22
APR2016
FOOD FOCUSTHAILAND
SURF
THE AEC
40,085.30 ล้
านเหรี
ยญสหรั
ฐ คิ
ดเป็
นร้
อยละ 71 ของการค้
าอิ
นเดี
ย-AEC
การพั
ฒนาเส้
นทางขนส่
งทางบกเชื่
อมกั
บอาเซี
ยนจึ
งมี
ความส�
ำคั
ญต่
ออิ
นเดี
ยและ
ไทยอย่
างมาก
โครงการทางหลวง 3 ประเทศ อิ
นเดี
ย-เมี
ยนมา-ไทย เป็
นความร่
วมมื
อ
ระหว่
างรั
ฐบาลของทั้
ง3ประเทศ เริ่
มต้
นจากเมื
องโมเรห์
ในรั
ฐมณี
ปุ
ระ ไปสิ้
นสุ
ด
ลงที่
อ�
ำเภอแม่
สอด จั
งหวั
ดตาก ของไทย โดยผ่
านเมื
องมั
ณฑะเลย์
ในเมี
ยนมา
ซึ่
งล่
าสุ
ดการปรั
บปรุ
งถนนใกล้
แล้
วเสร็
จและรั
ฐบาลอิ
นเดี
ยจะเปิ
ดเส้
นทางเดิ
นรถ
โดยสารประจ�
ำทางสายใหม่
ระหว่
างเมื
องอิ
มผาลกั
บเมื
องมั
ณฑะเลย์
ภายในเดื
อน
ตุ
ลาคม 2559 โดยจะใช้
เวลาเดิ
นทาง 14 ชั่
วโมง ขณะที่
ทางหลวงเชื่
อม
มั
ณฑะเลย์
-เนปิ
ดอร์
-ย่
างกุ
้
ง ความยาวกว่
า 563 กิ
โลเมตร เป็
นทางหลวง
ระหว่
างเมื
องระดั
บสากลก็
ได้
เปิ
ดใช้
แล้
ว โดยใช้
เวลาเดิ
นทางเพี
ยง 7 ชั่
วโมง
ในส่
วนของประเทศไทยก็
ได้
ให้
การช่
วยเหลื
อด้
านงบประมาณแก่
เมี
ยนมาในการ
ปรั
บปรุ
งเส้
นทางจากแม่
สอดไปยั
งจั
งหวั
ดกอกะเร็
ก ระยะทาง 45 กิ
โลเมตร
ให้
สามารถเดิ
นรถได้
สองทาง ช่
วยให้
เดิ
นทางได้
สะดวก รวดเร็
ว และปลอดภั
ย
มากขึ้
น จากเดิ
มที่
เป็
นถนนช่
องทางเดี
ยว ท�
ำให้
การเดิ
นทางผ่
านแม่
สอด-
เมี
ยวดี
-ท่
าตอน-ย่
างกุ
้
ง ใช้
เวลาเพี
ยง 6-7 ชั่
วโมงเท่
านั้
น จากเดิ
มที่
ใช้
เวลา
หลายวั
น นั่
นก็
หมายความว่
าหากเดิ
นทางหรื
อขนส่
งสิ
นค้
าจากแม่
สอดไปยั
ง
ชายแดนอิ
นเดี
ยจะใช้
เวลาเพี
ยง 28ชั่
วโมง
ชาวเมี
ยนมาเชื้
อสายอิ
นเดี
ย: กาวใจการค้
าไทย-อิ
นเดี
ย
มั
ณฑะเลย์
เป็
นศู
นย์
กลางทางเศรษฐกิ
จส�
ำคั
ญของเมี
ยนมา มี
พ่
อค้
านั
กธุ
รกิ
จ
เชื้
อสายอิ
นเดี
ยกว่
า 150,000 คน ซึ่
งได้
เข้
าไปตั้
งรกรากในเมี
ยนมาตั้
งแต่
สมั
ย
การปกครองของอั
งกฤษ ส่
วนใหญ่
มาจากเมื
องเจนไน รั
ฐทมิ
ฬนาฑู
ของอิ
นเดี
ย
ซึ่
งพ่
อค้
าอิ
นเดี
ยกลุ่
มนี้
มี
บทบาทส�
ำคั
ญต่
อการค้
าอิ
นเดี
ย-เมี
ยนมาเป็
นอย่
างมาก
การเข้
าถึ
งพ่
อค้
ากลุ
่
มนี้
ได้
หมายถึ
งการเข้
าถึ
งตลาดอิ
นเดี
ยได้
ด้
วยปั
จจุ
บั
นการค้
า
สองฝ่
ายมี
มู
ลค่
าเฉลี่
ย 1.2 พั
นล้
านเหรี
ยญสหรั
ฐต่
อปี
ขยายตั
วเฉลี่
ยร้
อยละ 13
ต่
อปี
คาดว่
าการค้
าชายแดนจะขยายตั
วได้
อี
กมากเมื่
อมี
การค้
าข้
ามแดน
จากอิ
นเดี
ยไปยั
งCLMMVTS
พ่
อค้
าชาวเมี
ยนมาเชื้
อสายทมิ
ฬอิ
นเดี
ยที่
ส�
ำคั
ญอี
กกลุ
่
มหนึ่
งซึ่
งมี
ราว
300,000 คน กลั
บไปตั้
งรกรากอยู
่
ที่
เมื
องชายแดนโมเรห์
ในฝั
่
งของอิ
นเดี
ย
ความเป็
นมาของกลุ
่
มนี้
มี
ความน่
าสนใจ เนื่
องจากได้
อพยพกลั
บไปเมื
องเจนไน
ในปี
2505 หลั
งจากได้
มี
การปฏิ
วั
ติ
ในพม่
า แต่
ปรากฏว่
าเกิ
ดความยากล�
ำบาก
ในการปรั
บตั
วหลายอย่
าง ต่
อมาจึ
งได้
พากั
นอพยพข้
ามพรมแดนที่
โมเรห์
เพื่
อจะ
กลั
บมั
ณฑะเลย์
แต่
รั
ฐบาลพม่
ากลั
บไม่
อนุ
ญาต จึ
งได้
พากั
นตั้
งรกรากที่
เมื
อง
โมเรห์
นี้
อาศั
ยที่
รู
้
ภาษาพม่
าและมี
ญาติ
อยู
่
มั
นฑะเลย์
และอิ
นเดี
ย ส่
วนใหญ่
จึ
ง
to be completed, starts fromMoreh inManipur and ends inMae
Sot inThailand’sTakprovincevia thecityofMandalay inMyanmar.
The Indiangovernmentplans to launchanewbus route from Imphal
toMandalay inOctober 2016, which will take 14 hours to travel.
Thenew international highwayconnectingMandalay-Naypyidaw-
Yangon, which is 563 km long fromMandalay toNaypyidaw, has
also been opened recently, and will shorten transportation time
between two cities down to only 7 hours. The Thai government
has also contributed to the improvement of the 45 km-long roads
linking fromMaeSot toKawkareik towiden the road fromone lane
to two lanes, whichmakes the road traffic faster, safer, andmore
comfortable. Now the trip from Mae Sot-Myawaddy-Tha Ton-
Yangon takes only 6-7hours. In total, the travelling fromMaeSot
to India’s border will take only 28 hours.
Indian Burmese: Trade Ambassador between
Thailand-India
Mandalay isaneconomiccentral forMyanmar,andsince the ruling
of theBritishEmpire,more than150,000 Indianmerchants,mostly
from Chennai in India’s Tamil Nadu state, resided there. These
IndiandescentBurmesehavebeenplayingacrucial role for India-
Myanmar trade, and by reaching themmeans access to India.
Currently, trade between India and Myanmar is worth USD 1.2
billionper year, andgrowingaveragelyat 13%. It isexpected that
border tradesbetweenbothcountrieswillexpandenormouslywhen
India-CLMMVTS route is completed.
Another important group is Indian-Tamil descent Burmese
merchants,whichhasabout300,000people residing in India’scity
ofMoreh. Interestingly, thesegroupshave returned toChennai in
1962 after the revolution inMyanmar (then Burma), but suffered
many problems in adapting themselves into the new culture. The
immigrants then travelled to the Indianbordercity inorder to return
toMandalay,butwereprevented tocross theborderby theBurmese
regime, which forced them to settle in Moreh. Using their
advantages of knowingBurmese language and connectionswith
relatives in Mandalay and India, these merchants established
themselves as traders, carry out businesses in exporting
automobiles/parts, garment/clothes, cosmetics, medicines and
consumer goods from India to Mandalay and across Myanmar.
These two groups of merchants will play a significant role in
Thailand-India trade relations in the future.