46
DEC 2017
FOOD FOCUSTHAILAND
STRATEGIC
R & D
ฟี
นู
กรี
กหรื
อลู
กซั
ดอาจมี
ส่
วนช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด
ฟี
นู
กรี
กช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด
ฟี
นู
กรี
กหรื
อลู
กซั
ดเป็
นสมุ
นไพรที่
โด่
งดั
งในวั
ฒนธรรมอารบิ
กและอิ
นเดี
ย
เป็
นแหล่
งที่
ดี
ของใยอาหารที่
ละลายน�้
ำและมี
สารประกอบหลายชนิ
ดที่
มี
ผลช่
วยควบคุ
ม
ระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด
จากการศึ
กษาทั้
งในผู
้
ป่
วยโรคเบาหวานชนิ
ดที่
2 และผู
้
ที่
ไม่
ได้
เป็
นโรคเบาหวาน
แสดงให้
เห็
นว่
าระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อดลดลงถึ
งร้
อยละ 13หลั
งมื้
ออาหาร (18,19)
และยั
งมี
หลั
กฐานอี
กหลายชิ้
นที่
พบว่
าฟี
นู
กรี
กหรื
อลู
กซั
ดมี
ส่
วนช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาล
ในเลื
อดเช่
นกั
น (20)
การรั
บประทานฟรี
นู
กรี
กหรื
อลู
กซั
ดทั้
งเมล็
ดหรื
อในรู
ปของผลิ
ตภั
ณฑ์
เสริ
มอาหารนั้
น
มี
ประโยชน์
แต่
ไม่
ปลอดภั
ยต่
อหญิ
งตั้
งครรภ์
ทั้
งนี้
ปริ
มาณที่
แนะน�
ำคื
อ2-5กรั
มต่
อวั
น
สรุ
ป:
ฟี
นู
กรี
กหรื
อลู
กซั
ดอาจช่
วยปรั
บปรุ
งการควบคุ
มระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อดของ
ผู้
ป่
วยโรคเบาหวานได้
อย่
างมาก
เส้
นชิ
ราตากิ
เส้
นชิ
ราตากิ
มี
ส่
วนช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อดในผู
้
ป่
วย
โรคเบาหวาน
การลดการบริ
โภคขนมปั
ง เส้
นก๋
วยเตี๋
ยว หรื
ออาหารที่
มี
ส่
วนประกอบของ
คาร์
โบไฮเดรตสู
ง มี
ผลในการช่
วยจั
ดการและควบคุ
มโรคเบาหวาน แต่
ทว่
าการได้
รั
บประทานอาหารที่
ชื่
นชอบสั
กครั้
งก็
ส�
ำคั
ญเหมื
อนกั
น
เส้
นชิ
ราตากิ
ของญี่
ปุ
่
นมี
ปริ
มาณคาร์
โบไฮเดรตต�่
ำ ใยอาหารสู
ง โดยเส้
นชิ
ราตากิ
3.5 ออนซ์
หรื
อ 100 กรั
ม จะมี
คาร์
โบไฮเดรตที่
ย่
อยได้
น้
อยกว่
า 1 กรั
ม และให้
พลั
งงานต�่
ำ
เส้
นก๋
วยเตี๋
ยวส่
วนมากท�
ำมาจากกลู
โคแมนแนน ซึ่
งเป็
นใยอาหารที่
ไม่
สามารถ
ย่
อยได้
จึ
งอาจมี
ผลช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อดหลั
งมื้
ออาหาร และปรั
บปรุ
งระบบ
การเผาผลาญในผู้
ป่
วยโรคเบาหวาน (21,22,23)
BottomLine:
เส้
นชิ
ราตากิ
มี
คาร์
โบไฮเดรตและแคลอรี
ต�่
ำมากอย่
างไม่
น่
าเชื่
อ โดย
เส้
นใยที่
เป็
นองค์
ประกอบในเส้
นชิ
ราตากิ
อาจมี
ส่
วนช่
วยควบคุ
มระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด
และระบบการเผาผลาญอื่
นๆ
โกโก้
ในดาร์
กช็
อกโกแลต
ดาร์
กช็
อกโกแลตส�
ำหรั
บผู้
ป่
วยโรคเบาหวาน
โกโก้
ในช็
อกโกแลตมาจากต้
นโกโก้
ซึ่
งมี
องค์
ประกอบของฟลาวานอลที่
มี
ผลช่
วยปรั
บปรุ
งความดั
นโลหิ
ต ภาวะดื้
อต่
ออิ
นซู
ลิ
น และการควบคุ
มระดั
บน�้
ำตาล
ในเลื
อดโดยรวม (24)
อย่
างไรก็
ตาม ประโยชน์
ของดาร์
กช็
อกโกแลตยั
งคงเป็
นที่
ถกเถี
ยงกั
น เนื่
องจากยั
ง
มี
ส่
วนประกอบของน�้
ำตาล ผู
้
เขี
ยนมี
ความเห็
นว่
าเป็
นการรั
กษาที่
ค่
อนข้
างเป็
นกลาง
(เกี่
ยวกั
บผลกระทบต่
อสุ
ขภาพ) และเป็
นทางเลื
อกที่
ดี
ทางเลื
อกหนึ่
งส�
ำหรั
บผู
้
ป่
วย
โรคเบาหวาน
แต่
ต้
องเป็
นดาร์
กช็
อกโกแลตแท้
ซึ่
งมี
ปริ
มาณโกโก้
ร้
อยละ 85 หรื
อมากกว่
า หากมี
ปริ
มาณโกโก้
น้
อยกว่
านี้
จะมี
น�้
ำตาลในปริ
มาณที่
สู
ง มี
งานวิ
จั
ยที่
พบประโยชน์
ของ
ดาร์
กช็
อกโกแลตหรื
อสารสกั
ดโกโก้
ซึ่
งจะเท่
ากั
บการได้
รั
บฟลาวานอลในปริ
มาณ500-
1,000 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อวั
น โดยเที
ยบคร่
าวๆ ได้
กั
บดาร์
กช็
อกโกแลตระดั
บความเข้
มข้
น
ร้
อยละ 85ปริ
มาณ25-40กรั
ม
สรุ
ป:
ผู
้
ที่
รั
บประทานช็
อกโกแลตเป็
นประจํ
า ลองเปลี่
ยนมาเป็
นดาร์
กช็
อกโกแลต
ระดั
บความเข้
มข้
นร้
อยละ 85หรื
อมากกว่
า
น�้
ำส้
มสายชู
หมั
กจากแอปเปิ้
ล (Apple Cider Vinegar)
น�้
ำส้
มสายชู
หมั
กจากแอปเปิ
้
ลมี
ส่
วนช่
วยลดระดั
บน�้
ำตาล
ในเลื
อด
น�
้
ำส้
มสายชู
หมั
กเป็
นวั
ฒนธรรมพื้
นเมื
องที่
เก่
าแก่
เป็
นภู
มิ
ปั
ญญาที
่
นิ
ยม
รั
บประทานกั
นมาอย่
างยาวนานส�
ำหรั
บการบ�
ำบั
ดรั
กษาปั
ญหาสุ
ขภาพ
งานวิ
จั
ยพบว่
าน�้
ำส้
มสายชู
หมั
กจากแอปเปิ
้
ลอาจช่
วยเพิ่
มการน�
ำน�
้
ำตาลจาก
เลื
อดเข้
าสู่
เซลล์
หรื
อที่
รู้
จั
กกั
นว่
าเมทาบอลิ
ซึ
มของกลู
โคส (25,26)
จากการศึ
กษาในผู
้
ป่
วยโรคเบาหวานชนิ
ดที่
2 จ�
ำนวน 11 ราย ซึ่
งบริ
โภค
น�้
ำส้
มสายชู
หมั
กก่
อนมื้
ออาหารพบว่
าการน�
ำน�้
ำตาลเข้
าสู
่
เซลล์
เพิ่
มขึ้
น (ทดสอบ
ที่
ปลายแขน) และลดระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด รวมทั้
งลดระดั
บอิ
นซู
ลิ
นและ
ไตรกลี
เซอไรด์
(27)
น�้
ำส้
มสายชู
หมั
กจากแอปเปิ
้
ลเป็
นน�้
ำส้
มสายชู
หมั
กที่
ได้
รั
บความนิ
ยม
มากที่
สุ
ดในหมู
่
ผู
้
บริ
โภคที่
ใส่
ใจสุ
ขภาพ แต่
ก็
ไม่
ได้
เป็
นเพี
ยงประเภทเดี
ยวที่
จะ
ให้
ประโยชน์
ต่
อสุ
ขภาพ
สรุ
ป:
มี
หลั
กฐานที่
ชี้
ชั
ดว่
าการบริ
โภคน�้
ำส้
มสายชู
หมั
กก่
อนมื้
ออาหารหรื
อ
ระหว่
างมื้
ออาหาร สามารถช่
วยปรั
บปรุ
งเมทาบอลิ
ซึ
มของกลู
โคส โดยน�้
ำส้
มสายชู
-
หมั
กจากแอปเปิ้
ลเป็
นน�้
ำส้
มสายชู
หมั
กชนิ
ดที่
ได้
รั
บความนิ
ยมมากที่
สุ
ด
สตี
เวี
ย (หญ้
าหวาน) ทางเลื
อกของสารให้
ความหวาน
ทดแทนน�้
ำตาล
สตี
เวี
ยเป็
นอี
กหนึ่
งทางเลื
อกของสารให้
ความหวานทดแทน
น�้
ำตาล
สตี
เวี
ยเป็
นสารให้
ความหวานทดแทนน�้
ำตาลที่
ได้
รั
บความนิ
ยมและมี
ต้
นก�
ำเนิ
ดมาจากอเมริ
กาใต้
มี
ความส�
ำคั
ญและมี
ประโยชน์
ต่
อผู
้
ป่
วยโรคเบาหวาน
เนื่
องจากปราศจากน�้
ำตาลและแคลอรี
และสามารถใช้
ทดแทนน�้
ำตาลได้
โดยตรง
แต่
ในบางงานวิ
จั
ยอาจยั
งมี
ข้
อสงสั
ยถึ
งผลต่
อการท�
ำงานของอิ
นซู
ลิ
น (28,29)
ในความเป็
นจริ
งแล้
ว พบว่
าสตี
เวี
ยมี
ส่
วนช่
วยลดทั้
งระดั
บน�้
ำตาลในเลื
อด
และอิ
นซู
ลิ
นได้
มากกว่
าแอสพาร์
เทมซึ่
งเป็
นสารให้
ความหวานสั
งเคราะห์
หลั
งจาก
มื้
ออาหาร (30)
ส�
ำหรั
บผู
้
ป่
วยโรคเบาหวาน น�้
ำผึ้
งถื
อว่
าดี
กว่
าน�้
ำตาล อย่
างมี
นั
ยส�
ำคั
ญ
เล็
กน้
อย หากคุ
ณยั
งต้
องการความหวานให้
กั
บเครื่
องดื่
มของคุ
ณ การใช้
สตี
เวี
ย
สามารถตอบโจทย์
ได้
สำ
�หรั
บข้
อมู
ลเพิ่
มเติ
ม
กรุ
ณาติ
ดต่
อ กองบรรณาธิ
การ นิ
ตยสารฟู้
ด โฟกั
ส ไทยเเลนด์
อี
เมล์
For additional informatioin, please contact Food Focus Thailandmagazine
at