54
AUG 2017
FOOD FOCUSTHAILAND
STRATEGIC
R & D
เชื่
อว่
าหลายคนน่
าจะเคยมี
อาการแบบนี้
กั
นบ้
าง เช่
น ลื
มชื่
อคนบางคน จ�
ำไม่
ได้
ว่
าจอดรถไว้
ตรงไหน ลื
มว่
าวางโทรศั
พท์
ไว้
ที่
ไหน หรื
อจ�
ำไม่
ได้
แม้
กระทั่
ง
เดิ
นเข้
ามาในครั
วท�
ำไม อาการเหล่
านี้
ถื
อเป็
นอาการหลงลื
มทั่
วไปที่
คนเราสามารถเป็
นได้
นานๆ ครั้
ง อย่
างไรก็
ดี
ปั
จจุ
บั
นอาการเหล่
านี้
ไม่
ได้
ปรากฏแค่
ใน
กลุ่
มผู้
สู
งอายุ
เท่
านั้
น เพราะเราพบว่
าแม้
แต่
หนุ่
มสาวอายุ
30 หรื
อ 40 ก็
เริ่
มมี
ปั
ญหาเรื่
องความจ�
ำบ่
อยขึ้
นและจ�
ำนวนเพิ่
มมากขึ้
นจนน่
าตกใจ
นายแพทย์
แกรี่
สมอลล์
GarySmall, M.D.
AMember of theHerbalifeNutritionAdvisoryBoard (NAB)
ATopBrainExpert from theUS and aProfessor of Psychiatry
TheUniversity of California, LosAngeles (UCLA)
เนื่
องจากปั
จจุ
บั
น คนเจเนอเรชั่
นมิ
ลเลเนี
ยลหลายล้
านคนทั่
วโลกเสพติ
ดอุ
ปกรณ์
สื่
อสารอิ
เล็
กทรอนิ
กส์
ซึ่
งท�
ำให้
สมองของคนเราได้
รั
บการกระตุ
้
นจากอุ
ปกรณ์
สื่
อสาร
เป็
นหลั
ก โดยผลส�
ำรวจของเฮอร์
บาไลฟ์
ซึ่
งท�
ำการส�
ำรวจพนั
กงานออฟฟิ
ศที่
มี
อายุ
ระหว่
าง 25-45 ปี
ในไต้
หวั
นเมื่
อปี
ที่
ผ่
านมา พบว่
า ร้
อยละ 61 ของคนท�
ำงานกลุ
่
มนี้
ใช้
อุ
ปกรณ์
อิ
เล็
กทรอนิ
กส์
นาน6-10ชั่
วโมงต่
อวั
นและร้
อยละ78รู้
สึ
กว่
าการใช้
อุ
ปกรณ์
เหล่
านี้
นานเกิ
นไปมี
ผลกระทบต่
อความจ�
ำของพวกเขา รวมทั้
งประมาณร้
อยละ 60
ยอมรั
บว่
าถึ
งขั้
นหลงลื
มข้
าวของส่
วนตั
วเลยที
เดี
ยว
ส�
ำหรั
บประเทศไทย รายงานของ Google Consumer Barometer ได้
ชี้
ให้
เห็
นว่
า
ร้
อยละ53ของคนไทยใช้
อิ
นเตอร์
เน็
ตทุ
กวั
นซึ่
งเพิ่
มขึ้
นร้
อยละ89นั
บจากปี
2556และ
ร้
อยละ70ของคนไทยใช้
สมาร์
ทโฟน เพิ่
มขึ้
นร้
อยละ126นั
บจากเมื่
อ3ปี
ที่
แล้
วเช่
นกั
น
ในยุ
คสมั
ยใหม่
เทคโนโลยี
กลายเป็
นสิ่
งส�
ำคั
ญที่
ขาดไม่
ได้
ในการด�
ำเนิ
นชี
วิ
ต-
ประจ�
ำวั
นของเราและเรารู
้
สึ
กว่
ามั
นยากที่
จะใช้
ชี
วิ
ตโดยไม่
มี
สมาร์
ทโฟนหรื
อคอมพิ
วเตอร์
ผู
้
คนพึ่
งพาเทคโนโลยี
กั
นอย่
างมากจนมั
นส่
งผลต่
อไลฟ์
สไตล์
การใช้
ชี
วิ
ต การท�
ำงาน
การพู
ดคุ
ยสื่
อสาร และการปฏิ
สั
มพั
นธ์
กั
บคนอื่
น ตลอดจนส่
งผลให้
วิ
ธี
การท�
ำงานของ
สมองเปลี่
ยนแปลงไปด้
วย
รายงานวิ
จั
ยหลายฉบั
บชี้
ให้
เห็
นว่
าชาวมิ
ลเลเนี
ยลจ�
ำนวนมากที่
โตมาในยุ
คดิ
จิ
ทั
ล
เริ่
มแสดงอาการที่
เป็
นสั
ญญาณบ่
งบอกถึ
งปั
ญหาเรื่
องความจ�
ำระยะสั
้
นและโรคเกี่
ยวกั
บ
ความจ�
ำอื่
นๆตลอดจนเสี
ยสมาธิ
ง่
ายและมี
อาการหลงลื
มด้
วย
ฝึ
กฝนสมองให้
แข็
งแรงและเฉี
ยบแหลมอยู่
เสมอ
รายงานวิ
จั
ยหลายฉบั
บของสหรั
ฐอเมริ
กาเผยว่
า พั
นธุ
กรรมเป็
นเพี
ยงหนึ่
งใน
ปั
จจั
ยเสี่
ยงของโรคสมองเสื
่
อม อาการของโรคอั
ลไซเมอร์
และสั
ญญาณอื่
นๆ ของ
ภาวะสมองเสื่
อมถอยความจริ
งแล้
วยั
งมี
ปั
จจั
ยเสี่
ยงอื่
นๆอี
กมากมายอาทิ
สภาพร่
างกาย
วิ
ธี
จั
ดการกั
บความเครี
ยดการกระตุ้
นการท�
ำงานของสมองและโภชนาการที่
เราต้
องให้
ความใส่
ใจกั
นมากขึ้
น ข่
าวดี
ก็
คื
อ ความจ�
ำของเราไม่
จ�
ำเป็
นต้
องเสื่
อมถอยไปตามวั
ย
มี
รู
ปแบบการใช้
ชี
วิ
ตมากมายที่
ช่
วยลั
บสมองของเราให้
เฉี
ยบแหลมอยู
่
เสมอ
การออกก�
ำลั
งกายก็
เป็
นสิ่
งจ�
ำเป็
นที่
ช่
วยให้
เซลล์
สมองกระฉั
บกระเฉงตื่
นตั
ว ในขณะที่
วิ
ธี
การฝึ
กฝนสมองและทบทวนความจ�
ำ เช่
น เกมส์
ปริ
ศนาอั
กษรไขว้
ซู
โดกุ
หรื
อการ-
เรี
ยนรู
้
ภาษาใหม่
ๆ ก็
ช่
วยเสริ
มสร้
างสมองได้
เหมื
อนกั
น การลดความเครี
ยดจะช่
วย
เพิ่
มพลั
งสมอง
ปรั
บโภชนาการทุ
กวั
ยทั
นภั
ยยุ
คดิ
จิ
ทั
ล
ลดความเสี่
ยงของการสู
ญเสี
ยความจ�
ำได้
เนื่
องจากคนที่
มั
กมี
อาการเครี
ยดจะมี
โอกาสเสี่
ยงเป็
นโรคด้
านสมองได้
ง่
ายกว่
า
นอกจากนี้
ยั
งมี
ผลวิ
จั
ยล่
าสุ
ดที่
ท�
ำการทดสอบกั
บอาสาสมั
ครสู
งอายุ
กว่
า900คน
พบว่
า การปรั
บนิ
สั
ยให้
หั
นมารั
บประทานอาหารที่
ดี
ต่
อสุ
ขภาพสมอง ซึ่
งอุ
ดม
ไปด้
วยโภชนาการส�
ำคั
ญอย่
างถั่
วต่
างๆ ผั
กและผลไม้
เมล็
ดถั่
ว น�้
ำมั
นมะกอก
ธั
ญพื
ชที
่
ไม่
ผ่
านการขั
ดสี
และปลานั้
นช่
วยชะลอการเสื่
อมถอยของความสามารถ
ในการเรี
ยนรู
้
และจดจ�
ำ (Cognitivedecline)ได้
เป็
นอย่
างมากกล่
าวคื
อสามารถ
ช่
วยให้
สมองแจ่
มใสอ่
อนเยาว์
ลงไปได้
อี
กถึ
ง7.5ปี
ซึ่
งแสดงให้
เห็
นว่
าโภชนาการ
มี
ความสั
มพั
นธ์
เชื่
อมโยงกั
บสุ
ขภาพสมองอย่
างไม่
อาจแยกจากกั
นได้
การ-
รั
บประทานอาหารที่
ดี
และถู
กต้
องมี
ส่
วนส�
ำคั
ญที่
ช่
วยบ�
ำรุ
งสุ
ขภาพสมองให้
สดใส
แข็
งแรง
เป็
นเรื่
องส�
ำคั
ญมากที่
คนทุ
กเพศทุ
กวั
ยต้
องตระหนั
กว่
ามี
วิ
ธี
การเสริ
ม
สมรรถภาพด้
านสมองอย่
างง่
าย และน�
ำไปใช้
ได้
จริ
งมากมาย ไม่
มี
ค�
ำว่
า
เร็
วเกิ
นไปที่
จะเริ่
มฝึ
กฝนสมองกั
นตั้
งแต่
ตอนนี้
คนรุ
่
นใหม่
อาจจะเริ่
มจากการ-
ฝึ
กทั
กษะ เช่
น เทคนิ
คการจ�
ำ และการพู
ดคุ
ยสื่
อสารแบบพบเจอหน้
ากั
น ซึ่
งจะ
ช่
วยฝึ
กเรื่
องการสบตาคู
่
สนทนาและกิ
ริ
ยาท่
าทางในการสนทนาโดยไม่
ต้
องใช้
ค�
ำพู
ดไปด้
วยในตั
ว ลองใช้
วิ
ธี
การฝึ
กฝนสมองแบบนี้
ควบคู
่
ไปกั
บการออกก�
ำลั
งกาย
เป็
นประจ�
ำทุ
กวั
น รวมทั้
งนอนหลั
บให้
เพี
ยงพอ จั
ดการกั
บความเครี
ยด และ
รั
บประทานอาหารที่
ดี
ต่
อสุ
ขภาพสมอง
Percentageof Thaiswho access the internet daily