SCIENCE &
NUTRITION
41
JUN 2016 FOOD FOCUSTHAILAND
V
ariouspartsof
B.acutangula
possessmedicinalproperties.
Forexample, its leavesexhibitantinociceptive,antidiarrheal,
and central nervous system (CNS) depressant activities.
Flowers possess antioxidant activity [6], while roots are used for
laxativeandemeticeffects [7]. Fruitsareused for coldand cough
relief through anti-inflammatory activity. Seed is a good source of
somenutrients suchas calcium, fiber and carbohydrates that can
be used for colic alleviation [8]. Barks with high antioxidants are
used foranti-malariaagentsand fever reducer.Barksalsopossess
antimicrobial activityagainst
Escherichiacoli
,
Bacillussubtilis
and
Aspergillus niger
[9]. These microorganisms are rarely causes
serious illness in human; however, some serotypes of
E. coli
, a
Gram-negativebacterium, cancause foodpoisoning.
B. subtilis
is
aGram-positive bacterium that has beenwidely studied inmany
perspectives in laboratory, while
A. niger
is the most commonly
fungus in genus
Aspergillus
. Theremicroorganisms can be used
as the models for further study on the effect of
B. acutangula
against pathogens.
In Thailand, the commonly consumed part of
B. acutangula
is leaf. Previous studies had been suggested that
B. acutangula
leaves possessed a high level of antioxidant activity, and this
activitymight be resulting fromsynergisticeffect of phytochemical
constituents [10]. Anti-diabetic activity was also reported as
decreased biochemical parameters including blood glucose and
lipid profile [11]. Further study indicated that leaves exhibited
antiepileptic properties frommonoamines suchas noradrenaline,
dopamine,andserotonin [3].The leavesalsoexhibitedantimicrobial
propertyagainst
B. pseudomallei
,melioidosis inducingbacterium,
possibly resulting from synergistic effect of active steroids [12].
Interestingly, the leavesexhibitedsignificant hepatoprotective
and central nervous system (CNS) depressant activities [13]. The
depressant effect might be due to the function of flavonoids that
act as ligand (benzodiazepine-like molecule) of gamma-amino
butyric acid type A (GABAA) receptors in the CNS, resulting in
elevated level of GABA transport into brain [2]. Since GABA is
a main inhibitory neurotransmitter that functions as neuronal
excitability reducer inmammalianCNS, increasing level of GABA
can lead todepressant effect. Besides, the study inanimalmodel
(rat) suggested that
B. acutangula
leaveswerenon-toxicandsafe
for long term intake [2,3,11].Therefore,
B.acutangula
consumption
canpossiblysupporthealthbenefit in termofbeinggreenmedicine.
ส่
วนต่
างๆของต้
นกระโดนน�้
ำมี
ฤทธิ์
ทางเภสั
ชวิ
ทยามากมายตั
วอย่
างเช่
นใบกระโดน
มี
ฤทธิ์
ลดอาการปวดกดประสาทส่
วนกลาง เป็
นยาแก้
ท้
องเสี
ยส่
วนดอกกระโดน
มี
ฤทธิ์
ต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระ [6] ในขณะที่
รากใช้
เป็
นยาระบายท�
ำให้
อาเจี
ยนท้
องร่
วง
[7]ผลกระโดนมี
ฤทธิ์
ต้
านการอั
กเสบจึ
งถู
กใช้
บรรเทาอาการไอ เป็
นไข้
เมล็
ดจากผลกระโดน
เป็
นแหล่
งอาหารชั้
นดี
เช่
น แคลเซี
ยม ใยอาหาร คาร์
โบไฮเดรต และใช้
บรรเทาอาการ
จุ
กเสี
ยด [8] เปลื
อกไม้
มี
สารต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระสู
งจึ
งถู
กใช้
เป็
นยารั
กษามาลาเรี
ยและลดไข้
รวมถึ
งมี
ฤทธิ์
ต้
านจุ
ลชี
พ เช่
น แบคที
เรี
ย
Escherichia coli
แบคที
เรี
ย
Bacillus subtilis
และเชื้
อรา
Aspergillus niger
[9] จุ
ลชี
พเหล่
านี้
ปรกติ
ไม่
ก่
อให้
เกิ
ดโรคร้
ายแรงในมนุ
ษย์
อย่
างไรก็
ตามแบคที
เรี
ย
Escherichiacoli
(แบคที
เรี
ยแกรมลบ)บางสายพั
นธุ์
ก่
อให้
เกิ
ด
อาการอาหารเป็
นพิ
ษส่
วนแบคที
เรี
ย
Bacillus subtilis
เป็
นแบคที
เรี
ยแกรมบวกที่
มั
กถู
ก
น�
ำมาศึ
กษาในห้
องปฎิ
บั
ติ
การในด้
านต่
างๆ ในขณะที่
Aspergillus niger
เป็
นเชื้
อราที่
พบมากในกลุ
่
ม
Aspergillus
ทั้
งนี้
จุ
ลชี
พเหล่
านี
้
สามารถน�
ำมาใช้
เป็
นต้
นแบบในการศึ
กษา
ผลการต้
านจุ
ลชี
พก่
อโรคในมนุ
ษย์
ของกระโดนน�้
ำต่
อไป
ในประเทศไทยใบกระโดนมั
กถู
กน�
ำมาบริ
โภคซึ่
งมี
รายงานที่
ชี้
ให้
เห็
นว่
าในส่
วนของใบ
นั้
นมี
ฤทธิ์
ต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระสู
ง เนื่
องมาจากปฎิ
กิ
ริ
ยาการเสริ
มฤทธิ์
กั
นของสารส�
ำคั
ญ
หลากหลายชนิ
ดที
่
เป็
นองค์
ประกอบในกระโดนน�้
ำ [10] และมี
รายงานวิ
จั
ยที
่
สรุ
ปว่
า
ใบกระโดนน�้
ำมี
ฤทธิ์
ต้
านเบาหวาน เนื่
องจากสามารถลดระดั
บน�้
ำตาลและไขมั
นในเลื
อด [11]
นอกจากนี
้
ยั
งรายงานว่
ามี
ฤทธิ์
ต้
านอาการชั
ก [3] และยั
งแสดงฤทธิ์
ต้
านจุ
ลชี
พต่
อเชื้
อ
Burkholderia pseudomallei
เนื่
องมาจากการเสริ
มฤทธิ์
กั
นของสารสเตอรอยด์
ใน
ใบกระโดนน�้
ำ โดย
B. pseudomallei
เป็
นแบคที
เรี
ยแกรมลบที่
เป็
นสาเหตุ
ของโรค
เมลิ
ออยโดสิ
ส และพบว่
ามี
อั
ตราป่
วยตายสู
ง ซึ่
งเป็
นโรคที่
พบมากในคนที่
ท�
ำงานสั
มผั
ส
ดิ
นและน�้
ำ เช่
นอาชี
พชาวนา โดยเฉพาะในภาคอี
สาน [12]
นอกจากนี้
ใบกระโดนยั
งแสดงฤทธิ
์
ในการป้
องกั
นตั
บจากสารพิ
ษ และมี
ฤทธิ์
ในการ
กดประสาทส่
วนกลาง [13]ส่
งผลให้
คลายความวิ
ตกกั
งวลช่
วยผ่
อนคลายความตึ
งเครี
ยด
โดยเป็
นผลจากการท�
ำงานของสารฟลาโวนอยด์
ในใบกระโดนที่
ท�
ำหน้
าที่
เสมื
อนตั
วรั
บของ
สารกาบา ซึ่
งเป็
นสารสื่
อประสาทในสมอง [2] นอกจากนี้
จากหลายรายงานวิ
จั
ยศึ
กษา
เกี่
ยวกั
บพิ
ษวิ
ทยาของใบกระโดนพบว่
าการบริ
โภคใบกระโดนเป็
นเวลานานไม่
ก่
อให้
เกิ
ด
ความเป็
นพิ
ษต่
อร่
างกาย [2,3,11] ดั
งนั้
นการบริ
โภคกระโดนจึ
งมี
แนวโน้
มที่
จะเป็
น
ประโยชน์
ต่
อสุ
ขภาพในแง่
ของการเป็
นยาจากธรรมชาติ
เอกสารอ้
างอิ
ง/References
1. Asaduzzaman, M., Rana,MS., Hasan, SR., Islam, R. andDas, N. 2015. Phytochemical andantioxidant investigationof
Barringtoniaacutangula
(L.). European Journal of
Medicinal Plants 8(4):231-8.
2. Balaji,P.,Thirumal,M.,Kumudhaveni,B.,Kishore,G.andAliya,A.2012.Central nervoussystemdepressantactivityof
Barringtoniaacutangula
(Linn.)Gaertn.DerPharmacia
Lettre4:1786-92.
3. Sandhyarani, G., Swathi, K., Kiran, G., Kumar, K.P. andRamesh, A. 2014. Screeningof phytochemical and roleof
Barringtoniaacutangula
(L.) extracts onbiogenicamines
concentrations in rat brain. Asian Journal of Pharmaceutical Science&Technology 4(1):61-4.
4. Mohan,A.andSasiKumar,R.2014.Antioxidant,antimicrobial studiesand investigationof secondarymetabolites fromstembarkof
Barringtoniaacutangula
(L.). International
Journal of Pharmacognosy andPhytochemical Research6(4):967-72.
5. Robin, E.M. andDaniel,M. 2011. Phytochemical andpharmacognostic studies on thebark and leaves of
Barringtoniaacutangula
Gaertn. International Journal of Pharma
andBioSciences 2(1):128-34.
6. Sandhyarani, G., Swathi, K., Kiran, G., PraveenKumar, K. andRamesh, A. 2014. In vitroanti-oxidants activity of flowers of
Barringtoniaacutangula
L. International Journal
of Pharmacological ScreeningMethods 4(2):81-4.
7. Barringtoniaacutangula (L.)GaertnTheBotanicalGardenOrganization:BGOPlantDatabase; [cited201513OCT].Available from:www.qsbg.org/database/botanic_book%20
full%20option/search_detail.asp?botanic_id=1561.
8. Patil, P.D. andChavan, N. 2014. Proximateanalysis andmineral characterizationof
Barringtonia
species. International Journal of Advances inPharmaceutical Analysis
4(3):120-2.
9. Rahman, M.M., Polfreman, D., MacGeachan, J. andGray, A.I. 2005. Antimicrobial activities of
Barringtoniaacutangula.
PhytotherapyResearch19(6):543-5.
10. Kathirvel, A. andSujatha, V. 2012. Phytochemical analysis andantioxidant activity of
Barringtoniaacutangula
(L.) Gaertn. leaves. International Journal of Pharmacy and
Pharmaceutical Sciences 4(2):277-81.
11. Gregory,M.,Khandelwal,V.K.M.,Mary,R.A.,Kalaichelvan,V. andPalanivel,V. 2014.
Barringtoniaacutangula
improves thebiochemical parameters indiabetic rats.Chinese
journal of natural medicines 12(2):126-30.
12. Panomket, P. 2012. Bioactivity of plant extracts against
Burkholderiapseudomallei.
AsianBiomedicine6(4):619-23.
13. Mishra, S., Sahoo, S., Rout, K., Nayak, S., Mishra, S. andPanda, P. 2011. Hepatoprotectiveeffect of
Barringtoniaacutangula
Linn. leaves oncarbon tetrachloride-induced
acute liver damage in rats. Indian Journal of Natural Product Resources 2(4):515-9.