e-magazine - page 30

Food FocusThailand
OCTOBER 2015 30
มะรุม ( Moringa oleifera LAM.) เป็นพืช
พบได้ทั่วไปในหลายๆ ประเทศ เช่ น อินเดี ย
ปากีสถาน ฟิลิปปิ นส์ รวมทั้งประเทศไทยด้วย
ในส่วนของเมล็ ดมะรุมพบว่ าอุดมไปด้ วยคุณค่า
ทางโภชนาการ มีโปรตีนและกรดไขมันต่างๆ สูง
คือ กรดไขมั นชนิดไม่อิ่ มตัวเชิงเดี่ยวที่เรี ยกว่า
โอเมก้า-9ในปริมาณสูงซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
จากรายงานการวิจัยพบว่าน�้ ำมันที่อยู ่ในเมล็ ด-
มะรุมสามารถรักษาโรคข้างเคี ยงเกี่ยวกับผิวหนัง
นอกจากนี้ ในส่ วนต่างๆ ของมะรุมยังสามารถ
รักษาโรคไขข้ออักเสบหรือรูมาตอยด์ สารออกฤทธิ์-
ทางชีวภาพ (Bioactive compounds) เช่ น
Benzyl-isothiocyanate, Niazimicin, Niazirin,
Niazicin A, และ Benzyl-thiocarbamate
มีศักยภาพทางยาคื อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิ ต
และช่วยปรับสมดุลของร่างกายถือเป็นยาสมุนไพร
ที่ใช้แพร่หลายนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันส่งผลให้
กระแสความนิยมในการบริโภคมะรุมเพิ่มมากขึ้ น
และมีการบริ โภคในปริมาณมากในรูปของผงมะรุ ม
ซึ่งน�ำใบมาท�ำเป็นผงแห้ งบ้างหรือน�ำส่วนของเมล็ด
มาท�ำเป็นผงแห้ งก็มี โดยไม่ค� ำนึงถึ งผลกระทบ
Moringa (Moringaoleifera LAM.) isaplant found inmanycountries
suchas India,Pakistan, thePhilippines,andThailand.Moringaseeds
are richofnutrients,proteins,andvarious fattyacidssuchasomega-9
monounsaturated fattyacidswhichhavebeneficial effect for human
health.Researchhasalsoshown that oil in themoringaseedcanbe
used to treat skinconditions.Moreover, variouspartsof themoringa
plant can also treat arthritis or rheumatism. Bioactive compounds
such asBenzyl-isothiocyanate, Niazimicin, Niazirin, NiazicinA, and
Benzyl-thiocarbamate have medicinal potential to stimulate blood
circulationandadjust physiological balance.Moringahas longbeen
considered as amedicinal herb and has beenwidely used from the
past to the present. Currently, there is a growing trend to consume
moringa, especially theconsumptionof highamount indriedpowder
making frommoringa leavesorseedswithoutconsidering theadverse
effect resulting from high dose consumption.
When considering the consumption of moringa as a food, a
traditional dish called sour moringa soup is the most popular dish
among Thais. In order to promote the consumption of moringa as
food form rather than supplement form, boiled moringa pods
containing flesh and seeds together were chosen to evaluate its
potential to prevent colorectal cancer. The moringa pods were
prepared and mixed in animal feed by choosing 2 grams per 1 kg
human bodyweight per day.
mekar.ca/cache/1000x0/moringa_1
รูปที่ 1 การออกแบบการวิจัยเพื่อศึกษาผลของฝักมะรุมต้มต่ อศักยภาพป้องกันและผลบรรเทาอาการ
ของมะเร็งล�ำไส้ใหญ่
Figure 1 Study design toevaluate theprotectiveand therapeuticeffects of boiledmoringapods
against colorectal cancer
ที่มา/Source: Research design in studying the efficacy of boiledmoringa pods in the process of developing
colon cancer (Budda, 2011)
ที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับปริ มาณมากเกินไป
เมื่อมองรูปแบบการบริโภคมะรุมเป็นอาหาร พบว่าเมนูอาหารพื้ นบ้าน
อย่างแกงส้มมะรุมเป็นเมนูอาหารไทยที่นิยมบริโภคในท้องถิ่น เพื่อเป็นการ-
ส่งเสริมการบริโภคมะรุมในรูปแบบอาหารมากกว่าในรูปแบบยา จึ งเลือก
ฝักมะรุมต้ มซึ่งเป็นส่วนผลมะรุม จะมี ทั้งส่ วนของเนื้อและเมล็ดรวมกันมา
ศึกษาศักยภาพในเชิงป้องกันมะเร็ งล�ำไส้ใหญ่ โดยรูปแบบที่เตรียมให้สัตว์
ทดลองกินจะน�ำมาผสมในอาหารเพื่อให้ใกล้เคียงกั บการบริโภคในมนุษย์
โดยการเลือกปริมาณที่จะศึกษาในสั ตว์ทดลองเทียบเคี ยงกับปริ มาณ
การบริโภคคือ2กรั มต่อน�้ำหนั กตัวคน1กิโลกรัมต่อวัน
จากการศึกษาคุ ณสมบัติ ในการต้านภาวะการอั กเสบของมะเร็ง-
ล�ำไส้ใหญ่ ของฝักมะรุมต้ม เมื่ อทดสอบในหนูเม้าส์ โดยออกแบบการวิจัย
เป็น 3 รูปแบบ คือ ศึกษาความปลอดภั ยในการบริโภค ศึกษาการป้องกัน
มะเร็งล�ำไส้ใหญ่ และศึกษาการบรรเทาอาการของมะเร็ งล�ำไส้ใหญ่
แสดงผลดังรูปที่ 1-2 ซึ่ งจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่ าปริมาณการบริโภค
มะรุมในระยะที่เป็นโรคมะเร็งล� ำไส้ใหญ่แล้วมีความแตกต่างจากการกิน
มะรุมในระยะก่อนการเกิดโรคมะเร็ งล�ำไส้ใหญ่
ศึกษาความปลอดภัยในการบริโภค
โดยให้หนูทดลองกลุ ่ มที ่อายุน้อยกินฝักมะรุ มต้มซึ่ งอยู่ในรูปของผงมะรุมต้ม
ผสมอาหารปกติ (ตัวอย่างฝักมะรุมที่เตรี ยมแล้วน�ำมาผสมในอาหารให้หนูกิน
แสดงในรูปที่ 3 เป็นระยะเวลา 5 สั ปดาห์ และหนูกลุ่มที่ โตเต็มที่ แล้ ว
กินฝักมะรุมต้มเป็นระยะเวลา 15 สั ปดาห์ โดยแบ่งปริมาณการบริโภคเป็น
3ระดับ ได้แก่ 10 เท่า25 เท่าและ50 เท่าของปริมาณการบริโภคฝักมะรุ มต้ม
ของคนที่ กินมะรุม ซึ่งเป็นปริ มาณที่ค่อนข้างสูงเมื ่อเที ยบกับปริมาณการ-
บริโภคโดยทั่วไป
Week
Group
1
Boiled
moringa
Control Group
(not receiving
carcinogens)
Control Group
(receiving
carcinogens)
Preventive
Potential
Treatment
Potential
Boiled
moringa
Boiled
moringa
15weeks
15weeks
Boiled
moringa
Group
2
Group
3-5
Group
6-8
Group
9-11
Group
12-14
Research
Design
AOM: CarcinogenAzoxymethane
(10mg/kg. BW, i.p.)
DSS: Tumor promoter Dextran sodium
sulfate (2% indrinkingwater for
1week)
Boiledmoringa: Regular feedmixedwith boiled
moringa powder 1.5%, 3%
and6%
: Period of time the laboratorymice
receive feedmixedwithboiled
moringa powder
: Period of time the laboratorymice
received normal feed
: Rest period for themice
AOM
AOM
AOM
DSS
DSS
DSS