64
JUN 2017
FOOD FOCUSTHAILAND
SCOOP
ในส่
วนของการศึ
กษาวิ
จั
ยทางการเกษตรที่
เน้
นภาคปฏิ
บั
ติ
มี
การจั
ดตั้
ง
“Food Valley” เพื่
อเป็
นพื้
นที่
ลงมื
อน�
ำความรู
้
ทางวิ
ทยาศาสตร์
ในเชิ
งทฤษฎี
มาปรั
บใช้
จริ
ง ถื
อเป็
นแนวคิ
ดที่
ท�
ำให้
มหาวิ
ทยาลั
ยวาเกนนิ
งเก้
นแตกต่
าง
จากมหาวิ
ทยาลั
ยอื่
น
“การน�
ำผลการวิ
จั
ยทางวิ
ทยาศาสตร์
จากมหาวิ
ทยาลั
ยไปใช้
ในทางปฏิ
บั
ติ
ถื
อเป็
นเรื่
องยากส�
ำหรั
บเกษตรกรโดยเฉพาะในกลุ
่
มผู
้
ประกอบการขนาดกลาง
และขนาดเล็
กที่
จะท�
ำความเข้
าใจรายงานทางวิ
ทยาศาสตร์
และน�
ำไปปรั
บใช้
กั
บธุ
รกิ
จดั
งนั้
น เราจึ
งต้
องการตั
วกลางที
่
สามารถน�
ำผลลั
พธ์
จากผลการศึ
กษา
ทางวิ
ทยาศาสตร์
ของมหาวิ
ทยาลั
ยไปสู
่
การลงมื
อปฏิ
บั
ติ
จริ
ง ขณะเดี
ยวกั
น
ก็
ต้
องเก็
บข้
อมู
ลจากการลงมื
อปฏิ
บั
ติ
จริ
งมาใช้
เป็
นข้
อมู
ลส�
ำหรั
บการวิ
จั
ยด้
วย
ซึ่
งทุ
กวั
นนี้
เราสามารถปฏิ
บั
ติ
ทั
้
ง2อย่
างได้
ในเวลาเดี
ยวกั
นนั
บเป็
นการเชื่
อมโยง
ความรู
้
ทางวิ
ชาการกั
บเกษตรกรอย่
างแท้
จริ
ง” ศาสตราจารย์
ดร.ดั
ยก์
ฮุ
ยเซน
กล่
าว พร้
อมเสริ
มว่
ากลุ
่
มธุ
รกิ
จขนาดกลางและขนาดเล็
กที่
มี
กว่
า 65,000
รายนี้
นั
บว่
ามี
ความส�
ำคั
ญต่
ออุ
ตสาหกรรมเกษตรของเนเธอร์
แลนด์
เป็
น
อย่
างมากด้
วยเครื
อข่
ายที่
กว้
างขวางและการเกษตรแบบรวมกลุ่
มที่
เข้
มแข็
ง
เทคโนโลยี
และการปรั
บปรุ
งพั
นธุ์
…ความหวั
งแห่
งอนาคต
การประสานความร่
วมมื
อระหว่
างภาครั
ฐ ภาคเอกชน และภาควิ
ชาการ
เปิ
ดทางให้
แดนกั
งหั
นลมชิ
งความได้
เปรี
ยบจากการใช้
เทคโนโลยี
ได้
อย่
าง
ชาญฉลาดและยั
งบรรลุ
เป้
าหมายในการเพิ่
มผลผลิ
ตของอุ
ตสาหกรรมเกษตร
และอาหาร จนขึ้
นแท่
นประเทศชั้
นน�
ำในการส่
งออกสิ
นค้
าดั
งกล่
าวได้
ศาสตราจารย์
ดร.ดั
ยก์
ฮุ
ยเซน กล่
าวว่
า ในการแปรรู
ปอาหารจากสิ
นค้
า
เกษตรผู
้
ผลิ
ตจะต้
องมองหาสิ
นค้
าที่
มี
มู
ลค่
าเพิ่
มหรื
อเป็
นสิ
นค้
าที่
ผู
้
บริ
โภคก�
ำลั
ง
มี
ความต้
องการ โดยปั
จจุ
บั
นอาหารเพื่
อสุ
ขภาพเข้
ามามี
บทบาทและมี
ความ-
ส�
ำคั
ญเพิ่
มมากขึ้
น การที่
ผู
้
บริ
โภคจ�
ำนวนมากหั
นมาใส่
ใจในเรื่
องสุ
ขภาพนั้
น
ก่
อให้
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงครั้
งใหญ่
ในอุ
ตสาหกรรมอาหาร และน่
าจะยั
งเป็
น
เทรนด์
ที่
ได้
รั
บความนิ
ยมต่
อไปได้
อี
กหลายปี
อย่
างไรก็
ตามกระบวนการผลิ
ตภายใต้
ทรั
พยากรที่
จ�
ำกั
ดเพื่
อหวั
งผลผลิ
ต
ที่
มากที่
สุ
ดจะเป็
นการปรั
บตั
วของอุ
ตสาหกรรมในแนวทางที่
ยั
่
งยื
นที่
สุ
ด
ซึ่
งตรงนี
้
เองที่
“เทคโนโลยี
อั
นชาญฉลาด” หรื
อสมาร์
ทเทคโนโลยี
(Smart
technology) ถู
กน�
ำมาประยุ
กต์
ใช้
เพื่
อควบคุ
มตั
วแปรในกระบวนการผลิ
ต
สิ
นค้
าเกษตร การใช้
สมาร์
ทเทคโนโลยี
เพื่
อศึ
กษารวบรวมองค์
ความรู
้
และสถิ
ติ
เกี่
ยวกั
บพั
นธุ์
พื
ชและสั
ตว์
อย่
างละเอี
ยดจะสามารถบอกได้
ว่
าในการเลี้
ยงสั
ตว์
จ�
ำเป็
นต้
องใช้
อาหารในปริ
มาณเท่
าไรหรื
อในการปลู
กพื
ชจ�
ำเป็
นต้
องใช้
ปริ
มาณ
ปุ
๋
ยมากน้
อยเพี
ยงใด การสั
งเกตยั
งท�
ำให้
เราสามารถประเมิ
นความเสี่
ยง
ในการติ
ดโรคของพื
ชและสั
ตว์
ซึ่
งอาจท�
ำลายผลผลิ
ตทางการเกษตรในปั
จจุ
บั
น
การใช้
สมาร์
ทเทคโนโลยี
ช่
วยให้
ประเทศเนเธอร์
แลนด์
สามารถลดการสู
ญเสี
ย
ผลิ
ตผลทางการเกษตรจากโรคระบาดจนเหลื
อเพี
ยงราวร้
อยละ25-30 เท่
านั้
น
และคาดว่
าจะลดลงอี
กในอนาคต
ไม่
เพี
ยงเท่
านั้
น สมาร์
ทเทคโนโลยี
ยั
งก่
อให้
เกิ
ดความคุ
้
มค่
าในด้
านการ-
บริ
หารจั
ดการ เช่
นการตั
ดแต่
งผลิ
ตภั
ณฑ์
การขนส่
ง จั
ดเก็
บและจั
ดจ�
ำหน่
าย
รวมทั้
งฐานข้
อมู
ลที่
มาของสิ
นค้
า “เมื่
อ 20-30 ปี
ที่
แล้
ว เราคิ
ดว่
าเราสามารถ