- page 32
32
JAN 2017
FOOD FOCUSTHAILAND
SOURCE OF
ENGINEER
ดู
แล้
วก็
อาจจะชวนงงๆ ใช่
ไหมครั
บว่
ามั
นต่
างกั
นตรงไหน และสมการแรกเป็
นสมการที่
ผิ
ด
ความจริ
งไปได้
อย่
างไรจ�
ำได้
ว่
าสมั
ยเด็
กๆยั
งเคยท�
ำโจทย์
เลขง่
ายๆด้
วยค�
ำถามท�
ำนองว่
าผลิ
ตสิ
นค้
า
ต้
นทุ
น100บาทต้
องการก�
ำไร10บาทดั
งนั้
นราคาขายจะเป็
นเท่
าไหร่
ซึ่
งทุ
กคนก็
ตอบได้
อยู่
แล้
วว่
า
คื
อ110ก่
อนอ่
านต่
อไปลองชวนคิ
ดกั
นครั
บว่
าสมการแรกผิ
ดตรงไหน?
ค�
ำอธิ
บายคื
อในโลกแห่
งความเป็
นจริ
งนั้
นผู
้
ผลิ
ตหรื
อธุ
รกิ
จมี
อ�
ำนาจในการตั้
งราคาได้
จริ
งหรื
อ?
ค�
ำตอบนี้
อาจจะตอบว่
าใช่
ถ้
าผู
้
ผลิ
ตนั้
นอยู
่
ในธุ
รกิ
จผู
กขาดที่
ลู
กค้
าไม่
มี
ทางเลื
อกอื่
น ต้
องซื้
อ
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ตามราคาที่
ผู
้
ผลิ
ตก�
ำหนดเท่
านั้
น แต่
ในโลกที่
เต็
มไปด้
วยการแข่
งขั
นทุ
กวั
นนี้
ถ้
ามี
คู
่
แข่
ง
ที
่
มี
สิ
นค้
าที่
ใกล้
เคี
ยงแต่
ตั้
งราคาถู
กกว่
า สิ
นค้
าของเราอาจจะขายไม่
ออก และต้
องลดราคาลงมา
ตามกลไกตลาดในที่
สุ
ด
ลองมาพิ
จารณากรณี
อุ
ตสาหกรรมอาหารกั
นครั
บ แม้
ว่
าผลิ
ตภั
ณฑ์
อาหารสามารถสร้
าง
จุ
ดแตกต่
างจากคู
่
แข่
งให้
กั
บตนเองได้
ด้
วยรสชาติ
รู
ปลั
กษณ์
ดึ
งดู
ด และบรรจุ
หี
บห่
อสวยงาม
แต่
เมื่
อมองอี
กมุ
มหนึ่
งแล้
ว คู
่
แข่
งก็
มี
อยู
่
มากมาย ลู
กค้
าสามารถเปรี
ยบเที
ยบสิ
นค้
าพร้
อมกั
บราคา
ของเรากั
บคู
่
แข่
งที่
วางอยู
่
บนชั้
นได้
อย่
างง่
ายดาย ทั้
งคู
่
แข่
งตรงๆ คื
อผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
เหมื
อนกั
น หรื
อ
คู่
แข่
งทางอ้
อมคื
อสิ
นค้
าที่
ลู
กค้
ารู้
สึ
กว่
าทดแทนกั
นได้
ดั
งนั้
น อ�
ำนาจการตั้
งราคานั้
นอยู
่
ที่
“ลู
กค้
า” หรื
อ “ตลาด” ต่
างหาก ด้
วยการเลื
อกว่
าจะซื้
อ
ผลิ
ตภั
ณฑ์
จากผู
้
ผลิ
ตรายใด ราคาขายจึ
งเป็
น “ปั
จจั
ยภายนอก” ที่
ผู
้
ผลิ
ตไม่
สามารถควบคุ
มได้
อย่
างสมบู
รณ์
การเริ่
มต้
นธุ
รกิ
จโดยการมองต้
นทุ
นแล้
วบวกก�
ำไร ด้
วยความคาดหวั
งว่
าตลาดจะ
ยอมรั
บ เป็
นวิ
ธี
คิ
ดที่
ผิ
ดทาง
สมการที่
สอง เป็
นแนวคิ
ดที่
สอดคล้
องกั
บโลกแห่
งการแข่
งขั
นมากกว่
าโดยการเปลี่
ยนจุ
ดเริ่
มต้
น
ใหม่
จากการมองตนเองไปสู่
ภายนอก (Inside-out)มาเป็
นการมองภายนอกหรื
อตลาดมาสู่
ภายใน
(Outside-in)
องค์
กรต้
องประเมิ
นว่
าลู
กค้
ามองคุ
ณค่
าหรื
อ
มู
ลค่
าของผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
ต�
ำแหน่
งใด เปรี
ยบได้
กั
บราคา
ที่
จะสามารถขายได้
ด้
วยมุ
มมองของตลาด จากนั้
น
จึ
งน�
ำมาก�
ำหนดเป้
าหมายของต้
นทุ
น (Cost target)
เพื่
อให้
ได้
ก�
ำไรตามที่
ต้
องการในท้
ายที่
สุ
ด เป้
าหมาย
ต้
นทุ
นที่
ว่
านี้
ต้
องแยกย่
อยลงไปตามโครงสร้
างต้
นทุ
น
ที่
มี
ด้
วย
ตั
วอย่
างเช่
น ถ้
าการประเมิ
นด้
วยมุ
มมอง
ของลู
กค้
าแล้
วผลิ
ตภั
ณฑ์
ของเรามี
มู
ลค่
าที่
100บาท
หากเราสามารถควบคุ
มกระบวนการท�
ำงานให้
มี
ต้
นทุ
นได้
ที่
90บาท เราจึ
งจะมี
ก�
ำไรได้
10บาทต้
นทุ
น
90 บาท จึ
งเป็
นเป้
าหมายรวมที่
ต้
องท�
ำให้
ได้
และ
แตกลงไปเป็
นเป้
าหมายย่
อยของแต่
ละหน่
วยงาน
เรายั
งมองลึ
กต่
อไปได้
อี
กครั
บว่
า “ต้
นทุ
น” กั
บ
“ก�
ำไร” สามารถเปรี
ยบเที
ยบเป็
นสิ่
งเดี
ยวกั
น เหมื
อน
กั
บเหรี
ยญ 1 เหรี
ยญ ที่
มี
2 ด้
าน แล้
วแต่
จะมอง
ด้
านไหน เพราะต้
นทุ
นที่
ลดลงไปได้
เท่
าไหร่
ก็
คื
อก�
ำไร
ที่
มากขึ้
นเท่
านั้
น หากสามารถปรั
บปรุ
งกระบวนการ
ให้
ต้
นทุ
นลดลงจาก 90 เป็
น 85 บาท ก�
ำไรก็
จะ
เพิ่
มขึ้
นเป็
น15บาทนั่
นเอง
แนวคิ
ดเช่
นนี้
ผมมองว่
ามี
ประโยชน์
มากในการ-
อธิ
บายให้
บุ
คลากรในองค์
กรเข้
าใจว่
าการสร้
างความ
เจริ
ญเติ
บโตทางธุ
รกิ
จอย่
างยั่
งยื
นจะเกิ
ดขึ้
นได้
ต้
อง
มาจากการมองไปที่
ลู
กค้
าก่
อนแล้
วจึ
งค่
อยมาหาทาง
บริ
การจั
ดการควบคุ
มตนเอง และปรั
บปรุ
งพั
ฒนา
อย่
างต่
อเนื่
อง
ดั
งนั้
น สิ่
งที่
ได้
เรี
ยนรู
้
จากวิ
ถี
การปฏิ
บั
ติ
ของ
องค์
กรแห่
งลี
น คื
อ การก�
ำหนดมู
ลค่
าของผลิ
ตภั
ณฑ์
หรื
อราคาในมุ
มมองของลู
กค้
า อย่
างมี
หลั
กการ
มี
เหตุ
ผล จากนั้
นจึ
งตั้
งเป้
าหมายต้
นทุ
นทั้
งต่
อ
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
มี
อยู
่
แล้
ว และผลิ
ตภั
ณฑ์
ใหม่
ก่
อนที่
จะ
ลงสู
่
ตลาดจากนั้
นต้
นทุ
นนี้
ต้
องลดลงไปผ่
านกิ
จกรรม
การปรั
บปรุ
งต่
างๆ ในองค์
กร ซึ่
งจะน�
ำไปสู่
ก�
ำไรที่
จะ
มี
ให้
กั
บธุ
รกิ
จ เพื่
อการกระจายอย่
างเหมาะสม
ให้
กั
บพนั
กงาน ผู้
บริ
หาร ผู้
ถื
อหุ้
น ลู
กค้
า และสั
งคม
ต่
อไปครั
บ
ข้
อมู
ลเพิ่
มเติ
ม
1
มี
การแปลหนั
งสื
อ เป็
นภาษาไทยในชื่
อว่
า
สุ
ดยอดลี
นของคุ
ณโอโน
1...,22,23,24,25,26,27,28,29,30,31
33,34,35,36,37,38,39,40,41,42,...64