63
DEC 2016 FOOD FOCUS THAILAND
SURROUNDS
IMCD JoinedFiAsia 2016 in Jakarta toHelpBoost theCleanLabel Trend in Indonesia
TetraPakExpandsRegional ManufacturingFootprint
จาการ์
ตา, อิ
นโดนี
เซี
ย, 21-23 กั
นยายน 2559
- IMCD ร่
วมจั
ดแสดงภายในงาน Fi Asia 2016 น�
ำเสนอส่
วนผสมอาหารเพื่
อ
สุ
ขภาพและเป็
นมิ
ตรต่
อฉลากสู่
ผู้
ประกอบการในประเทศอิ
นโดนี
เซี
ย ทั้
งนี้
ในปั
จจุ
บั
น องค์
การอาหารและยา ประเทศอิ
นโดนี
เซี
ย
ได้
มี
วาระที่
เกี่
ยวข้
องกั
บฉลากในสิ
นค้
าอาหารมากขึ้
น ตั
วอย่
างเช่
น การรณรงค์
ให้
ลดหรื
อเลิ
กใช้
ฟอสเฟตในสิ
นค้
าอาหาร เป็
นต้
น
Michael Petersen, ManagingDirector และ Regional Business Development Director for Food&Nutrition ของ IMCD
เปิ
ดเผยว่
า “นอกเหนื
อจากนโยบายขององค์
การอาหารและยาอิ
นโดนี
เซี
ยดั
งกล่
าวแล้
ว เรายั
งเห็
นการเคลื่
อนไหวของกลุ
่
มผู
้
ผลิ
ต
ในกลุ
่
มอุ
ตสาหกรรมนมและผลิ
ตภั
ณฑ์
จากนมที่
หั
นมาใช้
ส่
วนผสมจากธรรมชาติ
แทนสารสั
งเคราะห์
ในผลิ
ตภั
ณฑ์
กลุ
่
มนี้
มากขึ้
น
ซึ่
งก็
เป็
นเรื่
องที่
ส�
ำคั
ญเพราะส่
วนใหญ่
กลุ่
มผู้
บริ
โภคก็
คื
อเด็
กๆนั่
นเอง”
กรุ
งเทพฯ, 17 พฤศจิ
กายน 2559
- เต็
ดตรา แพ้
ค ประกาศการลงทุ
นครั้
งใหญ่
สร้
างโรงงานผลิ
ตวั
สดุ
บรรจุ
ภั
ณฑ์
อั
นทั
นสมั
ย
แห่
งที่
4ของภู
มิ
ภาคซึ่
งตั้
งอยู่
ใกล้
กั
บนครโฮจิ
มิ
นห์
ประเทศเวี
ยดนามด้
วยมู
ลค่
าการลงทุ
นกว่
า110ล้
านเหรี
ยญสหรั
ฐ เพื่
อตอบรั
บกั
บ
ความต้
องการที่
ขยายตั
วเพิ่
มขึ้
นอย่
างรวดเร็
วของผู้
บริ
โภคในประเทศไทยและภู
มิ
ภาคเอเชี
ยแปซิ
ฟิ
ก
การตั
ดสิ
นใจส�
ำคั
ญในครั้
งนี้
สื
บเนื่
องมาจากปริ
มาณการบริ
โภคเครื่
องดื่
มหลากหลายประเภทที่
สู
งขึ้
นอย่
างต่
อเนื่
องในปี
2559
Jakarta, Indonesia, 21-23September 2016
- IMCD joinedFiAsia2016, presentingabroad rangeof healthy and clean label food ingredients toboth local
and international foodmanufacturers. Currently, the FDA in Indonesia is clearly pushing the clean label agenda. “Agood example of this is the push for a
reduction in theuseof phosphates”, notedMr.Michael Petersen,ManagingDirector of IMCDThailandandRegional BusinessDevelopmentDirector forFood
&Nutrition. “Inaddition,wearealsoseeingnatural colours replacingsyntheticmaterialswithin thedairy industryas theseproductsarepredominantlyconsumed
by children.”
“Undoubtedly, thecurrent key trend is the removal of E-numbers, asexportingproducersaremore inclined tomeet the requirementsat the receivingend,
wherenon-allergens areofmajor importance. Indonesiadoes not have the requirement tomentionE-numbers onpackagingexcept for exports to countries
with E-numbers. Recent regulations from the Indonesian FDA dictate stricter labelling for food additives in categories such as synthetic food colours,
preservatives, artificial sweeteners, flavour enhancers and antioxidants,”Mr.Petersen commented.
Becauseof thisenforcement by theauthority, Indonesia’s food industry isexpected toseemovement towardsusingcleaner, simplerandmore transparent
ingredients. “But at the lower endof themarket wherepremium solutionsare simplynot cost-effectivewhen targeting themassmarket, andwheremarketing
isdirected towardsmillennials (15 to35-year-olds),weareseeing themove towardsgood fatsandcarbs, the replacement of traditionalmeals forquickhealthy
foods and more transparency in labelling. Suppliers, distributors, producers, the end clients and the regulatory body are therefore positively shaping the
landscape for healthier andmore sustainable diets,”Mr.Petersen stated.
Bangkok, 17November 2016
- Bolstered by rapid consumption growth and increasing customer needs inThailand and theAsia-Pacific region, TetraPak
announced their USD 110million investment in a state-of-the-art regional manufacturing facility near HoChi MinhCity, Vietnam, to serve customers across
the region.
Themove is promptedby increasing consumption volumes in liquiddairy and fruit-basedbeverages in2016. InThailand, theoverall consumption is 3.6
billion litreswhichequates to~50 litresper capitaconsumption.Thesamedevelopment is reflectedacrossAsia-Pacificwith the total packedbeverages intake
at 70 billion litres acrossASEAN, SouthAsia, Japan, Korea, Australia andNew Zealand. Additionally, over the next three years, thesemarkets are likely to
grow at a healthy 5.6% per annum.
The factory, expected tocommercializeoperations inQ12019,will haveanexpandableproductioncapacityof approximately20billionpacksper annum,
acrossavarietyof packaging. Itwill primarilyservecustomersbased inASEAN,AustraliaandNewZealand.Withastrong focusonsustainability, thesitewill
adopt a host of global best practices tominimize the environmental footprint, including the utilizationof a highproportion of renewableenergy sources.
Michael Petersen กล่
าวเสริ
มว่
า “เทรนด์
ส�
ำคั
ญขณะนี้
ที่
เห็
นได้
ชั
ดในกลุ่
มของผู้
ผลิ
ตผลิ
ตภั
ณฑ์
อาหารเพื่
อการส่
งออกก็
คื
อ การใช้
ส่
วนผสมที่
ไม่
มี
E-number ทั้
งนี้
ก็
เพื่
อ
ให้
สอดคล้
องกั
บมาตรฐานในประเทศที่
จะส่
งออกไปจ�
ำหน่
ายนั่
นเองนอกจากนี้
ส่
วนผสมที่
อยู่
ในกลุ่
มพวกNon-allergensก็
มี
ความต้
องการที่
สู
งขึ้
นเช่
นกั
นและมี
แนวโน้
มที่
จะ
เป็
นที่
ต้
องการมากขึ้
นด้
วย อย่
างไรก็
ตาม ส�
ำหรั
บตลาดในประเทศอิ
นโดนี
เซี
ยเอง ยั
งไม่
มี
กฎหมายหรื
อมาตรฐานที่
เกี่
ยวข้
องกั
บการระบุ
E-number บนฉลาก แต่
ส่
วนมากจะ
เข้
มงวดกั
บการระบุ
ส่
วนผสมในกลุ่
มสี
สั
งเคราะห์
วั
ตถุ
กั
นเสี
ยสารสั
งเคราะห์
ให้
ความหวานแทนน�้
ำตาลสารเสริ
มสร้
างกลิ่
นรส (Flavour enhancers)และสารต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระ
เป็
นต้
น
ทั้
งนี้
จากการที่
รั
ฐบาลอิ
นโดนี
เซี
ยได้
ออกกฎหมายเกี่
ยวกั
บอาหารที่
มี
ความเข้
มงวดมากขึ้
นอุ
ตสาหกรรมอาหารในอิ
นโดนี
เซี
ยจึ
งน่
าจะมี
การเคลื่
อนไหวด้
านการใช้
ส่
วนผสม
ที่
เป็
นมิ
ตรต่
อฉลากและดี
ต่
อผู
้
บริ
โภคมากขึ้
น“ทุ
กวั
นนี้
เราสามารถเห็
นการโปรโมทสารอาหารที
่
เป็
นไขมั
นหรื
อคาร์
โบไฮเดรตที่
ดี
ต่
อสุ
ขภาพมากขึ้
นกว่
าเมื
่
อก่
อนในส่
วนของตลาด
ล่
างที่
สิ
นค้
าพรี
เมี่
ยมนั้
นค่
อนข้
างจะพบปั
ญหาด้
านราคา แต่
กลุ่
มเป้
าหมายส่
วนใหญ่
ยั
งคงเป็
นคนรุ่
นใหม่
ในช่
วงอายุ
ประมาณ 15-35 ปี
อี
กทั้
งยั
งเห็
นพฤติ
กรรมการบริ
โภคที่
มี
การเปลี่
ยนแปลงจากการเลื
อกซื้
ออาหารส�
ำเร็
จรู
ปแบบเดิ
มๆ เป็
นผลิ
ตภั
ณฑ์
อาหารส�
ำเร็
จรู
ปเพื่
อสุ
ขภาพหรื
อดี
ต่
อสุ
ขภาพมากขึ้
นซึ่
งส่
วนใหญ่
หากสั
งเกตจากฉลากบรรจุ
ภั
ณฑ์
จะพบส่
วนผสมที่
เป็
นที่
รู
้
จั
กและดี
ต่
อสุ
ขภาพนั่
นเองทั้
งนี้
การพั
ฒนาของวงการอุ
ตสาหกรรมอาหารที่
เกิ
ดขึ้
นอย่
างต่
อเนื่
องนี้
ล้
วนเป็
นผลมาจากความร่
วมมื
อของทุ
กฝ่
ายทั้
งจาก
ซั
พพลายเออร์
ผู้
จั
ดจ�
ำหน่
ายผู้
ผลิ
ตผู้
บริ
โภคและผู้
เกี่
ยวข้
องทางภาครั
ฐทั้
งสิ้
นซึ่
งนั
บว่
าเป็
นเรื่
องที่
ดี
อย่
างมากต่
ออุ
ตสาหกรรมอาหารประเทศอิ
นโดนี
เซี
ย”Michael Petersen
กล่
าวทิ้
งท้
าย
โดยประเทศไทยมี
ปริ
มาณการบริ
โภคโดยรวมอยู
่
ที่
3,600 ล้
านลิ
ตร หรื
อประมาณ 50 ลิ
ตรต่
อคน สอดคล้
องกั
บการเติ
บโตในภู
มิ
ภาคที่
มี
ปริ
มาณการบริ
โภคสู
งกว่
า 70,000
ล้
านลิ
ตรทั่
วทั้
งกลุ่
มประเทศอาเซี
ยน เอเชี
ยใต้
ญี่
ปุ่
น เกาหลี
ออสเตรเลี
ยและนิ
วซี
แลนด์
โดยคาดว่
าตลาดเหล่
านี้
จะเติ
บโตต่
อเนื่
องร้
อยละ 5.6ทุ
กปี
ตลอด3ปี
ข้
างหน้
า
โรงงานแห่
งนี้
คาดว่
าจะสร้
างเสร็
จและเริ่
มต้
นการผลิ
ตได้
ในไตรมาสแรกของปี
2562 ด้
วยก�
ำลั
งการผลิ
ตวั
สดุ
บรรจุ
ภั
ณฑ์
ส�
ำหรั
บกล่
องเครื่
องดื่
มได้
กว่
า 2 หมื่
นล้
านกล่
อง
ต่
อปี
ในหลากหลายรู
ปแบบ โดยเป็
นฐานการผลิ
ตส�
ำหรั
บลู
กค้
ากลุ
่
มประเทศอาเซี
ยน ออสเตรเลี
ย และนิ
วซี
แลนด์
เป็
นหลั
ก บริ
ษั
ทฯ ยั
งให้
ความส�
ำคั
ญต่
อการดู
แลรั
กษา
สิ่
งแวดล้
อมด้
วยการใช้
แผนบริ
หารงานและระบบการผลิ
ตแบบยั่
งยื
น รวมไปถึ
งการใช้
พลั
งงานทดแทนเพื่
อลดผลกระทบต่
อสิ่
งแวดล้
อมให้
ได้
มากที่
สุ
ด