- page 59

57
AUG 2017 FOOD FOCUS THAILAND
STRATEGIC
R & D
ต้
องมี
คุ
ณภาพดี
มี
ขนาดบริ
โภคที่
เล็
กลง และสะดวก รวมถึ
งความต้
องการ
อาหารเพื่
อสุ
ขภาพที่
มี
ปริ
มาณพอดี
ส�
ำหรั
บหนึ่
งมื้
อจะได้
รั
บความนิ
ยมมากขึ้
สะท้
อนถึ
งไลฟ์
สไตล์
ที่
เปลี่
ยนแปลงไปของสั
งคมผู้
สู
งวั
ยที่
เกิ
ดขึ้
นนี้
ด้
วย
มี
การรายงานว่
าผู
บริ
โภคที
มี
อายุ
50 ปี
ขึ้
นไป คื
อกลุ
มผู
ซื้
อสิ
นค้
าอาหาร
ที่
มี
ประโยชน์
ต่
อสุ
ขภาพและมี
อั
ตราการซื้
อซ�้
ำสู
งกว่
าค่
าเฉลี่
ย ทั้
งนี้
ขึ้
นอยู
กั
ประเภทสิ
นค้
าอย่
างไรก็
ตามปริ
มาณการซื้
อซ�้
ำอาจสู
งถึ
งร้
อยละ80 เลยที
เดี
ยว
กลุ
มอาหารและเครื่
องดื
มเชิ
งฟั
งก์
ชั
นก�
ำลั
งกลายเป็
นทางเลื
อกที่
ได้
รั
ความนิ
ยมจากการตอบสนองต่
อความกั
งวลของผู
สู
งอายุ
เช่
น การสู
ญเสี
ความทรงจ�
ำความผิ
ดปกติ
ทางการเคลื่
อนไหวความอ่
อนล้
าและประสิ
ทธิ
ภาพ
การมองเห็
นที่
ลดลง
สุ
ขภาพสมอง การเรี
ยนรู้
และจดจ�
การรั
บรู
ของคนเราเกี่
ยวข้
องกั
บกระบวนการภายในร่
างกาย ซึ่
งรวมไปถึ
ความสามารถในการเรี
ยนรู้
สิ่
งใหม่
ๆ ความคิ
ดริ
เริ่
ม การตั
ดสิ
นใจ ภาษา และ
การจดจ�
ำ เมื่
อคนเรามี
การรั
บรู้
ที่
บกพร่
องก็
จะมี
ปั
ญหากั
บกระบวนการเหล่
านี้
ซึ่
งจะส่
งผลต่
อสิ่
งที่
เคยท�
ำได้
ในชี
วิ
ตประจ�
ำวั
น และการท�
ำงานของสมอง
ที่
บกพร่
องนั้
นยั
งน�
ำไปสู
ภาวะสมองเสื่
อมซึ่
งเป็
นรู
ปแบบอาการที
พบมากที่
สุ
ในผู
ป่
วยโรคอั
ลไซเมอร์
คื
อจะมี
อาการสู
ญเสี
ยความทรงจ�
ำในระยะสั้
นและ
ระยะยาว มี
ความบกพร่
องทางกระบวนการคิ
ดและการใช้
ชี
วิ
ตประจ�
ำวั
ตามปกติ
ในประเทศญี่
ปุ
นมี
การประเมิ
นว่
ามี
ผู
ป่
วยโรคสมองเสื่
อมประมาณ
2ล้
านคนและมี
แนวโน้
มเพิ่
มขึ้
นเรื่
อยๆตามประชากรผู้
สู
งอายุ
ของประเทศ
จากการวิ
จั
ยพบว่
ากรดไขมั
นไม่
อิ่
มตั
วเชิ
งซ้
อนสายยาว (Long chain poly-
unsaturated fatty acids; LC-PUFA) ในสมองและเนื้
อเยื่
อประสาท โดยเฉพาะ
โอเมก้
า-3 และกรดไอโคซาเพนทาอี
โนอิ
ก หรื
อ EPA และกรดโดโคซาเฮกซาอี
โนอิ
หรื
อDHAอั
นเป็
นส่
วนประกอบส�
ำคั
ญของกรดไขมั
นไม่
อิ่
มตั
วเชิ
งซ้
อนดั
งกล่
าว
นั้
นมี
ความส�
ำคั
ญต่
อการควบคุ
มการท�
ำงานของสมองนอกจากนี้
ระดั
บโอเมก้
า-3
สู
งซึ่
งพบในเลื
อดอาจช่
วยเรื
องการท�
ำงานของระบบสมองในผู
สู
งอายุ
อี
กด้
วย
LongitudinalStudyofAgingหรื
อโครงการวิ
จั
ยผู
สู
งอายุ
โดยสถาบั
นวิ
จั
ด้
านศาสตร์
แห่
งการมี
ชี
วิ
ตยื
นยาวแห่
งประเทศญี่
ปุ
น (Japanese National
Institute forLongevitySciences)ได้
เปิ
ดเผยผลการศึ
กษาผู
สู
งอายุ
ญี่
ปุ
นเพศชาย
จ�
ำนวน 232 คน และเพศหญิ
งจ�
ำนวน 198 คน ที่
มี
อายุ
ระหว่
าง 60-79 ปี
โดยตรวจประเมิ
นภาวะสมองเสื่
อมและอาการซึ
มเศร้
า พบว่
าปริ
มาณ DHA
ในระดั
บสู
งปานกลางที่
ตรวจพบในผู
สู
งอายุ
นั้
นมี
ส่
วนช่
วยป้
องกั
นภาวะ
สมองเสื่
อม และอี
กหนึ่
งกลุ
มการทดลองคื
อกลุ
มคนญี่
ปุ
นทั้
งชายและหญิ
อายุ
ระหว่
าง 45-70 ปี
จ�
ำนวนมากกว่
า 1,600 คน พบว่
าระดั
บกรดไขมั
โอเมก้
า-3 และพฤติ
กรรมการบริ
โภคปลาเป็
นประจ�
ำมี
ความสั
มพั
นธ์
แบบ
ตรงกั
นข้
ามกั
บระดั
บความเสี่
ยงของสมองเสื่
อมและอาการซึ
มเศร้
าโดยรวม
อย่
างไรก็
ตามอาการซึ
มเศร้
าเกิ
ดขึ้
นได้
โดยทั่
วไปกั
บผู
สู
งอายุ
ที่
มี
การท�
ำงาน
ของสมองผิ
ดปกติ
และมี
ความเสี่
ยงมากขึ้
นต่
อการเกิ
ดโรคสมองเสื่
อมภายหลั
การทดลองเชิ
งคลิ
นิ
กแสดงให้
เห็
นถึ
งประสิ
ทธิ
ภาพของการเสริ
มโอเมก้
า-3
ต่
อการบรรเทาอาการซึ
มเศร้
า ยื
นยั
นด้
วยผลลั
พธ์
กว่
าครึ่
งหนึ่
งที่
เป็
นบวก
โดยในการทดลองแบบสุ
มกั
บผู
สู
งอายุ
ที่
มี
ภาวะสมองเสื่
อมเล็
กน้
อยจ�
ำนวน
50คนอายุ
65ปี
พบว่
ากลุ่
มที่
เสริ
มปริ
มาณDHA ในปริ
มาณสู
ง (DHA 1.55
กรั
มและEPA0.40กรั
มต่
อวั
น)หรื
อเสริ
มEPAในปริ
มาณสู
ง (EPA1.67กรั
และ DHA 0.16 กรั
มต่
อวั
น) เป็
นเวลามากกว่
า 6 เดื
อน มี
การเปลี่
ยนแปลง
สภาวะอาการซึ
มเศร้
าที่
ดี
ขึ้
นอย่
างมี
นั
ยส�
ำคั
ญ ในขณะที่
กลุ
มที่
เสริ
มปริ
มาณ
DHAสู
งก็
ให้
ผลลั
พธ์
ทางด้
านความสามารถในการสื่
อสารที่
คล่
องแคล่
วขึ้
นอกจากโอเมก้
า-3 แล้
ว วิ
ตามิ
นบี
ยั
งมี
ส่
วนช่
วยในการท�
ำงานของระบบ
ประสาทและสมอง ยกตั
วอย่
างเช่
น ระดั
บปริ
มาณวิ
ตามิ
นบี
12 ที่
ต�่
ำจะมี
ผล
ท�
ำให้
เกิ
ดการสู
ญเสี
ยความทรงจ�
ำและภาวะสมองเสื่
อม โดยการทดลองแบบ
สุ
มแสดงให้
เห็
นว่
าการเสริ
มวิ
ตามิ
นบี
12 และกรดโฟลิ
กจะช่
วยควบคุ
การท�
ำงานของระบบการรั
บรู
การให้
ผู
สู
งอายุ
รั
บประทานวิ
ตามิ
นบี
12ปริ
มาณ
100ไมโครกรั
มและกรดโฟลิ
กปริ
มาณ400ไมโครกรั
มอย่
างต่
อเนื่
องทุ
กวั
นนั้
ภายหลั
ง 24 เดื
อน พบว่
าวิ
ตามิ
นบี
12 และกรดโฟลิ
กช่
วยเพิ่
มประสิ
ทธิ
ภาพ
การท�
ำงานของระบบการรั
บรู
โดยเฉพาะการจดจ�
ำแบบทั
นที
และการจดจ�
ำได้
ในภายหลั
งในกรณี
ของการขาดวิ
ตามิ
นบี
12มี
สาเหตุ
มาจากการขาด Intrinsic
Factor (IF) ซึ่
งเป็
นสารที่
เกิ
ดขึ้
นในเซลล์
กระเพาะอาหารท�
ำหน้
าที่
ในการสร้
าง
และดู
ดซึ
มวิ
ตามิ
นบี
12 หรื
อในกรณี
ที่
กระเพาะอาหารมี
น�้
ำย่
อยออกมา
ไม่
เพี
ยงพอ โดยภาวะทั้
งสองอย่
างนี้
มั
กพบในผู้
สู
งอายุ
เป็
นส่
วนใหญ่
ความท้
าทายของการเปลี่
ยนแปลงทางกายภาพ
อายุ
ที่
เพิ่
มขึ้
นจะพบการเสื่
อมสภาพของร่
างกายไปตามกาลเวลา สั
งเกตจาก
มวลไขมั
นในร่
างกายที่
เพิ่
มขึ้
น และการลดลงของมวลกล้
ามเนื้
อ น�
ำไปสู
การเปลี่
ยนแปลงของระบบการเผาผลาญของร่
างกาย มี
การกระจายตั
การสะสมไขมั
นในร่
างกายจากทั้
งที่
อยู
ใต้
ผิ
วหนั
งไปจนถึ
งช่
องท้
อง ในขณะที่
มวลกล้
ามเนื
อเริ่
มลดลงอั
นมี
สาเหตุ
มาจากการลดขนาดและความไม่
แข็
งแรง
ของกล้
ามเนื้
อลาย
ในทางการแพทย์
มี
การยื
นยั
นว่
ากรดคอนจู
เกเตดไลโนลี
อิ
ก หรื
อ CLA
ช่
วยลดมวลของไขมั
นลง โดยเพิ่
มน�้
ำหนั
กตั
วที่
ปราศจากไขมั
น และยั
งมี
ประสิ
ทธิ
ภาพในการสลายไขมั
นช่
วงเอวและหน้
าท้
องจากการศึ
กษาเชิ
งคลิ
นิ
แบบ Meta-analysis หลายฉบั
บยั
งสรุ
ปว่
า CLA สามารถช่
วยลดมวลไขมั
ในร่
างกายได้
ถึ
ง 0.09 กิ
โลกรั
มต่
อสั
ปดาห์
ผลลั
พธ์
นี้
แม้
จะแสดงให้
เห็
เพี
ยงเล็
กน้
อยในตอนแรก แต่
ก็
ถื
อว่
ามี
นั
ยส�
ำคั
ญเมื่
อพิ
จารณาเที
ยบกั
ประชากรที่
มี
น�้
ำหนั
กตั
วมากขึ้
นในปั
จจุ
บั
น โดยประชากรในประเทศที่
พั
ฒนา
แล้
วซึ่
งมี
น�้
ำหนั
กตั
วเพิ่
มขึ้
นเฉลี่
ย0.4กิ
โลกรั
มต่
อปี
(0.009กิ
โลกรั
ต่
อสั
ปดาห์
) ผลที่
ตามมาก็
คื
อ ผู
สู
งอายุ
จะมี
น�้
ำหนั
กตั
วที่
เพิ่
มขึ้
ได้
ตลอด โดย CLA จะมี
ส่
วนช่
วยป้
องกั
นการสะสมของมวลไขมั
ในผู้
สู
งอายุ
1...,49,50,51,52,53,54,55,56,57,58 60,61,62,63,64,65,66,67,68,69,...90
Powered by FlippingBook