภั
ยแล้
งที่
ส่
งผลกระทบต่
อผลผลิ
ต
ทางการเกษตรต่
อไร่
หรื
อแม้
แต่
การขาดแคลนอาหาร
“หากถามว่
าประเทศใดในโลกที
่
ประสบความส�
ำเร็
จมากที่
สุ
ดหลายท่
าน
อาจค้
นหาค�
ำตอบจากผลิ
ตภั
ณฑ์
มวลรวมในประเทศ (GDP) หรื
อรายได้
ต่
อหั
ว แต่
องค์
การอนามั
ยโลกซึ่
งเป็
นหน่
วยงานระหว่
างประเทศในสั
งกั
ด
สหประชาชาติ
ได้
ประกาศออกมาแล้
วว่
าดั
ชนี
ชี้
วั
ดที่
ดี
ที่
สุ
ดก็
คื
อประเทศไหน
มี
ค่
าอายุ
เฉลี่
ยของประชากรสู
งที่
สุ
ดหรื
อพู
ดง่
ายๆก็
คื
อประเทศใดที่
ประชากร
มี
อายุ
ยื
นมากที่
สุ
ด เพราะนั่
นหมายถึ
งประชากรในประเทศนั้
นมี
ความสมดุ
ล
ทั้
งในการใช้
ชี
วิ
ตและการท�
ำงาน” คุ
ณอภิ
รั
กษ์
เปิ
ดประเด็
น
3 แนวโน้
มหลั
กของกระแสโลก
ดู
เหมื
อนว่
า 3 แนวโน้
มหลั
กของกระแสโลกในยุ
ค Internet of Things (IoT)
จะไม่
ใช่
เรื่
องไกลตั
วเลย เพราะแนวโน้
มแรกเป็
นเรื่
องของการเข้
าสู
่
สั
งคม
ผู
้
สู
งอายุ
ทางองค์
การสหประชาชาติ
ได้
ให้
ค�
ำนิ
ยามผู
้
สู
งอายุ
ไว้
ว่
า หมายถึ
ง
ประชากรทั้
งเพศชายและหญิ
งที่
มี
อายุ
มากกว่
า 60 ปี
ขึ้
นไป โดยองค์
การ-
สหประชาชาติ
ได้
คาดการณ์
ว่
าในช่
วงปี
พ.ศ.2544-2643ถื
อว่
าเป็
นศตวรรษ
แห่
งผู
้
สู
งอายุ
โลกของเราก�
ำลั
งก้
าวเข้
าสู
่
สั
งคมผู
้
สู
งอายุ
ซึ่
งแต่
ละประเทศ
จะเข้
าสู
่
สั
งคมผู
้
สู
งอายุ
แตกต่
างกั
นไปตามสภาพแวดล้
อมของแต่
ละประเทศ
เช่
น การเจริ
ญเติ
บโตทางเศรษฐกิ
จ การพั
ฒนาทางด้
านการแพทย์
อาหาร
และโภชนาการ เป็
นต้
น
ส�
ำหรั
บประเทศไทย ส�
ำนั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
ได้
สรุ
ปว่
าไทยก�
ำลั
ง
ก้
าวเข้
าสู่
สั
งคมผู้
สู
งอายุ
ตั้
งแต่
ปี
พ.ศ.2548 โดยมี
ประชากรผู้
สู
งอายุ
ร้
อยละ
10.4ของประชากรทั้
งประเทศและคาดว่
าจะเข้
าสู
่
สั
งคมผู
้
สู
งอายุ
โดยสมบู
รณ์
ในช่
วงระหว่
างปี
พ.ศ.2567-2568
“แนวโน้
มที่
สองคื
อเรื่
องของสุ
ขภาพ โดยต้
องเป็
นการมี
สุ
ขภาพที่
ดี
และแข็
งแรงสมบู
รณ์
ซึ่
งสอดคล้
องกั
บดั
ชนี
ชี้
วั
ดว่
าประเทศประสบความส�
ำเร็
จ
มากน้
อยเพี
ยงใด แนวโน้
มที่
สามคื
อ ความเป็
นเมื
องหรื
อการเติ
บโตของ
มหานคร ซึ่
งโลกของเราผ่
านการขยายตั
วของความเป็
นเมื
องตลอด
ศตวรรษที่
20และมี
ข้
อมู
ลที่
คาดการณ์
ว่
าในปี
พ.ศ.2593ประชากรคนเมื
อง
ในโลกใบนี้
จะเพิ่
มขึ้
นมากถึ
ง2.4พั
นล้
านคนคิ
ดเป็
นร้
อยละ66ของประชากรโลก”
คุ
ณอภิ
รั
กษ์
กล่
าวและขยายความว่
าเราไม่
สามารถหลี
กเลี่
ยงการเติ
บโตของ
เมื
องใหญ่
ๆ ในโลกนี้
ได้
แต่
จะท�
ำอย่
างไรที่
จะลดความเหลื่
อมล�้
ำของคนที่
อาศั
ยอยู
่
ในเมื
องและนอกเมื
องในประเทศไทยเองวั
นนี้
เราได้
เห็
นการเติ
บโต
ของเมื
องใหญ่
อย่
างเช่
น เชี
ยงใหม่
ขอนแก่
นภู
เก็
ต เป็
นต้
นซึ่
งเป็
นแหล่
งของ
โอกาสและน�
ำไปสู่
แรงขั
บเคลื่
อนของการเติ
บโตทางเศรษฐกิ
จได้
ในที่
สุ
ด
ขี
ดความสามารถในการแข่
งขั
น
“หากจั
ดอั
นดั
บขี
ดความสามารถในการแข่
งขั
นของประเทศต่
างๆ ทั่
วโลก
เรามั
กจะนึ
กถึ
งประเทศมหาอ�
ำนาจ อย่
างเช่
น สหรั
ฐอเมริ
กา เยอรมนี
จี
น
เป็
นต้
น ว่
าเป็
นประเทศที่
มี
ความสามารถในการแข่
งขั
นสู
ง แต่
จริ
งๆ แล้
ว
การวั
ดขี
ดความสามารถในการแข่
งขั
นของแต่
ละประเทศจะวั
ดจากปั
จจั
ย
หลั
กๆ ได้
แก่
ระบบเศรษฐกิ
จของประเทศนั้
นๆ อาทิ
ทุ
นส�
ำรองเงิ
นตรา
นโยบายของภาครั
ฐที่
เกี่
ยวข้
องกั
บการเงิ
นการคลั
ง นโยบายของสถาบั
น-
การเงิ
นที่
มี
นั้
นสามารถเอื
้
อประโยชน์
ให้
เกิ
ดเศรษฐกิ
จใหม่
เพื่
อส่
งเสริ
ม
ให้
ภาค SMEs เข้
มแข็
งหรื
อไม่
การลงทุ
นโดยตรงจากต่
างประเทศ (FDI)
ว่
าเป็
นอย่
างไร”
“นอกจากนี้
ยั
งพิ
จารณาจากนโยบายของรั
ฐบาลในเรื่
องของเสถี
ยรภาพ
ทางการเมื
อง รวมทั้
งภาคเอกชนว่
าภาคธุ
รกิ
จนั้
นๆมี
ความเข้
มแข็
งมากน้
อย
เพี
ยงใด เป็
นแรงงานที่
มี
คุ
ณภาพหรื
อไม่
ประเทศมี
โครงสร้
างของ
สาธารณู
ปโภคในด้
านต่
างๆอย่
างไร”คุ
ณอภิ
รั
กษ์
กล่
าวพร้
อมขยายความว่
า
การวั
ดขี
ดความสามารถในการแข่
งขั
นจึ
งไม่
ได้
ขึ้
นกั
บ GDP ของประเทศ
ขนาดของประเทศ หรื
อจ�
ำนวนประชากร โดยประเทศที่
มี
ขี
ดความสามารถใน
การแข่
งขั
นสู
งสุ
ด10อั
นดั
บแรกในปี
พ.ศ.2560นี้
ได้
แก่
ฮ่
องกงสวิ
ตเซอร์
แลนด์
สหรั
ฐอเมริ
กา สิ
งคโปร์
สวี
เดน เดนมาร์
ก ไอร์
แลนด์
เนเธอร์
แลนด์
นอร์
เวย์
และแคนาดา
การปรั
บเปลี่
ยนประเทศด้
วยโมเดลการขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จด้
วยนวั
ตกรรม
โดยเข้
าใจและตระหนั
กถึ
งแนวโน้
มของกระแสโลก ตลอดจนการรวมกลุ
่
มเป็
น
คลั
สเตอร์
ของผู
้
ประกอบการ จะเป็
นฟั
นเฟื
องหนึ่
งที่
ส�
ำคั
ญและน�
ำพาธุ
รกิ
จ
อุ
ตสาหกรรมอาหารไทยไปปั
กธงได้
ทั่
วโลกได้
อย่
างน่
าภาคภู
มิ
ใจ