Food FocusThailand
OCTOBER 2015
49
อุ
ณหภู
มิ
ออกไปจากองค์
ประกอบที่
ค�
ำนวณได้
ท�
ำให้
ความชื้
น
และอุ
ณหภู
มิ
ไม่
มี
ผลกระทบต่
อการตรวจสอบกลิ่
นจากนั้
นสร้
าง
เงื่
อนไขหรื
อขอบเขตในการวิ
เคราะห์
ขึ้
นมา เพื่
อเปรี
ยบเที
ยบและ
จ�
ำแนกกลิ่
นบอกความแรงของกลิ่
นหรื
อเก็
บข้
อมู
ลของกลิ่
นใหม่
ลงในฐานข้
อมู
ล
ความส�
ำคั
ญของการตรวจวั
ดกลิ่
นในอุ
ตสาหกรรม-
อาหาร
กลิ่
นและรสชาติ
เป็
นปั
จจั
ยส�
ำคั
ญที่
บอกคุ
ณภาพของอาหารและ
ตอบสนองต่
อความต้
องการที่
หลากหลายของผู
้
บริ
โภคได้
เนื่
องจากกลิ่
นมี
ทั้
งกลิ่
นที่
พึ
งประสงค์
และกลิ่
นที่
ไม่
พึ
งประสงค์
ดั
งนั้
น การตรวจวั
ดกลิ่
นจึ
งมี
ทั้
งสองลั
กษณะ และสามารถใช้
ได้
กั
บทั้
งขั้
นตอนของการพั
ฒนาผลิ
ตภั
ณฑ์
ใหม่
รวมถึ
งขั้
นตอน
การตรวจสอบและควบคุ
มคุ
ณภาพของผลิ
ตภั
ณฑ์
ใน
กระบวนการผลิ
ต ในอดี
ตการตรวจวั
ดกลิ่
นท�
ำโดยการทดสอบ
ทางประสาทสั
มผั
ส (Sensory test) ซึ่
งอาศั
ยผู
้
เชี่
ยวชาญ
หรื
อใช้
เครื่
องมื
อตรวจวั
ดที่
มี
ราคาแพงอย่
าง GC (Gas
Chromatography) ท�
ำให้
ไม่
สามารถตรวจวั
ดได้
บ่
อยครั้
งหรื
อ
ตรวจวั
ดตั
วอย่
างจ�
ำนวนมากได้
ส่
งผลให้
การพั
ฒนาผลิ
ตภั
ณฑ์
ต้
องใช้
เวลานานในการลองผิ
ดลองถู
กหรื
อการควบคุ
มคุ
ณภาพ
ของผลิ
ตภั
ณฑ์
ท�
ำได้
ไม่
ดี
เท่
าที่
ควร
การประยุ
กต์
ใช ้
งานจมู
กอิ
เล็
กทรอนิ
กส์
ใน
อุ
ตสาหกรรมอาหาร
การประยุ
กต์
ใช้
งานจมู
กอิ
เล็
กทรอนิ
กส์
เพื่
อตรวจวั
ดกลิ่
นอาหาร
และวั
ตถุ
ดิ
บที่
มี
ใช้
ในอุ
ตสาหกรรมอาหารจะส่
งผลให้
การตรวจ
วั
ดกลิ่
นมี
ความแม่
นย�
ำและรวดเร็
วมากขึ้
น สามารถบริ
หาร
จั
ดการได้
ตั้
งแต่
ขั้
นตอนของการตรวจสอบคุ
ณภาพของวั
ตถุ
ดิ
บ
ก่
อนเข้
าไปในกระบวนการผลิ
ตการทดสอบกลิ่
นของอาหารหรื
อ
เครื่
องปรุ
งที่
อยู
่
ระหว่
างผลิ
ตไปจนถึ
งผลิ
ตส�
ำเร็
จ นอกจากนี้
การที่
จมู
กอิ
เล็
กทรอนิ
กส์
สามารถตรวจวั
ดกลิ่
นได้
รวดเร็
วและมี
ต้
นทุ
นต่
อการตรวจ (Cost per test)
ที่
ต�่
ำกว่
าการตรวจวั
ดด้
วยเครื่
อง GC มาก (ประมาณ 10 – 20 เท่
า) ท�
ำให้
การพั
ฒนาผลิ
ตภั
ณฑ์
ใหม่
เป็
นไปได้
อย่
างรวดเร็
ว ส่
งผลให้
ผู
้
ผลิ
ตสิ
นค้
าสามารถออกผลิ
ตภั
ณฑ์
ใหม่
เข้
าสู
่
ตลาดได้
เร็
วสามารถ
ตอบสนองต่
อความต้
องการของผู้
บริ
โภคและเป็
นการเพิ่
มขี
ดความสามารถในการแข่
งขั
น
Importanceof Flavors andOdorsDetection inFood Industry
Flavorsandodorsare important quality factorsof foodproducts. They canbeusedby the
foodmanufacturer to response tovariationof customers’ needs. Since thereare favorable
andunfavorable flavorsandodors, detection shouldbeapplied inboth cases. In thepast,
weusesensory testwhere thepanel of experts test thesmell of thesamplesbyusing their
olfactory and gustatory senses, or we can send the samples to the laboratory to perform
GC (GasChromatography) analysiswhich takes long time and costs a lot. Therefore, we
cannot frequently test the samples that should be tested to perform good quality control
and the number of the samples in each test should be kept small to reduce the cost. The
same situationoccurswhenwedevelopnewproduct whichneeds recipeadjustment and
tuningwithmany trials and errors on flavors and odors.
Applicationsof ElectronicNose inFood Industry
The electronic nose can be applied to detect flavors and odors of food products and the
rawmaterials. By the short analysis time and the precise results, goodmanagement can
beappliedstart from the rawmaterial or incoming inspectionstepbeforebad rawmaterial
getting into theproductionstep,orapplied to the intermediatestepbetweeneachproduction
step, or applied to the final products’ quality control step. Since the cost per test of the
analysisperformedbyelectronicnose ismuch lower than that ofGC (approximately10-20
times), new product development can be done in a very short time and this result in the
short time-to-market of the new products and hence giving the advantage to the food
manufacturer to compete in today’smarket.
DanielleMarroquin
Zugr