29
JUL 2017 FOOD FOCUSTHAILAND
SPECIAL TALK
BY FDA
(ที่
ไม่
รวมเนื้
อจากส่
วนที่
ติ
ดกระดู
ก ซึ่
งเลาะออกได้
โดยใช้
เครื่
องจั
กร (Mechanicallyseparatedmeat)) ต้
องได้
จาก
โคที่
ผ่
านขั้
นตอนการฆ่
าและช�
ำแหละตามที่
ประกาศฯ
ก�
ำหนดไว้
(4.1.6) เลื
อดโคและผลิ
ตภั
ณฑ์
พลอยได้
จากเลื
อดโค (Blood and
bloodby -products)ทั
้
งนี้
โคต้
องไม่
ท�
ำให้
สลบ (Stunning
process) ก่
อนฆ่
า ด้
วยวิ
ธี
การอั
ดอากาศหรื
อแก๊
สเข้
าไป
ในสมอง (Injecting compressed air or gas into the
cranialcavity)หรื
อการเจาะสมอง (Pithingprocess)หรื
อ
วิ
ธี
อื่
นที่
ท�
ำให้
สมองหรื
อไขสั
นหลั
งฉี
กขาดและกระจาย
(4.1.7) ผลิ
ตภั
ณฑ์
เนื้
อโคที่
มี
(4.1.1) - (4.1.6) เป็
นส่
วนประกอบ
4.2 อาหารที่
น�
ำเข้
าได้
โดยมี
เงื่
อนไขที่
ขึ้
นกั
บสถานภาพความเสี่
ยง
โรควั
วบ้
าของประเทศหรื
อพื้
นที่
ของผู้
ผลิ
ต (ข้
อ 4 ของประกาศกระทรวงสาธารณสุ
ข)
เป็
นอาหารที่
ได้
จากโคที่
น�
ำเข้
าได้
โดยจะต้
องพิ
จารณากลุ
่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
และปฏิ
บั
ติ
ตามเงื่
อนไขที่
ก�
ำหนดในแต่
ละกลุ่
มก่
อนการน�
ำเข้
าดั
งนี้
(4.2.1) เนื้
อโคสดและผลิ
ตภั
ณฑ์
เนื้
อโค ที่
มิ
ใช่
อาหารตามข้
อ 3 ของ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
ข
(4.2.2) เจลาติ
นและคอลลาเจนที่
ได้
จากกระดู
ก
(4.2.3) ไขมั
นสกั
ด (Tallow) และอนุ
พั
นธ์
ของไขมั
นสกั
ด (Tallow
derivatives) ที่
ไม่
เป็
นไปตามข้
อ 3(3) ของประกาศกระทรวง-
สาธารณสุ
ข
(4.2.4) ไดแคลเซี
ยมฟอสเฟต ที่
ไม่
เป็
นไปตามข้
อ 3(3) ของประกาศ
กระทรวงสาธารณสุ
ข
(4.2.5) ผลิ
ตภั
ณฑ์
เนื้
อโคที่
มี
(4.2.1)-(4.2.4) เป็
นส่
วนประกอบ
จะต้
องเป็
นไปตามเงื่
อนไขของกลุ
่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
ของ
เนื้
อโคสดและผลิ
ตภั
ณฑ์
เนื้
อโคดั
งกล่
าวที่
น�
ำมาผสมด้
วย
4.3 อาหารที่
ห้
ามน�
ำเข้
า (ข้
อ 5 ของประกาศกระทรวงสาธารณสุ
ข) เป็
น
การห้
ามน�
ำเข้
าอาหารที่
ได้
จากโคโดยพิ
จารณาทั้
งสถานะความเสี่
ยงของกลุ
่
มประเทศ
หรื
อพื้
นที่
อวั
ยวะหรื
อส่
วนที่
มี
ความเสี่
ยงต่
อโรควั
วบ้
าและอายุ
โค
5. ก�
ำหนดรายการเอกสารหรื
อหลั
กฐานที่
ต้
องแสดงประกอบการน�
ำเข้
าอาหารที่
กลุ่
มที่
1 กลุ่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
ที่
มี
ความเสี่
ยงจากโรควั
วบ้
าน้
อยมาก
(
NegligibleBSERisk)
(1) สาธารณรั
ฐอาร์
เจนติ
นา (Argentina)
(2) เครื
อรั
ฐออสเตรเลี
ย (Australia)
(3) สาธารณรั
ฐออสเตรี
ย (Austria)
(4) ราชอาณาจั
กรเบลเยี
ยม (Belgium)
(5) สหพั
นธ์
สาธารณรั
ฐบราซิ
ล (Brazil)
(6) สาธารณรั
ฐบั
ลแกเรี
ย (Bulgaria)
(7) สาธารณรั
ฐชิ
ลี
(Chile)
(8) สาธารณรั
ฐโคลอมเบี
ย (Colombia)
(9) สาธารณรั
ฐคอสตาริ
กา (CostaRica)
(10) สาธารณรั
ฐโครเอเชี
ย (Croatia)
(11) สาธารณรั
ฐไซปรั
ส (Cyprus)
(12) สาธารณรั
ฐเช็
ก (CzechRepublic)
(13) ราชอาณาจั
กรเดนมาร์
ก (Denmark)
(14) สาธารณรั
ฐเอสโตเนี
ย (Estonia)
(15) สาธารณรั
ฐฟิ
นแลนด์
(Finland)
(16) สหพั
นธ์
สาธารณรั
ฐเยอรมนี
(Germany)
(17) ฮั
งการี
(Hungary)
(18) สาธารณรั
ฐไอซ์
แลนด์
(Iceland)
(19) สาธารณรั
ฐอิ
นเดี
ย (India)
(20) รั
ฐอิ
สราเอล (Israel)
(21) สาธารณรั
ฐอิ
ตาลี
(Italy)
(22)ญี่
ปุ่
น (Japan)
(23) สาธารณรั
ฐเกาหลี
(Korea (Rep. Of))
(24) สาธารณรั
ฐลั
ตเวี
ย (Latvia)
(25) ราชรั
ฐลิ
กเตนสไตน์
(Liechtenstein)
(26) สาธารณรั
ฐลิ
ทั
วเนี
ย (Lithuania)
(27) ราชรั
ฐลั
กเซมเบิ
ร์
ก (Luxembourg)
(28) สาธารณรั
ฐมอลตา (Malta)
(29) สหรั
ฐเม็
กซิ
โก (Mexico)
(30) สาธารณรั
ฐนามิ
เบี
ย (Namibia)
(31) ราชอาณาจั
กรเนเธอร์
แลนด์
(Netherlands)
(32) นิ
วซี
แลนด์
(NewZealand)
(33) ราชอาณาจั
กรนอร์
เวย์
(Norway)
(34) สาธารณรั
ฐปานามา (Panama)
(35) สาธารณรั
ฐปารากวั
ย (Paraguay)
(36) สาธารณรั
ฐเปรู
(Peru)
(37) สาธารณรั
ฐโปรตุ
เกส (Portugal)
(38) สาธารณรั
ฐโรมาเนี
ย (Romania)
(39) สาธารณรั
ฐสิ
งคโปร์
(Singapore)
(40) สาธารณรั
ฐสโลวั
ก (Slovakia)
(41) สาธารณรั
ฐสโลวี
เนี
ย (Slovenia)
(42) ราชอาณาจั
กรสเปน (Spain)
(43) ราชอาณาจั
กรสวี
เดน (Sweden)
(44) สมาพั
นธรั
ฐสวิ
ส (Switzerland)
(45) สหรั
ฐอเมริ
กา (UnitedStates of America)
(46) สาธารณรั
ฐบู
รพาอุ
รุ
กวั
ย (Uruguay)
(47) สาธารณรั
ฐประชาชนจี
นยกเว้
นฮ่
องกงและมาเก๊
า
(People’sRepublicof Chinawith theexclusionof
HongKongandMacau)
ตารางที่
1 กลุ่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
ที่
มี
ความเสี่
ยงจากโรควั
วบ้
า
กลุ่
มที่
2 กลุ่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
ที่
มี
ความเสี่
ยงจากโรควั
วบ้
าที่
ควบคุ
มได้
(Controlled BSERisk)
กลุ่
มที่
3 กลุ่
มประเทศหรื
อพื้
นที่
ที่
ยั
งไม่
มี
การประเมิ
นความเสี่
ยงจากโรควั
วบ้
า (Undetermined BSERisk)
(1) แคนาดา (Canada)
(2) สาธารณรั
ฐจี
น (ไต้
หวั
น) (ChineseTaipei)
(3) สาธารณรั
ฐฝรั่
งเศส (France)
(4) สาธารณรั
ฐเฮลเลนิ
ก (กรี
ซ) (Greece)
ได้
แก่
ประเทศหรื
อพื้
นที่
ที่
ไม่
มี
รายชื่
อในกลุ่
มที่
1หรื
อ2
(5) สาธารณรั
ฐไอร์
แลนด์
(Ireland)
(6) สาธารณรั
ฐนิ
การากั
ว (Nicaragua)
(7) สาธารณรั
ฐโปแลนด์
(Poland)
(8) สหราชอาณาจั
กรบริ
เตนใหญ่
และไอร์
แลนด์
เหนื
อ
(UnitedKingdom)
ได้
จากโคณด่
านอาหารและยา (ข้
อ 6 ถึ
ง 8 ของ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
ข) แล้
วแต่
กรณี
ดั
งมี
รายละเอี
ยดดั
งตารางที่
3
6. ผู้
ใดฝ่
าฝื
นไม่
ปฏิ
บั
ติ
ให้
เป็
นไปตามประกาศ
ฉบั
บนี้
มี
ความผิ
ดตามมาตรา 47 หรื
อมาตรา 49
หรื
อมาตรา 50 แห่
งพระราชบั
ญญั
ติ
อาหาร พ.ศ.
2522 แล้
วแต่
กรณี
เช่
น ความผิ
ดตามมาตรา 50
แห่
งพระราชบั
ญญั
ติ
อาหารพ.ศ.2522มี
โทษจ�
ำคุ
ก
ตั้
งแต่
หกเดื
อนถึ
งสองปี
และปรั
บตั้
งแต่
ห้
าพั
นบาท
ถึ
งสองหมื่
นบาท
7. ประกาศฉบั
บนี้
มี
ผลบั
งคั
บใช้
ตั้
งแต่
วั
นที่
21
กรกฎาคมพ.ศ.2559 เป็
นต้
นไป
J N