- page 24

24 JAN 2017 FOOD FOCUSTHAILAND
SPECIAL REPORT
ประเทศเปรู นับเป็นหนึ่ งในประเทศโซนอเมริกาใต้ที่มี การส่งออก
ผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตรที่แข็งแกร่ง อ้างอิงจากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออก
ของประเทศเปรูพบว่ า เปรูมีปริมาณการส่งออกแอสพารากั สและปาปริกา
มากที่สุดในโลกอีกทั้งยังมีแนวโน้มการส่งออกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอย่ าง
กล้วยและกาแฟที่มากขึ้นเรื่ อยๆอย่างไรก็ตามพืชผลเศรษฐกิจอื่นๆที่ทาง
เปรูปลูกเพื่อส่ งออกยังมีอีกหลายชนิ ด ขึ้นอยู่กับพื้ นที่เพาะปลูกและแนวโน้ม
ตลาดอย่างเช่นองุ่นอะโวคาโดมะม่วง บลูเบอร์ รี เป็นต้น โดยในทริปนี้
เราได้มีโอกาสแวะเยี่ ยมชมสวนองุ่นสด Agricola Don Ricardo ซึ่งเป็น
ไร่องุ่นเพื่อการส่งออก 100% อย่างไรก็ตาม Agricola Don Ricardo ยั งมี
สวนบลู เบอร์รีและอะโวคาโดพรีเมี ยมเพื่อการส่ งออกด้ วย โดยพื้นที่
เพาะปลูกส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดอิคา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่ห่ างจาก
เมืองหลวงลิมาประมาณ400กิโลเมตร ลงมาทางใต้ นั่ นเอง
ภูมิประเทศที่เหมาะสมของอิคา ภู มิภาคอิคานั้นถือเป็นภูมิภาคเดี ยว
ทางชายฝั่งตอนใต้ของเปรูที่เป็ นที่ราบ หรือที่เรี ยกว่า “ที่ราบริมทะเล”
นอกจากนี้ยังมีลักษณะกึ่งทะเลทรายและหุบเขาลุ ่มแม่น�้ำ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย
อยู่ที่ราว 15-25 องศาเซลเซียส ระดับน�้ำฝนต่อปีค่อนข้างต�่ ำตลอดทั้งปี
โดยเมื่อปี 2557 อยู่ที่ราว 10 มิลลิเมตรตลอดปี ซึ่งท�ำให้ พื้นที่ดังกล่าว
มีความเสี่ ยงที่ต้ องเผชิญกั บภาวะภัยแล้ง แต่ก็มั กมีฝนตกนอกฤดูกาล
อยู่ เสมอ โดยแม้ว่าจะมีความเสี่ยงเรื่องภัยแล้ งในพื้นที่กึ่งทะเลทราย
แต่ระบบชลประทานและเทคโนโลยีในพื้นที่ดังกล่าวถือว่ายอดเยี่ยมาก และ
ช่วยส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถปลูกพืชได้หลากหลายชนิ ด
ภูมิ ภาคอิคามีพื้นที่ทั้ งหมดประมาณ21,327 เฮกตาร์ โดยราว5,500
เฮกตาร์ถูกใช้เป็นพื้นที่ส�ำหรับไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์และองุ่นสด โดยผลผลิต
ที่ได้ อยู่ที่ ราว 4,000 - 30,000กิโลกรัมต่อเฮกตาร์
นิ ตยสารฟู้ ด โฟกัส ไทยแลนด์ได้ มีโอกาสเข้าร่ วมงาน Expoalimentaria 2016 ที่เมืองลิมา ประเทศเปรู ระหว่าง
วันที่ 28-30กันยายน2559ที่ผ่านมาซึ่งก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นนั้นทางผู้จัดงานซึ่งก็คือADEX ได้จัดทัวร์เชิงเกษตรกรรม
ส�ำหรับผู้สื่อข่าวจากนานาชาติที่ได้ รับเชิ ญเข้าร่วมงานเพื่อเป็ นการเสริมสร้ างความเข้าใจเกี่ยวกั บการเกษตรและการส่งออก
พืชผลสดของเปรูให้ดียิ่ งขึ้น
สถานการณ์การส่งออกองุ่นของเปรู ซัลวาดอร์ การ์ เชส ผู้จัดการฝ่ายขายของ
Agricola Don Ricardo ระบุว่ า “อุตสาหกรรมองุ่นสดของเปรูก�ำลังพยายามเดิ นหน้า
ลงนามข้อตกลงทางการค้าร่ วมกับหลายประเทศให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความหลากหลาย
ที่จะเป็นกุญแจส�ำคัญส�ำหรั บอุตสาหกรรมในระยะกลางและระยะยาว โดยปัจจุบันการส่งออก
นั้นมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่ อปีอยู่ ที่ราวร้อยละ 25 และคาดว่าในช่วง 2 ปีข้างหน้าจะขยายตัว
ขึ้นร้ อยละ 15 ต่อปี โดยตลาดส�ำคัญยังคงเป็นสหรัฐอเมริกาและยุโรป ขณะเดียวกันก็คาดว่า
น่าจะมีการขายตลาดไปสู่ทวีปเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะในจีนและเกาหลีใต้”
แนวโน้มความหลากหลายของพันธุ ์องุ่น ซัลวาดอร์ การ์เชสยั งระบุว่า“พั นธุ์องุ่นของ
เปรูที่นิยมน�ำไปรับประทานกั นสดๆ และส่งออกเป็นหลั กนั้น ได้แก่ พันธุ์เรดโกลบ (ร้อยละ 70)
ซูกราโอเน (ร้อยละ 9) เฟลม (ร้อยละ 6) คริ มสัน (ร้อยละ 7) และทอมป์สัน (ร้อยละ 3)
โดยในตอนนี้มีพันธุ์ที่หลากหลายมากขึ้นซึ่งก�ำลั งอยู่ในขั้นตอนการทดสอบและปรับปรุง
พันธุ์ โดยเฉพาะพันธุ์มาเจนตาและสวีตเซเลเบรชันที่ก�ำลังมาแรง”
ไร่ องุ่น Agricola Don Ricardo เองยั งลงนามในข้อตกลงหลายฉบั บร่วมกับบริษัท
ผู้พัฒนาสายพันธุ์ องุ่น ทั้ง Sun World ผู้ พัฒนาสายพั นธุ์องุ่นจากสหรัฐอเมริกา และ
Grapa เพื่อสร้างความหลากหลายให้มีมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปลูกองุ่นไว้ในพื้นที่ราว
900 เฮกตาร์ ซึ่งองุ่ นทั้งหมดเป็นองุ่นไร้เมล็ด และเตรียมไว้เพื่อการส่งออก “คาดว่าพื้นที่
ในการปลูกองุ่นพันธุ์คริมสั น มาเจนตา และเซเบิล จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น พื้ นที่ส�ำหรับ
พันธุ์เฟลมซูพีเรียร์ และเออร์ลีสวีตน่าจะลดลงนอกจากนี้ พันธุ์ใหม่ๆก็ก�ำลังได้รับการปลูก
มากขึ้นในระดั บทดลอง และเชื่ อว่าน่าจะสามารถน� ำมาปลูกในระดับเพื่ อการค้าได้
ในเร็วๆนี้” ซัลวาดอร์ การ์เชส ระบุในตอนท้ายของการเยี่ยมชม
สำ�รวจไร่องุ่ นส่งออกในอิคา เปรู