Food Focus Thailand
AUGUST 2015
26
perspective, general logistics, cold chain logistics, automobile,
electronicswill be itsmain focal point fordevelopment.However, the
project also yields important opportunity for Thai investors to invest
andbuildnetworks in this supply chain, inorder todrive the country
to become “TradingNation” in the near future.
Meanwhile, the 6 states along the DMIC will be developed as
smart cities and industrial estates in order to become a center for
manufacturing industry in global and regional level. The Indian
government plans to use the samemodel to improve the country’s
economyand labourmarketasawhole.Special supportsareoffered
to leadingcompanies, and the Indiangovernmentwill invest in large
infrastructure such as power plants and effective logistics system.
The economy of the city of Dholera inGujarat state, for example, is
6 timesbigger the sizeof Shanghai’seconomy, and two timebigger
than that ofDelhi. TheDMIC railway isexpected tobe themost cost
efficient route in the world, and should create more than 1 million
jobs. Apart from these, India has planned to improve land transport
toother cities, suchasMumbai andKolkata,whichmeans5,000km
of roads shall be built. Not long ago, India is working cooperatively
withMyanmar to build roads link toThailand in order to attach itself
intoASEANmarket.
For China, during the official visit to India in September 2014,
President Xi Jinping agreed to develop railway system with India.
China promised to help India to developNewDelhi-Chennai route,
while will be running at 160 km/h speed, before upgrading to high
speed train in thenear future. The collaborativeprojectswith Japan
andChina are parts of India’s “DiamondQuadrilateral Project” that
has longbeen inprogress.Withhelp fromChinaand Japan, India’s
dream tobuildhighspeed trainacross thecountry is likely tosuccess
rapidly. Moreover, India also sees the potential and aims to use
Thailand as a center for economic linkage toChina and the rest of
ASEAN.
รั
ฐบาลอิ
นเดี
ยตั้
งเป้
าที่
จะพั
ฒนานิ
คมอุ
ตสาหกรรมบริ
เวณนี้
ให้
เป็
น
ศู
นย์
กลางอุ
ตสาหกรรมการผลิ
ตของโลกและศู
นย์
กลางการค้
าของภู
มิ
ภาค
อี
กทั้
งเป็
นต้
นแบบในการพั
ฒนาเศรษฐกิ
จของประเทศและพั
ฒนาแรงงาน
ของประเทศ โดยมี
การเสนอสิ
ทธิ
พิ
เศษให้
บริ
ษั
ทชั้
นน�
ำที่
เป็
นผู
้
น�
ำเทคโนโลยี
ระดั
บโลกเข้
ามาลงทุ
น โดยจะมี
การสร้
างพื้
นฐานขนาดใหญ่
รองรั
บ ได้
แก่
โรงงานผลิ
ตไฟฟ้
า และการเชื่
อมโยงการขนส่
งที่
มี
ประสิ
ทธิ
ภาพ เพื่
อพั
ฒนา
เมื
องต่
างๆ ที่
ตั้
งอยู
่
ระหว่
างมุ
มไบและเดลี
ให้
เป็
น Smart Cities เช่
น เมื
อง
Dholera ในรั
ฐคุ
ชราตซึ่
งมี
ศั
กยภาพที่
จะมี
ขนาดของเศรษฐกิ
จโตเป็
น6 เท่
า
ของเซี่
ยงไฮ้
และ2 เท่
าของกรุ
งนิ
วเดลี
และยั
งคาดว่
าจะเป็
นระบบการขนส่
ง
สิ
นค้
าที่
ลดต้
นทุ
นได้
มากที่
สุ
ดในโลกด้
วยรวมทั้
งจะก่
อให้
เกิ
ดการจ้
างงานใน
โครงการนี้
ได้
1ล้
านคนนอกจากนี้
ยั
งมี
การสร้
างเส้
นทางเชื่
อมเมื
องรองต่
างๆ
ระหว่
างมุ
มไบและกั
ลกั
ตตาอี
กรวมทั้
งสิ้
นประมาณ 5,000 กิ
โลเมตร ซึ่
ง
ปั
จจุ
บั
นอิ
นเดี
ยก็
มี
การให้
การช่
วยเหลื
อเมี
ยนมาในการเชื่
อมโยงเส้
นทางถนน
มายั
งประเทศไทยเพื่
อเป็
นการเชื่
อมโยงเส้
นทางการค้
ากั
บอาเซี
ยนด้
วย
อี
กทางหนึ่
ง
ในส่
วนของจี
น ในระหว่
างการเยื
อนอิ
นเดี
ยอย่
างเป็
นทางการของนาย
สี
จิ้
นผิ
งประธานาธิ
บดี
จี
นในเดื
อนกั
นยายน2557ทั้
งสองฝ่
ายได้
ลงนามความ-
ตกลงร่
วมมื
อด้
านระบบรางระหว่
างกั
นโดยจี
นให้
ค�
ำมั่
นที่
จะช่
วยอิ
นเดี
ยพั
ฒนา
เส้
นทางเดิ
นรถไฟกรุ
งนิ
วเดลี
-เจนไน ให้
สามารถวิ่
งได้
ด้
วยความเร็
ว 160
กิ
โลเมตร/ชั่
วโมงและมี
เป้
าหมายที
่
จะพั
ฒนาเป็
นรถไฟความเร็
วสู
งในอนาคต
อั
นที่
จริ
งโครงการดั
งกล่
าวทั้
งของจี
นและญี่
ปุ
่
นต่
างก็
เป็
นส่
วนหนึ่
งของ
แผนการพั
ฒนาระบบDiamondQuadrilateral Project ของรั
ฐบาลอิ
นเดี
ย
ที
่
มี
พิ
มพ์
เขี
ยวมานานแล้
ว ที่
ต้
องการสร้
างโครงข่
ายระบบรถไฟความเร็
วสู
ง
ทั่
วอิ
นเดี
ยตลอดแนวระเบี
ยงเศรษฐกิ
จและอุ
ตสาหกรรมทั
่
วประเทศที่
เชื่
อม
ตั้
งแต่
เมื
องนิ
วเดลี
-มุ
มไบ,มุ
มไบ-เจนไน, เจนไน-กั
ลกั
ตตา,กั
ลกั
ตตา-นิ
วเดลี
,
มุ
มไบ-กั
ลกั
ตตา และนิ
วเดลี
-เจนไน แต่
ขาดเงิ
นทุ
นสนั
บสนุ
น แต่
เมื่
อมี
จี
นและญี่
ปุ
่
นให้
การสนั
บสนุ
นโครงการดั
งกล่
าวก็
น่
าจะส�
ำเร็
จเป็
นรู
ปธรรมได้
เร็
วขึ้
น อิ
นเดี
ยเองก็
ปรารถนาใช้
ประเทศไทยเป็
นจุ
ดเชื่
อมโยงทางเศรษฐกิ
จ
กั
บจี
นและอาเซี
ยนอี
กด้
วย
การพั
ฒนากลุ่
มเมื
องหลั
กไปพร้
อมๆกั
นในลั
กษณะMegaRegion นั
บ
เป็
นรู
ปแบบใหม่
ของการพั
ฒนาของกระแสโลก เพื่
อการกระจายตั
วของ
การพั
ฒนา ไม่
ให้
เน้
นเพี
ยงเมื
องหลั
กเพี
ยงอย่
างเดี
ยว แต่
สร้
างให้
เมื
องรอบๆ
มี
ศั
กยภาพการเติ
บโตควบคู
่
ไปด้
วย เพื่
อเสริ
มความเข้
มแข็
งของเมื
องหลั
ก
อย่
างมุ
มไบและเดลี
โดยกลุ่
มเมื
องที่
เป็
นคลั
สเตอร์
ของเมื
องหลั
กเหล่
านี้
จะมี
Chinapromised
tohelp India todevelop
NewDelhi-Chennai route,
whilewill be running
at 160 km/h speed,beforeupgrading to
high speed train
in thenear future.
Thecollaborativeprojectswith
Japanand
Chinaareparts of India’s
“DiamondQuadrilateral Project”
that has longbeen inprogress.
Processedagricultureand fisheries
will enjoy thebenefit from
Japan’s coldchain logistics
(which is scarce in India).