Page 50 - FoodFocusThailand No.228 March 2025
P. 50

SMART PRODUCTION


                 จากการศึึกษาความสามารถในการต้้านอนุมูลอิสระและ      ต้่อมาทางท่มวิจัยได้ทำาการศึึกษากระบวนการแยกเช้ื�อจุลินทร่ย์
              การทดสอบความเป็็นพิิษต้่อเซลล์ของสารสกัดไอโซฟลาโวนท่�ได้  ในกลุ่ม Bacillus spp. จากต้ัวอย่างถั�วเน่าท่�ผลิต้ได้จากกระบวนการ
              จากถั�วเน่าซึ�งผลิต้จากถั�วเหลืองของป็ระเทศึไทย โดยใช้้กรรมวิธี่  แบบดั�งเดิมเพิื�อนำามาผลิต้ถั�วเน่าในครั�งถัดไป็ รวมถึงศึึกษา
              การหมักถั�วเหลืองแบบดั�งเดิมด้วยเช้ื�อแบคท่เร่ยช้นิด Bacillus   กระบวนการสกัดสารไอโซฟลาโวนอะไกลโคนจากผลิต้ภัณฑ์์ถั�วเน่า
              subtilis ต้ามวิธี่ของช้าวล้านนาในภาคเหนือ พิบว่า สารสกัด        (Supakit et al., 2019) เพิื�อท่�จะได้นำาสารสกัดดังกล่าวไป็พิัฒนา
              ไอโซฟลาโวนจากถั�วเน่าม่ป็ริมาณไอโซฟลาโวนสูง โดยเฉพิาะ  เป็็นผลิต้ภัณฑ์์อาหารเพิื�อสุขภาพิและโภช้นเภสัช้ต้่อไป็ โดยงาน
              สารป็ระกอบเดดซ่น (daidzein) และเจนนิสท่น (genistein)            วิจัยน่�ม่การดำาเนินการมาอย่างต้่อเนื�องต้ั�งแต้่ป็ี พิ.ศึ. 2551-2562
              ท่�ม่ฤทธีิ�ในการต้้านอนุมูลอิสระสูง ซึ�งข้อมูลท่�ได้น่�มาจากการ  ด้วยวัต้ถุป็ระสงค์ท่�จะช้่วยเพิิ�มความสมำ�าเสมอในกระบวนการผลิต้
              วิเคราะห์ด้วยวิธี่ ABTS, FRAP และ DPPH รวมถึงการใช้้เทคนิค   และช้่วยยกระดับผลิต้ภัณฑ์์อาหารหมักพิื�นบ้านของป็ระเทศึไทย

              High Performance Liquid Chromatography (HPLC) และ   ให้ก้าวสู่ระดับสากล
              Liquid Chromatography-Mass Spectrometry (LC-MS)
              ในการหาป็ริมาณและองค์ป็ระกอบของไอโซฟลาโวน และสาร       การเปลี่่�ยนแปลี่งทางเคมี่ระหว่่างกระบว่นการผลี่ิต
              ฟีนอล นอกจากน่� สารสกัดท่�ได้ยังม่ศึักยภาพิในการยับยั�ง            ถั่่�ว่เหลี่ืองหมี่ก
              การเจริญเต้ิบโต้ของเซลล์มะเร็งช้นิด MCF-7 และ HEK293           โดยป็กต้ิ ถั�วเหลืองม่สารไอโซฟลาโวนท่�อยู่ในรูป็แบบของกลูโคไซด์
              ให้อยู่ในระดับท่�น่าพิึงพิอใจ ซึ�งผลการทดสอบน่�ถือเป็็นป็ระโยช้น์  เป็็นหลัก ซึ�งรูป็แบบน่�อาจจะไม่ส่งผลด่ในเช้ิงสุขภาพิมากนัก
              อย่างยิ�งสำาหรับการพิัฒนาผลิต้ภัณฑ์์เสริมอาหารและโภช้นเภสัช้  แต้่เมื�อนำาไป็ผ่านกระบวนการหมักด้วยเช้ื�อจุลินทร่ย์ Bacillus spp.
              ในอนาคต้                                            แล้ว จุลินทร่ย์จะสร้างเอนไซม์โป็รต้่เอสเพิื�อย่อยสลายโป็รต้่นใน
                                                                  ถั�วเหลือง รวมถึงผลิต้เอนไซม์เบต้้ากลูโคซิเดส (β-glucosidase)
                                                                  เพิื�อช้่วยย่อยสลายพิันธีะเบต้้าไกลโคไซด์ (glycosidic bond)
                                                                  ในโครงสร้างของไอโซฟลาโวน กลูโคไซด์ ส่งผลให้หมู่นำ�าต้าล
                                                                  ไกลโคนหลุดออกจากโมเลกุลหลัก จนทำาให้เกิดการเป็ล่�ยนรูป็เป็็น
                                                                  ไอโซฟลาโวนอะไกลโคน (รูป็ท่� 1) ซึ�งเป็็นรูป็แบบท่�ร่างกายสามารถ
                                                                  ดูดซึมและนำาไป็ใช้้ได้อย่างม่ป็ระสิทธีิภาพิ
                                                                     จากกระบวนการหมักถั�วเหลืองด้วยวิธี่ดั�งเดิมต้ามภูมิป็ัญญา
                                                                  ของไทย (ถั�วเน่า) พิบว่า ผลิต้ภัณฑ์์จากการหมักป็ระกอบด้วย
                                                                  เช้ื�อจุลินทร่ย์หลากหลายสายพิันธีุ์ ซึ�งเป็็นผลมาจากการได้รับ
                                                                  เช้ื�อจุลินทร่ย์ต้ามธีรรมช้าต้ิ นอกจากน่� ผลิต้ภัณฑ์์ถั�วเหลืองท่�หมัก

                                                                  ด้วยเช้ื�อจุลินทร่ย์กลุ่ม Bacillus spp. ยังพิบว่าม่สายพิันธีุ์ของ
               รููปที่่� 1  การเป็ล่�ยนแป็ลงโครงสร้างโมเลกุลของไอโซฟลาโวนเมื�อผ่าน  จุลินทร่ย์ท่�แต้กต้่างกันออกไป็ต้ามแต้่ละภูมิภาค และช้นิดของ
                      กระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์เบต้้ากลูโคซิเดส (β-glucosidase)
               Figure 1 Molecular structural changes of isoflavones during   เช้ื�อจุลินทร่ย์ ขณะท่�ผลิต้ภัณฑ์์ดังกล่าวยังคงม่กรรมวิธี่การผลิต้
                      enzymatic hydrolysis by β-glucosidase
                                                                  ท่�คล้ายคลึงกับถั�วเน่าของป็ระเทศึไทย จึงส่งผลให้ลักษณะของ
              กระบว่นการผลี่ิตถั่่�ว่เน่า                         ผลิต้ภัณฑ์์สุดท้ายอาจม่ความแต้กต้่างกันออกไป็ เช้่น ถั�วเน่าจาก
              การผลิต้ถั�วเน่าเริ�มจากการนำาถั�วเหลืองมาล้างทำาความสะอาดด้วย  ญ่�ป็ุ�น (Natto) ถั�วหมักจากเนป็าล (Kinema) และถั�วหมักจากเกาหล่
              นำ�าป็ระมาณ 2-3 รอบ และแช้่ถั�วเหลืองในนำ�าสะอาดเป็็นเวลา 15-18   (Chungkookjang) เป็็นต้้น
              ช้ั�วโมง จากนั�นนำาถั�วเหลืองท่�ผ่านการแช้่ไป็ต้้มในนำ�าเดือดให้สุก
              (ใช้้เวลาป็ระมาณ 5-6 ช้ั�วโมง ขึ�นอยู่กับป็ริมาณถั�วเหลืองท่�ใช้้) ขั�น
              ต้อนถัดไป็จึงนำาถั�วเหลืองท่�ผ่านการต้้มสุกมาผึ�งจนแห้งท่�อุณหภูมิห้อง
              แล้วบรรจุใส่ถุงท่�ม่อากาศึถ่ายเทสะดวก เช้่น ถุงต้าข่าย จากนั�นจึง  More Information  Service Info C007
              นำามาผึ�งในร่มท่�ม่อากาศึถ่ายเทสะดวก โดยใช้้เวลาในการหมัก
              ป็ระมาณ 5-7 วัน จนได้เป็็นถั�วเน่าสด ซึ�งก่อนการบริโภคถั�วเน่าสด
              จำาเป็็นต้้องนำาไป็ผ่านความร้อนด้วยการนึ�งก่อนเพิื�อทำาให้สุกอ่กครั�ง

              และเป็็นการฆ่่าเช้ื�อจุลินทร่ย์ท่�ม่การป็นเป็้�อนในระหว่าง
              กระบวนการผลิต้อ่กด้วย

            50   FOOD FOCUS THAILAND  MAR  2025


                                                                                                                     23/2/2568 BE   11:15
         49-52_Smart Produc_Supakit.indd   50                                                                        23/2/2568 BE   11:15
         49-52_Smart Produc_Supakit.indd   50
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55