STAND OUT
TECHNOLOGY
55
DEC 2017 FOOD FOCUSTHAILAND
CRDS คื
ออะไร
CRDS คื
อเทคโนโลยี
การวิ
เคราะห์
ทางเคมี
ที่
ใช้
หลั
กการดู
ดกลื
น
พลั
งงาน (Absorption) ที่
มี
ขนาดพอดี
ซึ่
งอยู่
ในช่
วงความถี่
ของNIR
โดยจะติ
ดตามการเกิ
ดปรากฎการณ์
เรโซแนนซ์
ผ่
านการวั
ดเวลาของ
พลั
งงานที่
ลดลงด้
วยความไวสู
ง โดยเริ
่
มต้
นจากน�
ำตั
วอย่
าง
(น�้
ำมะพร้
าว) มาเผาที
่
อุ
ณหภู
มิ
สู
งเพื่
อเผาไหม้
อย่
างสมบู
รณ์
พร้
อม
ก�
ำจั
ดก๊
าซส่
วนเกิ
น เช่
นO
2
, SO
2
และH
2
Oออกให้
เหลื
อเฉพาะก๊
าซ
CO
2
ที่
เกิ
ดขึ้
น ซึ่
งเป็
นปริ
มาณโดยตรงของ C ที่
มี
อยู
่
ในน�้
ำมะพร้
าว
ผ่
านเข้
าไปใน Optical resonator cavity การวิ
เคราะห์
ด้
วยเทคนิ
ค
CRDS Analyzer โดยมี
แสงเลเซอร์
วิ่
งผ่
านก๊
าซ CO
2
ไปจนถึ
งจุ
ด
Resonance frequencyล�
ำแสงเลเซอร์
จะถู
กปิ
ดการท�
ำงานจากนั้
น
เลเซอร์
ก็
ยั
งถู
กสะท้
อนด้
วยกระจกอี
ก 3 ชุ
ด สะท้
อนไปมาเป็
นระยะ
ทางกว่
า 20 กิ
โลเมตร (100,000 รอบ) ในระหว่
างนั้
นค่
าพลั
งงาน
เลเซอร์
จะค่
อยๆลดลงไปตามเวลา (หรื
อที่
เรี
ยกว่
าRingdown) CO
2
ที่
ได้
มาจากการเผาตั
วอย่
าง สามารถค�
ำนวณค่
าของ
δ
ดั
งรู
ปที่
1
ก๊
าซที่
มี
ความเข้
มข้
นสู
งกว่
าลดลงไวกว่
า
การตรวจสอบการเจื
อปนของน�้
ำตาล C4
พื
ช C3 เป็
นกลุ
่
มพื
ชที่
มี
ระบบการสร้
างสารอิ
นทรี
ย์
จากคาร์
บอน-
ไดออกไซด์
ด้
วยวั
ฏจั
กรคั
ลวิ
น (Calvin cycle) เพี
ยงอย่
างเดี
ยว
สารอิ
นทรี
ย์
ตั
วแรกที่
เกิ
ดขึ้
นจากการตรึ
งคาร์
บอนไดออกไซด์
คื
อPGA
(Phosphoglyceric acid) จึ
งเป็
นสารที่
ประกอบด้
วยคาร์
บอน
3 อะตอม เรี
ยกพื
ชกลุ่
มนี้
ว่
าพื
ช C3 ส�
ำหรั
บพื
ช C4 เป็
นกลุ่
มพื
ชที่
มี
ระบบการสร้
างสารอิ
นทรี
ย์
จากคาร์
บอนไดออกไซด์
2 ครั้
ง โดย
ครั้
งแรกตรึ
งที่
Mesophyll cell โดยมี
ตั
วมารั
บก๊
าซ CO
2
คื
อ PEP
(Phosphoenol pyruvate) ได้
เป็
นสารประกอบคาร์
บอน 4 อะตอม
จึ
งเรี
ยกพื
ชกลุ่
มนี้
ว่
าพื
ชC4
น�้
ำตาล C4 จึ
งเป็
นน�้
ำตาลที่
ได้
มาจากพื
ช C4 เช่
น อ้
อย ข้
าวโพด ซึ่
งมี
อั
ตราส่
วนของ
13
C/
12
C
(
δ
13
C, ‰) ต่
างกั
บพื
ช C3 (ในที่
นี้
ได้
แก่
มะพร้
าว) อย่
างเห็
นได้
ชั
ด จึ
งสามารถจ�
ำแนกน�้
ำมะพร้
าว
บริ
สุ
ทธิ์
ได้
จากการวิ
เคราะห์
ค่
าของอั
ตราส่
วนของ
13
C/
12
Cที่
แตกต่
างกั
น (รู
ปที่
2)
การเปรี
ยบเที
ยบการวิ
เคราะห์
เทคโนโลยี
CRDS กั
บ IRMS เพื่
อตรวจสอบน�้
ำมะพร้
าว
IRMS เป็
นการวิ
เคราะห์
ไอโซโทป โดยหารู
ปแบบไอโซโทป (Isotopic signature) ในลั
กษณะการ-
กระจายของไอโซโทปเสถี
ยร (Stable isotopes) ซึ่
งสามารถน�
ำไปประยุ
กต์
ใช้
ทางด้
านอาหารอย่
าง
แพร่
หลาย ทฤษฎี
และการปฏิ
บั
ติ
ของ IRMS รวมถึ
งการน�
ำมาใช้
ในการวิ
เคราะห์
น�้
ำมะพร้
าวซึ่
งก็
ได้
รั
บการยอมรั
บแล้
ว (Brand,9619;Brenna
etal
.,1997;Werner&Brand,2001;Sessions,2006)
ทั้
งนี้
การเปรี
ยบเที
ยบผลของการวิ
เคราะห์
ระหว่
างCRDSกั
บ IRMS เริ่
มจากเตรี
ยมตั
วอย่
าง3กลุ่
ม
เทคโนโลยี
CavityRing-Down
Spectroscopy (CRDS)
หาสิ่
งเจื
อปนในน�้
ำมะพร้
าว
วิ
ธี
การตรวจสอบการเจื
อปนน�้
ำมะพร้
าวด้
วยน�้
ำตาลอ้
อยหรื
อข้
าวโพด (น�้
ำตาลC4)
ซึ่
งเป็
นสารที่
นิ
ยมเจื
อปนในน�้
ำมะพร้
าวเพื่
อเพิ่
มความหวานด้
วย CRDS (Cavity
Ring-DownSpectroscopy) เป็
นเทคนิ
คล่
าสุ
ดที่
มี
ข้
อดี
คื
อใช้
เวลาน้
อยราคาถู
ก
ง่
ายต่
อการใช้
งาน รวมถึ
งไม่
ต้
องเตรี
ยมตั
วอย่
างที่
ยุ
่
งยาก เมื่
อเที
ยบกั
บวิ
ธี
การเดิ
ม
ในการวิ
เคราะห์
หาการเจื
อปนน�้
ำตาลด้
วยเทคนิ
ค Isotope Ratio Mass
Spectrometry (IRMS)ที่
มี
ความแม่
นย�
ำและเที่
ยงตรงสู
งในการวิ
เคราะห์
หาการเติ
ม
น�้
ำตาล C4 ในน�้
ำมะพร้
าว โดยการวิ
เคราะห์
หาค่
าคาร์
บอนไอโซโทป (
δ
13
C) ซึ่
งเป็
น
องค์
ประกอบในน�้
ำมะพร้
าว CRDS เป็
นอี
กหนึ่
งเทคนิ
คของการวิ
เคราะห์
หา
การปลอมปนในธุ
รกิ
จด้
านอาหารและเครื่
องดื่
ม ผลการวั
ดด้
วยเทคนิ
ค CRDS
สามารถแยกแยะความแตกต่
างของน�้
ำมะพร้
าวที่
เจื
อปน
ด้
วยน�้
ำตาล C4 ลงไปได้
ร้
อยละ 5 โดยมี
ความเที่
ยงตรง
และถู
กต้
องอยู่
ที่
±
0.3%
o
(per mil)
รู
ปที่
1
แสดงการวั
ดเวลาที่
ปล่
อยพลั
งงานที่
ถู
กดู
ดกลื
นไว้
ออกด้
วยCRDS
Figure 1
Different concentrationof samples reflects different curve level.
รชติ
นทร์
สั
มมาประสิ
ทธิ์
RachatinSummaprasit
SalesEngineer
Thai UniqueCo., Ltd.